รายงานเศรษฐกิจรายไตรมาส ฉบับที่ 51/2559 แนวโน้มเศรษฐกิจไทยในไตรมาสสุดท้ายของปี 2559 บริษัท ไทยวิจัยและฝึกอบรม จำกัด 26 ตุลาคม 2559 หากพิจารณาเพียงแค่ตัวเลขอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ อาจด่วนสรุปได้ว่าเศรษฐกิจไทยได้ผ่านจุดต่ำสุดและกำลังฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง ด้วยเศรษฐกิจไทยได้ขยายตัว 4 ไตรมาสติดต่อกัน โดยเฉพาะในไตรมาสที่ 2 ของปี 2559 มีอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจสูงถึง 3.5 % (ตารางที่ 1) แต่ตัวเลขอัตราการขยายตัวของ GDP กลับไม่สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจจริง เช่น การคุมเข้มการขยายตัวของสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของหนี้เสีย (NPL) การสำรวจของมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยที่พบว่าแรงงาน 95.6% มีภาระหนี้สินสูงที่สุดในรอบ 8 ปี ตัวเลขการจดทะเบียนการจัดตั้งบริษัทใหม่ที่ลดลง 3% การเลิกกิจการและการปลด/ลดแรงงานของบริษัทขนาดใหญ่ ฯลฯ
ตารางที่ 1: เครื่องชี้วัดกิจกรรมหลักทางเศรษฐกิจ
แต่หากพิจารณาตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญอื่นประกอบ (ตารางที่ 1) เช่น การผลิต การลงทุน การนำเข้า และการใช้จ่ายในระบบเศรษฐกิจแล้ว จะพบว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจมิได้ขยายตัวตามตัวเลขภาพรวมของ GDP ด้วยเศรษฐกิจที่กำลังฟื้นตัวควรจะต้องมีการผลิตหรือการนำเข้าสินค้าและบริการเพิ่มขึ้นเพื่อรองรับการบริโภคและการลงทุนที่มากับการขยายตัวของเศรษฐกิจในภาพรวม แต่ภาคการผลิตของประเทศกลับมิได้มีการขยายการผลิตเพิ่มขึ้น โดยดูได้จากดัชนีการผลิต (Production Index) ที่มิได้ขยายตัวถึง 3 ไตรมาสติดกัน อีกทั้งมีการขยายตัวต่ำกว่าอัตราการขยายตัวของ GDP ในทุกช่วงเวลา การคงที่ของดัชนีการผลิตนี้สอดคล้องกับอัตราการใช้กำลังการผลิต (Capacity Utilization Rates) ที่มิได้ขยับตัวตลอด 4 ไตรมาสเช่นกัน ตามทฤษฎีแล้ว หากไม่ทำการผลิตตามความต้องการสินค้าและบริการที่เพิ่มขึ้น เศรษฐกิจอาจนำเข้าสินค้าและบริการจากต่างประเทศเพื่อนำมาบริโภค/ลงทุนทดแทน ซึ่งก็ไม่ใช่ในกรณีของประเทศไทย เนื่องจากการนำเข้า (เชิงปริมาณ) แทนที่จะขยายตัวเชิงบวก กลับมีอัตราการขยายตัวติดลบตลอดระยะเวลา 4 ไตรมาสที่ผ่านมา นอกจากนี้ ตัวเลขการจับจ่ายใช้สอยของหน่วยเศรษฐกิจต่างๆ ซึ่งอาจวัดได้จากปริมาณการขยายตัวของปริมาณเงินแบบกว้าง (Broad Money) ก็มิได้บ่งชี้ถึงเศรษฐกิจที่กำลังมีธุรกรรมทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นเช่นกัน
ตารางที่ 2: ปัจจัยสนับสนุนการขยายตัวของ GDP (Contribution to Growth)
ตารางที่ 2 อธิบายความไม่สอดคล้องระหว่างอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจและภาพเศรษฐกิจจริง โดยจะเห็นได้ชัดว่าการเพิ่มขึ้นของตัวเลข GDP เป็นการเพิ่มขึ้นทางเทคนิคเนื่องจากเศรษฐกิจไม่นำเข้าสินค้ามาบริโภคและลงทุน ทำให้ Net Exports เป็นบวก หากไม่มีปัจจัยดังกล่าว อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยจะติดลบในไตรมาสที่ 3 ปี 2558 และไตรมาสที่ 1 ของปีปัจจุบัน ซึ่งปรากฎการณ์เช่นนี้ นักเศรษฐศาสตร์เรียกว่า Recession Type Surplus ซึ่งจะเกิดก่อนที่เศรษฐกิจจะเข้าสู่ภาวะถดถอย และหากพิจารณาจากการเคลื่อนไหวของกำลังของเศรษฐกิจภายในประเทศแล้ว (Domestic Demand) จะสามารถสรุปได้ว่าเศรษฐกิจไทยได้เข้าสู่ภาวะถดถอยแล้วเพราะ Contribution to Growth ของ DomesticDemand เฉลี่ยของครึ่งแรกของปี 2559 (H1) มีอัตรารวมติดลบ 0.4% ดังนั้นการขยายตัวของเศรษฐกิจในไตรมาสที่ 2 จึงเป็นการปรับตัวทางเทคนิค (Technical Adjustment) ของการหดตัวของเศรษฐกิจในไตรมาสที่ 1 มิใช่สัญญานการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ เมื่อเศรษฐกิจไทยอยู่เข้าสู่ภาวะถดถอย จึงสามารถประมาณการณ์ต่อได้ว่าแนวโน้มของเศรษฐกิจไทยจะยังชะลอตัวต่อเนื่องในไตรมาสที่ 3 และไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ ซึ่งในทางทฤษฎีแล้ว เศรษฐกิจจะออกจากภาวะถดถอยได้หากมีการเปลี่ยนแปลงของปัจจัยภายในหรือภายนอกอย่างรุนแรง เช่น มีการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างรุนแรงด้วยนโยบายการเงิน นโยบายการคลัง และ/หรือนโยบายอัตราแลกเปลี่ยน ดังเช่นที่ได้มีการนำนโยบายเหล่านี้มาใช้ในประเทศสหรัฐอเมริกา ประเทศในกลุ่มสหภาพยุโรป และประเทศญี่ปุ่น ซึ่งคงไม่อาจจะคาดหวังได้ในระยะนี้ หรือมีการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกอย่างรวดเร็วก่อให้เกิดการขยายตัวของ External Demand ซึ่งก็ไม่มีแนวโน้มที่จะได้เห็นในปีนี้เช่นกัน ในทางตรงข้าม กลับมีแนวโน้มว่าเศรษฐกิจโลกจะอ่อนตัวเพิ่มขึ้นจากภาวะการชะลอตัวของเศรษฐกิจประเทศจีน ประมาณการว่าเศรษฐกิจไทยในไตรมาสที่ 3 และไตรมาสที่ 4 จะมีอัตราการขยายตัว 2.9% และ 1.9% ตามลำดับ (ตารางที่ 3) ทำให้ทั้งปี 2559 มีอัตราของขยายตัวเฉลี่ยของ GDP ที่ 2.8% จากความอ่อนไหวทางเศรษฐกิจภายในประเทศ และความอ่อนไหวทางอารมณ์ของประชาชน คาดว่าจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงทางนโยบายทางการคลัง นโยบายทางการเงิน และนโยบายด้านอัตราแลกเปลี่ยนใดๆ ในไตรมาสสุดท้ายนี้ ทำให้ทั้งอัตราดอกเบี้ยและอัตราแลกเปลี่ยนไม่เปลี่ยนแปลง ยกเว้นว่าจะเกิดวิกฤติเศรษฐกิจในต่างประเทศที่มีผลต่อการเคลื่อนไหวของเงินทุนระหว่างประเทศ การเคลื่อนไหวทางเศรษฐกิจและการประมาณการเศรษฐกิจรายไตรมาสปรากฎในตารางที่ 3 ข้างล่างนี้ ตารางที่ 3: การประมาณการอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจรายไตรมาสของปี 2559 (เปอร์เซ็นต์)
*คาดว่ามีการ reclassification ระหว่างค่าใช้จ่ายของภาคเอกชนและภาครัฐ แนวโน้มเศรษฐกิจในไตรมาสสุดท้าย ดังที่กล่าวมาแล้ว เศรษฐกิจในไตรมาสสุดท้ายคาดว่าจะชะลอตัวมากกว่าไตรมาสอื่นด้วย (1) แนวโน้มทางเศรษฐกิจภายในประเทศที่อ่อนตัวอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะด้านการผลิต (2) การชะลอการบริโภคและลงทุนจากความเศร้าโศกต่อการสวรรคต (3) การขาดการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมจากภาครัฐ และ (4) ความอ่อนแอของเศรษฐกิจโลก กล่าวคือในไตรมาสนี้ขาดปัจจัยบวกที่ชัดเจน แต่กลับมีทั้งปัจจัยลบและปัจจัยเสี่ยง จึงทำให้ประมาณการว่าเศรษฐกิจในไตรมาสนี้จะมีอัตราการขยายตัวเพียง 1.9% ปัจจัยบวก
ปัจจัยลบ
ปัจจัยเสี่ยง
ตารางสรุปเครื่องชี้วัดเศรษฐกิจ
หมายเหตุ : รายงานเศรษฐกิจฉบับนี้เป็นรายงานที่บริษัท ไทยวิจัยและฝึกอบรม จำกัด จัดทำขึ้นเพื่อเสนอต่อกลุ่มทีซีซีเป็นรายไตรมาส
บริษัท ไทยวิจัยและฝึกอบรม จำกัด |
ถึง บล็อกเกอร์ ทุกท่าน โปรดอ่าน
ด้วยทาง บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ได้ติดต่อขอความร่วมมือ มายังเว็บไซต์และเว็บบล็อกต่าง ๆ รวมไปถึงเว็บบล็อก OKnation
ห้ามให้มีการเผยแพร่ผลงานอันมีลิขสิทธิ์ ของบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ บนเว็บ blog โดยกำหนดขอบเขตของสิ่งที่ห้ามทำ และสามารถทำได้ ดังนี้
ห้ามทำ - การใส่ผลงานเพลงต้นฉบับให้ฟัง ทั้งแบบควบคุมเพลงได้ หรือซ่อนเป็นพื้นหลัง และทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือ copy code คนอื่นมาใช้ - การเผยแพร่ file ให้ download ทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือฝากไว้ server คนอื่น สามารถทำได้ - เผยแพร่เนื้อเพลง ต้องระบุชื่อเพลงและชื่อผู้ร้องให้ชัดเจน - การใส่เพลงที่ร้องไว้เอง ต้องระบุชื่อผู้ร้องต้นฉบับให้ชัดเจน จึงเรียนมาเพื่อโปรดปฎิบัติตาม มิเช่นนั้นทางบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ จะให้ฝ่ายดูแลลิขสิทธิ์ ดำเนินการเอาผิดกับท่านตามกฎหมายละเมิดลิขสิทธิ์
OKNATION
กฎกติกาการเขียนเรื่องและแสดงความคิดเห็น
1 การเขียน หรือแสดงความคิดเห็นใด ๆ ต้องไม่หมิ่นเหม่ หรือกระทบต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ หรือกระทบต่อความมั่นคงของชาติ
2. ไม่ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่นในทางเสียหาย หรือสร้างความแตกแยกในสังคม กับทั้งไม่มีภาพ วิดีโอคลิป หรือถ้อยคำลามก อนาจาร 3. ความขัดแย้งส่วนตัวที่เกิดจากการเขียนเรื่อง แสดงความคิดเห็น หรือในกล่องรับส่งข้อความ (หลังไมค์) ต้องไม่นำมาโพสหรือขยายความต่อในบล็อก และการโพสเรื่องส่วนตัว และการแสดงความคิดเห็น ต้องใช้ภาษาที่สุภาพเท่านั้น 4. พิจารณาเนื้อหาที่จะโพสก่อนเผยแพร่ให้รอบคอบ ว่าจะไม่เป็นการละเมิดกฎหมายใดใด และปิดคอมเมนต์หากจำเป็นโดยเฉพาะเรื่องที่มีเนื้อหาพาดพิงสถาบัน 5.การนำเรื่อง ภาพ หรือคลิปวิดีโอ ที่มิใช่ของตนเองมาลงในบล็อก ควรอ้างอิงแหล่งที่มา และ หลีกเลี่ยงการเผยแพร่สิ่งที่ละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบหรือวิธีการใดก็ตาม 6. เนื้อหาและความคิดเห็นในบล็อก ไม่เกี่ยวข้องกับทีมงานผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซต์ โดยถือเป็นความรับผิดชอบทางกฎหมายเป็นการส่วนตัวของสมาชิก คลิ้กอ่านเงื่อนไขทั้งหมดที่นี่"
OKnation ขอสงวนสิทธิ์ในการปิดบล็อก ลบเนื้อหาและความคิดเห็น ที่ขัดต่อความดังกล่าวข้างต้น โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของบล็อกและเจ้าของความคิดเห็นนั้นๆ
|
||
![]() ![]() |
มาแนะนำตัวบริษัท และ ทีมงาน | ||
![]() |
||
มาแนะนำตัวค่ะ |
||
View All ![]() |
<< | พฤศจิกายน 2016 | >> | ||||
อา | จ | อ | พ | พฤ | ศ | ส |
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | ||
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | 29 | 30 |