#1. กำหนดงบประมาณ
ก็เหมือนกับการเลือกซื้อของทุกอย่าง ที่คุณจะต้องรู้ก่อนว่าคุณมีงบกี่บาท
เพราะการที่คุณไปยืนเลือกซื้อแน่นอนว่าจะต้องมีกล้องตัวที่ดีกว่า สวยกว่า
และอาจจะแพงกว่า ถ้าคุณไม่อยากกระเป๋าฉีกก็กำหนดไว้เลยว่ามีงบเท่าไร
สำหรับผู้เริ่มต้น ผมแนะนำให้มองหากล้องราคาถูก ที่มีฟังก์ชั่นมากพอ,
น้ำหนักเบา, จับถนัดมือ เมื่อคุณใช้ได้คล่องแล้ว ผมคาดว่ามันก็จะเก่าพอดี
แล้วคุณค่อยไปหาซื้อตัวใหม่ที่ดีกว่าตัวเดิม
#2. อย่าหลงเชื่อ ดิจิตอล ซูม
อย่าไปเชื่อคนขายเกี่ยวกับเรื่องของดิจิตอลซูม พูดให้เข้าใจง่ายๆ
ดิจิตอลซูมก็คือการซูมสมมุติที่ระบบดิจิตอลทำให้ ไม่ใช่ความสามารถของเลนส์
ความแตกต่างก็คือ ดิจิตอลซูม จะเป็นการซูมที่ทำให้ภาพไม่คมชัด
และอาจจะมีเม็ดสีขึ้นเต็มภาพ
เพราะฉะนั้นให้เลือกดูที่ออฟติคอลซูมที่สูงที่สุดเท่าที่งบอำนวยดีกว่า
(ยิ่งซูมได้มาก คุณก็สามารถดึงภาพเข้ามาได้ใก้ลมากขึ้น,
สามารถยืนได้ห่างจะสิ่งที่ต้องการจะถ่ายได้มากขึ้น)
#3. 2 อย่างที่ต้องพิจารณาก่อนซื้อ
นั่นก็คือ การ์ดความจุ หรือที่เรียกว่าเมม กับแบตเตอรี่
คุณคงไม่อยากจะซื้อกล้องที่ใช้การ์ดเมมที่ชาวบ้านเขาไม่นิยมใช้กันใช่มั้ย
เพราะนอกจากซื้อกล้องแล้วคุณยังจะต้องลงทุนซื้อตัวอ่านการ์ดที่ดูดข้อมูลเก็บเข้าคอมพ์อีกต่างหาก
เอาเป็นว่าผมแนะนำให้หากล้องที่ใช้ CF การ์ด ส่วนเมมโมรี่ ก็เช่นเดียวกัน
คุณคงไม่อยากจะมีที่ชาร์ตแบตแบบหลากชนิดเต็มบ้านไปหมด 2
สิ่งนี้ผมแนะนำให้ใช้แบบที่ส่วนใหญ่เขาใช้กันเพราะอนาคตถ้าคุณจะซื้อกล้องตัวใหม่
คุณก็จะสามารถนำ 2 อย่างนี้ไปใช้ต่อได้
#4. อย่าดูที่ขนาดของกล้องเพียงอย่างเดียว
ต้องบอกว่ากล้องดิจิตอลสมัยนี้ จิ๋วแต่แจ๋ว
แม้จะเครื่องเล็กแต่คุณสมบัติไม่แพ้กล้องระดับมืออาชีพ แต่ก็นั่นแหละ
สาระสำคัญคือ ต้องดูว่ามันเหมาะมือคุณหรือเปล่า น้ำหนักสิ่งมีผลต่อการพกพา
คุณอาจจะไม่ต้องการกล้องที่เล็กที่สุด
แต่คุณต้องการกล้องที่เหมาะมือต่างหาก
#5. ระวังโปรโมชั่น
กล้องที่มาพร้อมกับโปรโมชั่น แถมนู่น นี่นั่น มีการ์ดให้ พร้อมขาตั้ง
มีกระเป๋า สารพัด มันก็ดีอยู่หรอก แต่อย่าลืมมองที่คุณภาพของกล้อง
ของภาพที่จะออกมาด้วย อย่าลืมว่าคุณจะซื้อกล้องไม่ได้ซื้อโปรโมชั่น
#6. ตรวจสอบความสามารถในการซูมให้แน่ใจ
บางทีคุณอาจจะเคยเห็นโฆษณาบอกว่ากล้องนี้ซูมได้ 10x (10 เท่า)
เห็นอย่างนี้แล้วคุณก็ต้องถามให้แน่ว่า 10x เนี่ยออพติคอลซูมกี่x และ
ดิจิตอลซูมกี่x เพราะที่บอกว่า 10x เนี่ยมักจะเอาสองอย่างนี้มารวมกัน
ฉะนั้นให้คุณสนใจที่ออพติคอลซูมเลือกที่มากที่สุดเท่าที่มีงบ
ไม่ต้องไปสนใจที่ดิจิตอลซูม
#7. ดูภาพตัวอย่างก่อนซื้อ จะทำให้เราทราบว่ากล้องตัวนี้ถ่ายภาพได้คมชัดแค่ไหน
ข้อดีของกล้องดิจิตอลก็คือมันสามารถพรีวิวภาพที่ถ่ายได้ในช่องมองภาพ LCD
ตรงนี้ที่คุณต้องดูว่ามันใหญ่พอสำหรับคุณหรือเปล่า
(ยิ่งใหญ่มากก็เปลืองแบต) และสามารถขยายภาพดูได้หรือเปล่า ขยายดูสัก 100%
เพื่อจะได้เช็คได้ว่ากล้องถ่ายได้ชัดเท่าที่ต้องการหรือเปล่า
#8. มีไมโครโฟนในตัวหรือเปล่า
อย่าทำหน้าสงสัยว่าจะเอาไปทำไม ก็ในเมื่อซื้อกล้องไปถ่ายภาพนิ่ง
สิ่งนี้เป็นสิ่งที่หลายคนมองข้ามถึงประโยชน์ของมัน 2 ประการ คือ
คุณสามารถใช้กล้องบันทึกเสียงได้ และ สามารถบันทึกภาพวิดีโอสั้นๆ ได้
#9. ปริมาณพิกเซลที่แท้จริง
ถ้ากล้องที่คุณสนใจบอกว่ามี 10 megapixel และใช้เทคโนโลยี Foveon x3
ให้เอา 3 หาร 10 นั่นแปลว่ากล้องตัวนั้นมีพิกเซลที่แท้จริงเพียง 3.3
megapixel เพราะ เทคโนโลยี Foveon x3 คือการจำลองพิกเซล
#10. ความจุภาพ
เมื่อตัดสินใจซื้อกล้องแล้วก็เตรียมเงินซื้อการ์ดแมมไว้ด้วยเลย เพราะยังไงที่เขาแถมมาก็มักจะไม่ค่อยพอกับความต้องการอยู่แล้ว
#11. มีโปรแกรมถ่ายภาพกลางคืน
มีกล้องเป็นของตัวเองแล้ว
จะอย่างไรก็คงต้องมีโอกาสได้ถ่ายภาพในสภาพแสงน้อย หรือถ่ายตอนกลางคืนแน่ๆ
เพราะฉะนั้นก็ดูเลยว่ากล้องตัวที่สนใจมี ISO สูงสุดเท่าไร (สูงไว้ก่อนดี
เพราะยิ่งมืดก็ยิ่งต้องใข ISO สูงๆ), มีระบบป้องกันภาพสั่นไหวหรือเปล่า,
มีโหมดถ่ายภาพกลางคืนให้มั้ย
#12. อย่าไปยึดติดกับเมก้าพิกเซล
ยิ่งเทคโนโลยีพัฒนาขึ้น กล้องก็โฆษณาว่ามีจำนวนเมก้าพิกเซลมากขึ้น
ทั้งที่ในความเป็นจริงมีจำนวนเมก้าพิกเซลเยอะๆ ก็ใช่ว่าคุณจะได้ภาพที่ชัด
และยิ่งถ้าคุณแค่จะถ่ายภาพแล้วอัดรูปแค่ไม่กี่นิ้ว
ก็ไม่เห็นจำเป็นต้องใช้เมก้าพิกเซลสูงๆ ลองพิจารณาสิ่งอื่นๆ ด้วยเช่น
ความเร็วสูงสุด-ต่ำสุดของชัตเตอร์ (ถ่ายได้ฉับไว เช่น ถ่ายภาพคนวิ่ง),
ระยะเวลาการเปิดกล้อง ใช้เวลานานเท่าไรถึงจะถ่ายได้,
#13. เผื่อเงินไว้ด้วย เพราะบางทีอาจจะไม่ใช่แค่กล้องที่ต้องซื้อ
เมื่อมีกล้องก็ต้องมีเมมการ์ดไว้เก็บภาพ,
ต้องมีการ์ดรีดเดอร์เอาไว้ดูดภาพจากกล้องเก็บเข้าคอมพ์,
มีที่ชาร์ตแบตกล้อง, กระเป๋ากล้อง, ขาตั้ง
บางทีอาจจะต้องเพิ่มฮาร์ดดิสก์คอมพ์ด้วยซ้ำ
ยังไงถ้าต้องซื้อก็ซื้อพร้อมกันกับกล้องรวดเดียวเลย
จะได้ต่อรองได้ราคาพิเศษ
#14. ระวังของถูก
ใครๆ ก็อยากได้ของถูก นอกจากผมจะเตือนให้ระวังโปรโมชั่นล่อใจแล้ว
แนะนำให้หาซื้อในร้านค้าที่เราไว้ใจ หรือคุ้นเคย
เพราะจะได้ไม่ถูกหลอกย้อมแมวขายแล้ว
ยังอุ่นใจเรื่องบริการหลังการขายได้อีกด้วย
#15. โปรแกรมถ่ายอัตโนมัติ
โหมดถ่ายภาพอัตโนมัติ อาทิ ถ่ายกลางคืน, ถ่ายภาพบุคคล, ถ่ายภาพกีฬา,
ถ่ายพลุ ฯลฯ เหล่านี้ต้องมี เพราะจะทำให้การถ่ายภาพของคุณสะดวก และสนุกขึ้น
#16. มีแฟลชในตัวหรือเปล่า
มันเป็นอุปกรณ์พื้นฐาน เพราะฉะนั้นควรจะเลือกที่มีแฟลชในตัว ไม่งั้นจะถ่ายภาพกลางคืนได้ไง
#17. กล้องเก่าอย่าทิ้ง
ได้ใหม่อย่าลืมเก่า ของเก่ามีประโยชน์ ลองเอาไปให้ พ่อแม่ญาติพี่น้องใช้,
เก็บไว้ใช้ในกรณีที่ตัวใหม่มีปัญหา, เอาไปบริจาค(ได้บุญ)
หรือไม่ก็เอาไปเทิร์นเปลี่ยนเป็นเมมการ์ด ฯลฯ
#18. ออฟติคอล ซูมเท่าไรถึงจะพอ
สงสัยใช่มั้ยว่าตกลงจะเลือกซื้อกล้องที่มีจำนวน ออพติคอลซูมเท่าไรถึงจะพอ
ผมมีข้อแนะนำ ถ้าคุณจะเอาไปใช้ถ่ายคนเป็นหลัก เช่น ถ่ายเพื่อนๆ
ในงานปาร์ตี้ เลือกซื้อสัก 2x, 3x ก็พอ แต่ถ้าเน้นถ่าย outdoor ถ่ายวิว
ถ่ายตึกก็ต้อง 5x ขึ้น
แต่ถ้าต้องการใช้ถ่ายภาพที่เคลื่อนไหวที่ความเร็วสูง เช่น ถ่ายภาพคนวิ่ง
รถแล่น สัตว์วิ่ง ก็ต้อง 7x ขึ้นไป อย่าลืมนะครับว่าต้องดูที่
ออพติคอลซูมเท่านั้น
#19. มีช่องต่อขาตั้งกล้องหรือเปล่า
เผื่อว่าคุณจะต้องตั้งกล้องภ่ายภาพ เช่น ตั้งเวลาถ่าย, ตั้งถ่ายพลุ แต่คุณไม่ช่องสำหรับต่อขาตั้งกล้องแล้วจะทำอย่างไร
#20. ลองเปรียบเทียบราคาในเนตดูก่อนซื้อ
เป็นอีกหนทางหนึ่งสำหรับคนฉลาดซื้อ
ขยันเข้าอินเตอร์เนตเช็คราคาร้านนู้นร้านนี้ ก่อนจะตัดสินใจซื้อ
หรือเดินเล่นดูหลายๆ ร้าน ถามราคาก่อนเลือกซื้อ
#21. ลองอ่านรีวิว ที่เขาแนะนำดูด้วย
ทั้งในเนต และนิตยสารเกี่ยวกับกล้องทุกฉบับ
มีการรีวิวทดสอบกล้องให้คุณได้เลือกอ่านอยู่แล้ว ลองอ่านดูเสียหน่อย
แม้ว่าจะมีศัพท์เทคนิค ที่ไม่เห็นจะรู้เรื่อง แต่ก็เอาเถอะ
เผื่อว่ามันจะมีข้อมูลที่คุณพอจะเข้าใช้แล้วนำไปใช้ในการตัดสินใจซื้อ
22. ยิ่งมีเมก้าพิกเซลเท่าไรก็ยิ่งดี?
ผมแนะนำไปว่าเมก้าพิกเซลไม่ใช่สิ่งสำคัญในการเลือกซื้อกล้อง
มีมากไปก็ราคาแพง ซึ่งก็ไม่ได้ใช้ ถ้าคุณต้องการซื้อกล้องแล้วนำมา print
รูปขนาด 8x10 ผมฟันธงเลยว่าคุณหากล้องสัก 5 megapixel ก็พอ
มากกว่านี้ถือว่าไม่จำเป็น น้อยกว่านี้ก็จะได้คุณภาพรูปที่ไม่เพียงพอ
#23. ยิ่งมีฟังก์ชั่นมากเท่าไรยิ่งดี?
สำหรับมือใหม่มากๆ ลองมองหากล้องที่มีฟังก์ชั่น full control
หรือโหมดอัตโนมัติแบบที่คุณกดชัตเตอร์อย่างเดียว
คำนวนทุกอย่างให้เสร็จสรรพ
อย่าลืมหาที่ไวท์บาลานซ์และไอเอสโอเป็นออโต้ด้วย
จะทำให้ถ่ายง่ายขึ้นอีกเยอะ
#24. กันน้ำได้มั้ย
คงจะไม่ได้หมายถึงเอากล้องไปถ่ายใต้น้ำหรอก แต่เผื่อว่ามันจะหลุดมือพลัดตกน้ำ หรือตากฝน
#25. มี iso ต่ำสุด สูงสุด เท่าไร
ไอเอสโอ สูงๆ ทำให้คุณถ่ายภาพในสภาพแสงน้อยได้ดี
แต่มันก็ทำให้ภาพเำิกิดน้อยซ์ noise คือภาพเป็นเม็ดสีเล็กๆๆๆ กลับกัน
ไอเอสโอต่ำๆ ก็ใช่ว่าจะไม่มีประโยชน์ มันจะทำให้ภาพของคุณชัดใสมากขึ้น
ลองมองหาไอเอสโอสัก 50 และใช้ถ่ายในที่แสงจัดๆ จะได้ภาพที่ชัดสวยมาก