สวัสดีทุกชีวิต

ทุกอย่างล้วนมีต้นทุน ( Capital )

          หากจะพูดถึงความสำเร็จและความล้มเหลวนั้น ช่วงหลังๆ มานี่ผมเริ่มให้ความสำคัญกับเรื่องของต้นทุนมากขึ้น ต้นทุนของอะไร และมันคืออะไรกันแน่

         ทุกอย่างล้วนมีต้นทุนนะครับ แต่เรามักจะมองผ่านๆ หรือไม่ค่อยใส่ใจ บางครั้งตัดต้นทุนออกไปเลยก็ยังมี พูดไปแล้วก็บอกว่า กำไร ( Profit ) ล้วนๆ

          งั้นเรามาลองดูกันบ้างว่าอะไรคือต้นทุน เช่น สมมุติว่าเราเป็นพนักงานบริษัท เรามีเงินเดือน 15,000 บาท สิ้นเดือนเรารับเต็มๆ จริงมั้ย แล้วต้นทุนเราละคืออะไร บางคนบอกว่าไม่มีเลย ก็เป็นลูกจ้างจะมีต้นทุนอะไร ไม่ได้ลงทุนเปิดบริษัทเสียหน่อย

          การเดินทางไปทำงานเราไปด้วยอะไร รถยนต์ หรือ มอเตอร์ไซค์ หรือ อะไรก็แล้วแต่ ต้องจ่ายทั้งนั้น ค่าน้ำมัน ค่ารถ ค่าความเสี่ยง ( Risk ) การเดินทาง เสื้อผ้า หน้าผม รองเท้า กระเป๋า โทรศัพท์ เครื่องประดับ แต่ละเดือนก็ต้องจ่าย ต้องซื้อใช่มั้ย ถ้าไม่ไปทำงาน ก็นอนอยู่บ้าน จะนุ่งกางเกงขาสั้น หรือผ้าเช็ดตัวนอนเล่นก็ได้ หน้าไม่ต้องแต่งก็ยังไหว

           การเลี้ยงสังสรรค์ ( Party ) การไปสังคมต่างๆ ล้วนคือค่าใช้จ่าย ทั้งเวลา และเงินทอง การกินอยู่ ระหว่างวันก็ใช่ต้นทุน งั้นก็ลองคิดรายละเอียดดูละกันว่าแต่ละเดือนเรามีต้นทุนเท่าไร แล้วนำไปหักกับเงินเดือนมันก็จะเหลือกำไร

            คนที่ เป็นครูผู้สอน อาจารย์ ก็มีต้นทุน กว่าจะเรียนจบมาก็มีค่าวิชา ค่าใช้จ่าย มาทำงานก็ต้องจ่าย กินอยู่เหมือนลูกศิษย์ ส่วนเจ้าของกิจการ ( Proprietor ) นั้นแน่นอน มีแน่ๆ ค่า ไฟ ค่าน้ำ ค่า เงินเดือน ตลอดไปจนถึง พ่อค้า แม่ค้า ขายข้าวแกงก็มีต้นทุน
แล้วกำไรละ มีมั้ย ถ้าหากทุกคน รู้ต้นทุนของตัวเองที่ต้องใช้ในแต่ละเดือนหรือแต่ละวัน ก็จะสามารถกำหนดราคาขายได้ เช่น เรามีต้นทุน เดือนละ 10,000 บาท เราต้องการมีกำไร 5,000 บาท ก็คิดเงินเดือนไป 15,000 บาท ถ้าเขาจ้างก็จบ ถ้าไม่จ้างจะลดหรือจะ ไปหาที่ใหม่ก็แล้วแต่

           บางคนบอกว่าถ้าคิดแบบนี้ก็ไม่ต้องทำอะไรกันพอดี ค่าแรงเจ้าของต้องคิดด้วยเหรอ เราขาย ข้าวแกงถ้ามาคิดค่าแรงตัวเอง ก็แย่เลย เอาเงินไปจ่ายให้ลูกจ้างก่อนละกัน อืม...หากเราฝืนกฎ ( Rule ) ข้อนี้ ถึงเราทำได้ แต่มันก็จะได้ไม่นาน เพราะมัน จะสะสมการขาดทุน ( Lose Money ) ไว้ตลอดเวลา เจ้าของเหนื่อยแสนเหนื่อย แต่ไม่มีเงินเดือน กินอยู่กับรายได้ที่ได้มา ใช้เงินหมุน โดยไม่มีเงินเดือนของตัวเองและไม่มีการจัดสรรเงินต้นทุนกำไร บางครั้งเวลาผ่านไปทำมาหลายปี ไม่ได้กำไรแถมติดหนี้เข้าไปอีก เหนื่อยก็เหนื่อย ร่างกายก็อ่อนแอลง

             นักดนตรีมีกีต้าร์แพงๆ แต่กลับไม่ได้สร้างรายได้ ( อันนี้ผมเอง 555 ) ก็อาจจะสู้คนที่มีกีต้าร์ตัวละไม่กี่พันแต่มีรายได้เดือนละหลายหมื่น

            ดังนั้น เราควรจะมาทบทวน ( Reconsider ) เรื่องต้นทุนของแต่ละคนกันก่อนว่า ใครมีมากมีน้อย เราจะเห็นบางคน ทำอะไรก็รวย ได้กำไรเยอะ บางคนก็ไปไม่รอด เราต้องไปดูเบื้องหลังฺ ( Background ) ของเขาก่อนว่า เขามีต้นทุนมั้ย เช่น ที่ดิน พ่อให้มา บ้านตัวเองไม่ต้องเช่า รถพ่อ แม่ก็ซื้อให้ มรดกเพียบ เงินลงทุนก็มหาศาล ขาดทุนไปแล้วก็ลงใหม่ได้อีก แต่กับบางคน ที่ต้องเช่า แถมกู้หนี้มาลงทุนอีก พูดกันง่ายๆว่า เริ่มลงมือก็ขาดทุนมาก่อนแล้ว

             การรู้จักต้นทุนตัวเองเป็นสิ่งจำเป็นและสำคัญมาก หากผมถามว่าไปเล่นดนตรีให้หน่อย คิดชั่วโมงละเท่าไร ( Performing fee ) คุณต้องตอบได้ทันที เพราะคุณคิดต้นทุนไว้แล้ว หรือ ถามว่า ให้ไป ทำงานชิ้นนี้คุณต้องประมาณราคานั้นได้โดยไม่ขาดทุน เพราะ ทุกอย่าง ทั้งแรงกาย และมันสมอง ประสบการณ์ของคุณ มันคือ ต้นทุน ชีวิต ของคุณนั่นเอง

ขอบคุณทุกชีวิต
27/11/2014
Mr.morgan