*/
<< | ธันวาคม 2020 | >> | ||||
อา | จ | อ | พ | พฤ | ศ | ส |
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | ||
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | 29 | 30 | 31 |
ปราสาทเมืองต่ำ ..ความงดงามบนความแข็งกระด้างของแผ่นศิลา @ บุรีรัมย์ าทเมืองต่ำ ... เป็นศาสนสถานที่ก่อด้วยอิฐ ในศิลปะแบบขอมบาปวน ตั้งอยู่ ณ พื้นราบเบื้องล่างของเขาพนมรุ้ง สร้างร่วมสมัยกับปราสาทพนมรุ้ง คือในราว พุทธศตวรรษที่ 16 –17 (พ.ศ. 1510-1630) หรือราวพุทธศตวรรษที่ 16-17 (กรมศิลปากร 2536:127-130) สร้างตามคติศาสนาฮินดูลัทธิไศวนิกาย เพื่อเป็นศาสนสถานของชุมชนเพื่อประกอบพิธีกรรมถวายพระศิวะ เพราะพบศิวลึงค์ขนาดใหญ่ที่ปราสาทประธาน และมีภาพพระศิวะและพระอุมาที่ทับหลังของปราสาทแถวหน้าด้านทิศเหนือ จากจารึกที่พบบริเวณโคปุระชั้นนอก มีข้อความตอนหนึ่งกล่าวถึงเทพสององค์ที่สถิตอยู่ที่ปราสาทแห่งนี้ ซึ่งมีหน้าที่พิทักษ์แหล่งน้ำและพืชพันธุ์ธัญญาหารของชุมชน แสดงให้เห็นว่าปราสาทเมืองต่ำมีความสำคัญต่อการดำเนินชีวิตของผู้คนแถบนี้ กำแพงแก้วและซุ้มประตูของปราสาทเมืองต่ำ เป็นหินทราย ส่วนกำแพงด้านนอกเป็นศิลาแลง ปราสาทหินแห่งนี้มีการวางผังที่แฝงความหมายตามคติการสร้างศาสนสถานขอมที่เกี่ยวกับความเชื่อ ในเรื่องแกนกลางของจักรวาลอันสัมพันธ์กับความเป็นศาสนสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ โดยมีปราสาททั้ง 5 หลังที่ยกพื้นขึ้นเป็นศูนย์กลาง เปรียบดังเขาพระสุเมรุ ซึ่งเป็นศูนย์กลางของชมพูทวีป ที่เป็นศูนย์กลางแห่งจักรวาลและเป็นที่สถิตของเหล่าเทพยาดาตามคติโบราณ เนินปราสาทเป็นรูปสี่เหลี่ยม มีสระน้ำล้อมรอบ ... เปรียบดั่งมหาสมุทรที่ล้อมรอบเขาพระ ลักษณะสถาปัตยกรรมของปราสาทเมืองต่ำด้านในนั้น ได้รับการก่อสร้างด้วยฝีมือช่างในระดับช่างหลวง ไม่ด้อยกว่าปราสาทพนมรุ้งเลย ความโดดเด่นของปราสาทเมืองต่ำ คือ มีการจำหลักส่วนต่างๆด้วยลวดลายอันประณีต สวยงาม น่าหลงใหล ซึ่งลายจำหลักส่วนใหญ่ มีทั้งลวดลายพรรณพฤกษาที่กรอบประตูหน้าบัน ทับหลังของโคปุระของกำแพงชั้นนอก และลวดลายที่เป็นเรื่องราวที่เกี่ยวกับเทพเจ้าในศาสนาพราหมณ์และฮินดู ซึ่งปรากฏอยู่ตามหน้าบันและทับหลังของซุ้มประตูและปราสาท ปราสาทเมืองต่ำ ประกอบด้วยสิ่งก่อสร้างหลัก คือ กลุ่มปราสาททั้งห้า กลุ่มปราสาททั้งห้า … เรียงเป็น 2 แถว แถวหน้า 3 องค์ แถวหลัง 2 องค์ ตั้งอยู่บนฐานชั้นเดียว แผนผังของปรางค์เป็นรูปสี่เหลี่ยมจตุรัส ตัวปรางค์ก่อด้วยอิฐขัดเรียบ .. ประกอบด้วยปรางค์ประธาน ซึ่งพังทลายลงมาเหลือเพียงส่วนฐาน ส่วนปราสาทบริวารที่เหลืออีกสี่องค์ได้รับการบูรณะแล้ว แต่ละองค์มีทางเข้าเฉพาะด้านทิศตะวันออก ส่วนอีกสามด้านจำหลักลายเป็นประตูหลอก ประตูทางเข้าตกแต่งด้วยเสาประดับกรอบประตูรูปแปดเหลี่ยมจำหลักลาย เรือนธาตุหรือส่วนกลางของปราสาทก่อทึบ มีรายละเอียดดังนี้ ปรางค์ประธาน มีขนาดใหญ่กว่าปรางค์บริวารอีก 4 องค์ ตั้งอยู่ตรงกลางเยื้องมาข้างหน้าเล็กน้อย ระหว่างปรางค์บริวารทั้งสอง ทับหลังเป็นหินทราย จำหลักภาพเทวะนั่งยกเข่าซ้ายอยู่บนแท่นเหนือเศียรเกียติมุข ส่วนบนของทับหลังจำหลักภาพฤาษีนั่งประนมมือเป็นแถว จำนวน 7 ตน ปัจจุบันพังทลายเหลือเพียงส่วนฐาน การขุดแต่งบริเวณปรางค์ประธานได้พบทับหลังประตูมุขปรางค์ สลักเป็นภาพเทพถือดอกบัวขาบประทับนั่งเหนือหน้ากาล แวดล้อมด้วยสตรีเป็นบริวาร หน้าบันสลักภาพพระอินทร์ทรงช้างเอราวัณ ส่วนทับหลังประตูปรางค์สลักเป็นเทพนั่งชันเข่าเหนือหน้ากาล และยังได้พบชิ้นส่วนลวดลายปูนปั้นประดับฐานอีกด้วย แสดงว่าปรางค์เหล่านี้ได้เคยมีปูนฉาบและปั้นปูนเป็นลวดลายประดับตกแต่งอย่างงดงาม - ปราสาทแถวหน้าด้านทิศเหนือ เป็นอาคารรูปสี่เหลี่ยม ขนาดประมาณ 5 x 5 ม. มีประตูทางด้านทิศตะวันออก เหนือประตูทางเข้ามีทับหลังหินทรายจำหลักภาพพระอิศวรทรงโคนนทิ พระหัตถ์ซ้ายอุ้มนางปราพตี พระหัตถ์ขวาทรงตรีศูลโคนนทีนี้ยืนอยู่บนแท่นเหนือเศียรเกียรติมุขซึ่งคายท่อนพวงมาลัย ขอบบนสุดจำหลักภาพฤาษีนั่งรัดเข่าประนมมือ จำนวน 10 ตน ถัดขึ้นไปจากส่วนเรือนธาตุเป็นยอดปราสาทซึ่งทำซ้อนกันขึ้นไปห้าชั้น แต่หักพังไปเหลือเพียงสามชั้นเท่านั้น - ปราสาทแถวหน้าด้านทิศใต้ มีลักษณะเหมือนกับปราสาท ทางทิศเหนือ มีประตูทางด้านทิศตะวันออก ทับหลังหินทราย จำหลักภาพเทวะนั่งชันเข่าขวาอยู่เหนือเศียรเกียรติมุข ซึ่งคายท่อนพวงมาลัยออกมาทั้งสองข้าง ขอบบนของทับหลังจำหลักภาพฤาษีนั่งชันเข่าจำนวน 9 ตนอยู่ภายในซุ้ม ส่วนยอดปราสาทเหลือเพียงสามชั้นเช่นเดียวกัน - ปราสาทแถวหลังด้านทิศเหนือ มีลักษณะคล้ายปราสาทแถวหน้า ภายในห้องเรือนธาตุมีฐานของรูปเคารพเป็นหินทรายรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส ทับหลังจำหลักเป็นรูปพระกฤษณะยกเขาโควรรธนะ - ปราสาทแถวหลังด้านทิศใต้ ประตูอยู่ทางด้านทิศตะวันออก ทับหลังหินทรายจำหลักภาพพระอรุณทรงหงส์ประทับอยู่ด้านบน อยู่เหนือเศียรเกียรติมุขที่กำลังคายท่อนพวงมาลัยออกมาทั้งสองด้าน บริเวณลานด้านหลังของปราสาทแถวหลัง มีชิ้นส่วนของบัวยอดปราสาทตั้งไว้บนศิลาแลง บัวยอดนี้ทำจากหินทราย จำหลักเป็นรูปบัวกลุ่มสามชั้น ทว่าไม่ได้ยกขึ้นติดตั้งไว้บนปราสาท เพราะยอดปราสาทแต่ละองค์ได้หักพังไปแล้ว ประติมากรรมที่เห็นในรูปเรียกว่า กลศ อ่านว่า กะ-ละ-สะ หมายถึง หม้อน้ำมนต์ ที่มองเห็นในภาพนี้ ส่วนบนชำรุดเสียหายไปแล้ว กลึงและสลักรายละเอียดเพิ่มเติมเป็นรูปดอกบัวบาน ซ้อนลดหลั่น รูปดอกบัว หรือชุดบัวบานในทรงคลุ่มนี้ นักวิชาการชาวฝรั่งเศสเรียกตามคำศัพท์จากต้นแบบคือศิลปะอินเดียโบราณ ว่า “kalasa” โคปุระและระเบียงคดชั้นนอก ตั้งอยู่รอบนอกห่างจากสระน้ำประมาณ 10 เมตร เป็นกำแพงล้อมรอบปราสาทชั้นใน ก่อด้วยศิลาแลงเป็นรูปสี่เหลี่ยม กึ่งกลางของกำแพงแต่ละด้านมีซุ้มประตูหรือโคปุระ ตรงมุมกำแพงด้านตะวันออกและตะวันตกทำเป็นซุ้มประตูขนาดเล็ก ตกแต่งด้วยทับหลังและเสาติดผนังจำหลักลาย บนสันกำแพงเซาะเป็นรางตื้น ๆ สำหรับวางท่อหินสี่เหลี่ยมสี่ด้านทำเป็นซุ้มประตูจตุรมุข มีประตูด้านละ 3 ช่องมุงหลังคาด้วยหินทรายโค้งเป็นรูปประทุนเรือ ทับหลังหินทรายเหนือประตูของซุ้มประตูด้านทิศตะวันออกซึ่กกลางหน้าบันจำหลักเป็นรูปหน้ากาล มีเทพนั่งชันเข่าอยู่ด้านบน อยู่เหนือเศียรเกียรติมุข ส่วนตรงปลายทำเป็นรูปนาคห้าเศียรคายพวงอุบะ มีทับหลังซึ่งทำเป็นรูปหน้ากาลเช่นกัน โดยเชื่อว่าสามารถป้องกันสิ่งชั่วร้ายมิให้เข้าสู่ศาสนสถานได้ ส่วนโคปุระทางด้านใน (ด้านที่หันเข้ากลุ่มปราสาท) มีหน้าบันจำหลักเป็นลายพรรณพฤกษา ตรงกลางคือรูปหน้ากาลอยู่ใต้รูปสิงห์ มีช้างยืนขนาบข้าง และภาพพระกฤษณะปราบนาคกาลียะ ซุ้มประตูด้านทิศตะวันตกมีร่องรอยแสดงว่ายังตกแต่งลวดลายไม่เสร็จ ระหว่างประตูทั้ง 3 ช่อง เป็นหน้าต่างหลอกติดลูกกรงลูกมะหวดเลียบกำแพงศิลาแลง มีทางเท้าปูด้วยก้อนศิลาแลง ขนาดกว้าง 1 เมตรรอบทุกด้าน ซุ้มประตูด้านทิศเหนือและทิศใต้มีประตูเดียว ปีกทั้งสองข้างทำเป็นหน้าต่าง และตกแต่งลวดลายจำหลักเช่นกันหากเดินผ่านซุ้มประตูกลางของประตูด้านตะวันออกเข้าสู่โถงชั้นใน จะเห็นว่าที่พื้นติดกับขอบประตูมีการจำหลักลายคล้ายรูปปีกกา และที่พื้นกลางห้องโถงของโคปุระจำหลักเป็นรูปดอกบัวแปดกลีบ แสดงถึงความศักดิ์สิทธิ์ของสถานที่แห่งนี้ สระหัวนาค เมื่อผ่านโคปุระชั้นนอกเข้ามาจะพบกับสระน้ำรูปตัวแอล (L) ที่มีน้ำขังอยู่ตลอดปี ตั้งอยู่ที่ลานปราสาท สระน้ำทั้ง 4 ขอบสระกรุด้วยศิลาแลง กรุพื้นสระด้วยหินทรายซ้อนเป็นชั้น ๆ ปากผายก้นสอบลงไปจนถึงพื้นดินเดิม มุมสระประดับด้วยนาคห้าเศียรทำด้วยหินทราย เป็นนาค ๕ เศียรเกลี้ยง ๆ ไม่มีกระบัง หรือเครื่องประดับศีรษะ หรือลวดลายประดับหัว ซึ่งเป็นศิลปะในยุคเดียวกับที่เห็นที่ปราสาทพระวิหาร เรียกกันว่า “นาคหัวลิง” ตรงขอบสระทำเป็นลำตัวนาคทอดหางยาวไปบรรจบกันตรงกลาง สองข้างบาทวิถี ระหว่างซุ้มประตูระเบียงคดกับซุ้มประตูกำแพงทุกด้านมีบันไดลงสู่สระน้ำอยู่ทั้งสองข้างทาง เหนือบันไดทำเป็นเสาซุ้มประตูทั้งสองข้างปัจจุบันล้มลงทั้งหมด สันนิษฐานว่าสระน้ำนี้ใช้สำหรับประกอบพิธีกรรม และมีบทบาทสำคัญต่อความอุดมสมบูรณ์โดยรอบศาสนสถาน บรรณาลัย มีสองหลังอยู่บริเวณลานชั้นใน เป็นซากอาคารยกพื้นเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า หันหน้าเข้าหากลุ่มปราสาท สันนิษฐานว่าเป็นที่เก็บคัมภีร์ ปัจจุบันยังเหลือส่วนประกอบของอาคาร คือส่วนฐานอาคาร กรอบหน้าต่าง กรอบประตู เสาประดับ และทับหลังจำหลักลายงเป็นทางเข้าหลัก ตกแต่งไว้อย่างสมบูรณ์และสวยงามที่สุด ความโดดเด่นของปราสาทเมืองต่ำ อยู่ที่สถาปัตยกรรมและศิลปะที่สวยงามของโบราณสถาน และลายจำหลักที่อ่อนช้อย มีชีวิตชีวา ... ความงดงามบนความแข็งกระด้างของแผ่นศิลา Ref : http://oknation.nationtv.tv/blog/supawan/2008/09/17/entry-1 |
ถึง บล็อกเกอร์ ทุกท่าน โปรดอ่าน
ด้วยทาง บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ได้ติดต่อขอความร่วมมือ มายังเว็บไซต์และเว็บบล็อกต่าง ๆ รวมไปถึงเว็บบล็อก OKnation
ห้ามให้มีการเผยแพร่ผลงานอันมีลิขสิทธิ์ ของบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ บนเว็บ blog โดยกำหนดขอบเขตของสิ่งที่ห้ามทำ และสามารถทำได้ ดังนี้
ห้ามทำ - การใส่ผลงานเพลงต้นฉบับให้ฟัง ทั้งแบบควบคุมเพลงได้ หรือซ่อนเป็นพื้นหลัง และทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือ copy code คนอื่นมาใช้ - การเผยแพร่ file ให้ download ทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือฝากไว้ server คนอื่น สามารถทำได้ - เผยแพร่เนื้อเพลง ต้องระบุชื่อเพลงและชื่อผู้ร้องให้ชัดเจน - การใส่เพลงที่ร้องไว้เอง ต้องระบุชื่อผู้ร้องต้นฉบับให้ชัดเจน จึงเรียนมาเพื่อโปรดปฎิบัติตาม มิเช่นนั้นทางบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ จะให้ฝ่ายดูแลลิขสิทธิ์ ดำเนินการเอาผิดกับท่านตามกฎหมายละเมิดลิขสิทธิ์
OKNATION
กฎกติกาการเขียนเรื่องและแสดงความคิดเห็น
1 การเขียน หรือแสดงความคิดเห็นใด ๆ ต้องไม่หมิ่นเหม่ หรือกระทบต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ หรือกระทบต่อความมั่นคงของชาติ
2. ไม่ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่นในทางเสียหาย หรือสร้างความแตกแยกในสังคม กับทั้งไม่มีภาพ วิดีโอคลิป หรือถ้อยคำลามก อนาจาร 3. ความขัดแย้งส่วนตัวที่เกิดจากการเขียนเรื่อง แสดงความคิดเห็น หรือในกล่องรับส่งข้อความ (หลังไมค์) ต้องไม่นำมาโพสหรือขยายความต่อในบล็อก และการโพสเรื่องส่วนตัว และการแสดงความคิดเห็น ต้องใช้ภาษาที่สุภาพเท่านั้น 4. พิจารณาเนื้อหาที่จะโพสก่อนเผยแพร่ให้รอบคอบ ว่าจะไม่เป็นการละเมิดกฎหมายใดใด และปิดคอมเมนต์หากจำเป็นโดยเฉพาะเรื่องที่มีเนื้อหาพาดพิงสถาบัน 5.การนำเรื่อง ภาพ หรือคลิปวิดีโอ ที่มิใช่ของตนเองมาลงในบล็อก ควรอ้างอิงแหล่งที่มา และ หลีกเลี่ยงการเผยแพร่สิ่งที่ละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบหรือวิธีการใดก็ตาม 6. เนื้อหาและความคิดเห็นในบล็อก ไม่เกี่ยวข้องกับทีมงานผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซต์ โดยถือเป็นความรับผิดชอบทางกฎหมายเป็นการส่วนตัวของสมาชิก คลิ้กอ่านเงื่อนไขทั้งหมดที่นี่"
OKnation ขอสงวนสิทธิ์ในการปิดบล็อก ลบเนื้อหาและความคิดเห็น ที่ขัดต่อความดังกล่าวข้างต้น โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของบล็อกและเจ้าของความคิดเห็นนั้นๆ
|
||
![]() ![]() |