ผมเองก็พันธมิตรคนหนึ่งนะครับ

แต่มิได้เห็นด้วยกับการเคลื่อนใหว

ของแกนนำบางคนในช่วงนี้

เน้นว่าบางคนครับ

เพราะไม่ได้เป็นฉันทามติ

โดยรวมของพันธมิตร  ตามที่ลุงจำลองอ้าง

ท่านอาจดูได้จากปริมาณผู้เข้าร่วมชุมนุม

และแกนนำสำคัญ  หลายคนๆ

ที่ไม่ได้อยู่ที่ทำเนียบตอนนี้

เป็นเหตุผลสนับสนุนได้ว่า

ตอนนี้แนวร่วมพันธมิตรเดิม มิได้เห็นด้วย

กับการเคลื่อนใหวที่เกิดขึ้นข้างทำเนียบตอนนี้

.

ผมว่า โดยส่วนใหญ่ ทุกคนอยากให้ชาติสงบ

อยากใช้ชีวิตปกติ   อยากทำมาหากิน..บ้าง

หลังจากที่เราเพิ่งผ่านความวิกฤติครั้งใหญ่มา

.

ครับ.... ถูกครับ.... ท่านมีสิทธิ์

จะเรียกร้อง อะไรก็ได้ ตามที่ท่านไม่เห็นด้วย

แต่สิทธิ์ของพวกผมล่ะ ไปอยู่ที่ใหน

ผมเดินท่านทางรถ ก็ต้องหลบท่าน

ผมจะทำมาหากิน ท่านก็มาปิดถนนหนทาง

ใหนจะความเสี่ยงหากมีการปะทะกันกับรัฐ

แล้ว ท่านดึงมวลชนไปยึดสถานที่ต่างๆ

แล้วการบริหารงานชาติ

และภาพลักษณ์ของชาติ   จะเสียหายอีก

ทำอย่างนี้แล้วมันก็ไม่ต่างอะไร

กับพวกที่ราชประสงค์เลย...

.

ที่ผ่านมาสมัยขับไล่หน้าเหลี่ยม ,ชายกระโปรง, หมัก

ผมก็ไปร่วมกับท่านในทุกๆที่

ทั้งๆที่รู้มันทำให้ชาติเสียหาย ผมก็ไป

และผมเองก็ไม่อยากกระทำเช่นนั้นอีกแล้ว

.

และ..ขอเถิด อย่ามาด่าว่า

คนส่วนใหญ่ ตอนนี้ เขาไม่ได้เห็นด้วยกับท่าน

อย่าไปใส่ร้าย หาว่าเขา "ไม่รักชาติ "

หรือ  ถ้าส่วนบริหาร   หรือนายกรัฐมนตรี

คิดไม่เหมือนท่าน

ท่านก็ไม่มีสิทธิ์ไปบิดเบือนข้อเท็จจริง

ด่าเขาเหมือนหมูเหมือนหมา

หาว่าเขา "ขายชาติ" บ้าง "ไก่อ่อน" หรือ "โง่" บ้าง

โอ้โฮ... ถ้าคนที่พาชาติผ่านวิกฤติ

ในช่วงเผาบ้านเผาเมืองมา

ได้ถูกท่านกล่าวหาว่าโง่เสียแล้ว

เห็นที ชั่วชีวิตของประชาชนชาวไทยอย่างเรา

คงไม่มีโอกาสเห็น "คนฉลาด" เสียแล้วกระมัง

หรือ...  แกนนำพันธมิตรเท่านั้น

ที่ฉลาดและถูกต้องที่สุด

.

ไม่มีประเทศใดหรอกครับ

ที่ชายแดนติดกันกับประเทศอื่นแล้วไม่มีปัญหา

แต่เขาก็ต้องพยายามแสวงหาประโยชน์

จากดินแดนที่มีปัญหาร่วมกันให้ได้

มันดีกว่ารบกันเป็นใหนๆ

อย่ามาพูดครับ เรื่องกลัว เรื่องอ่อนน่ะ

ไม่มีใครกลัวหรอกครับ

แต่...หากรบกันจริง

ฝ่ายที่เศรษฐกิจใหญ่กว่าอย่างเราสิ

จะเสียหายมากกว่า

ใหนจะงบประมาณที่ใช้ในการรบ

แล้วภาพลักษณ์ของประเทศเรา ที่เจริญกว่า

ก็จะถูกมองว่าไปรังแกเขา..

.

หยุดเถิดท่านพันธมิตรผู้ร่วมชาติทั้งหลาย

การกระทำของท่านนั้น

มันมิได้แสดงถึงความเป็นคนใจกว้างเลย

ให้คนที่เขาคิดต่างกับท่าน ได้ใช้สิทธิ์

ได้บริหารประเทศไปตามแนวทางของเขา

และได้โปรด....กรุณาให้พวกผม

ซึ่งก็มีสิทธิ์ในฐานะประชาชนเท่าเทียมกับท่าน

ได้ใช้ชีวิตปกติ จะได้ใหม

เพราะ   ทุกวันนี้...หากมองไป....

จะหาใครเพียบพร้อม

และถูกใจพันธมิตรไปเสียทั้งหมดนี้

หามี  มิได้เลย .....

.

ท้ายนี้...ขอฝากพระราชดำรัสของพ่อของเรา

เมื่อ ๔ ธันวาคม ๒๕๓๖ไว้เตือนใจครับ

“... สามัคคีหรือการปรองดองกัน

ไม่ได้หมายความว่าคนหนึ่งพูดอย่างหนึ่ง

คนอื่นต้องพูดเหมือนกันหมด

ลงท้ายชีวิตก็ไม่มีความหมาย

ต้องมีความแตกต่างกัน

แต่ต้องทำงานให้สอดคล้องกัน

แม้จะขัดกันบ้าง แต่ต้องสอดคล้องกัน...”

.

หวังว่าแกนนำบางท่านที่เย้วๆกันอยู่ตอนนี้

ที่แสดงออกชัดเจนว่า

คนอื่นคิดต่างกับท่าน  คือ.. ผิดหมดนั้น

จะได้ฟังคำพ่อ  และนำไปตรึกตรองดูบ้างครับ