วันพุธ ที่ 10 ตุลาคม 2550
Posted by
vickie
,
ผู้อ่าน : 3816
, 20:40:07 น.
หมวด : ท่องเที่ยว
พิมพ์หน้านี้
โหวต
0 คน

เมื่อต้นเดือนตุลาคม 50 ป๋มมีโอกาสได้ไปขอนแก่น เมืองแคนแห่งแดนอีสาน รู้สึกจะเป็นครั้งที่ 3 ของชีวิต แต่ก็ไม่ได้ไปเที่ยวไหนอยู่ดี เนื่องจากภารกิจที่ได้รับมอบหมาย ตารางข้างค่อนไปกระจุกอยู่ ณ สถานที่แห่งเดียว แต่คนชีพจรลงเท้าอย่างป๋ม คงอยู่เฉยไม่ไหว อาศัยช่วงจังหวะวันแรกที่เดินทางไปถึง ก่อนจะเริ่มงานจริงจังในวันถัดไป ออกตะเวนดูสถานที่ใกล้ๆ ที่พัก แน่นอน ตลาดสดใจกลางเมือง เป็นเป้าหมายแรก ก็ป๋มอยากไปดูวิถีชีวิตของผู้คนที่นี่ แต่ตอนนี้ตลาดสดชื่อ"บางลำพู" ปรับโฉมใหม่ เป็นตึกร่มเย็น สภาพสะอาดพอใช้ทีเดียว ข้าวของที่ขายไม่ต่างจากตลาดในเมืองใหญ่ เสื้อผ้าก็เน้นเอาใจวัยรุ่น ร้านเก่าๆ ที่ถูกใจป๋มเลยกลายเป็นร้านตึกแถว ที่ดูจะยังคงสภาพเอาไว้

เลาะตลาดสดออกมาหน้าถนนกลาง ผ่านหน้าโรงพักขอนแก่น เจอคิวรถสามล้อถีบ ก็เลยจัดการต่อรอง ให้ไปส่งที่บึงแก่นนคร ราคาไม่มากไม่มาย 30 บาท (ความจริงก็มีรถตุ๊กตุ๊กแล้ว แต่ป๋มอยากไปสบายๆ ไม่รีบเร่ง) ลุงถีบสามล้อ ทราบชื่อ"ลุงหมู" ลากรถพาถีบไปตามถนนใหญ่อย่างชำนาญ แม้รถราจะจอแจบางช่วง
นั่งรถไป ก็นึกไป เอ๊ะเคยมีเพลงเกี่ยวกับเมืองขอนแก่นนี่นา อ้อ.... น้องเป็นสาวขอนแก่น ยังบ่เคยมีแฟน ยามเมื่อแลงฝันหวานนนน.... นี่ถ้าเผลอร้องออกมา จะเป็นยังไงน๊า 55 55 ก่อนถึงบึงแก่นนคร ลุงก็พาเลาะเข้าตรอกเล็ก ๆ ข้างวัดธาตุ จนเกือบสุดท้ายตัดออกถนนอีกเส้น ป๋มก็เรียกให้ลุงหยุดรถ ตอนแรกลุงหันมามอง งงๆ "ป๋มอยากถ่ายรูปเจดีย์ฮับ ตัดกับท้องฟ้าสวยจัง ลุงรอหน่อยนะ" 
ลุงหมูไม่ว่าอะไร เอารถเข้าไปจอดรอตรงร่มไม้ สักพักป๋มถ่ายเสร็จก็ไปขึ้นรถ "ไปถ่ายหน้าวัดก็สวยนะ เดี๋ยวเราก็ผ่าน" ลุงหมูบอก "งั้นถ้าลุงพาป๋มไปตะเวฯดูแถวนี้ แล้วกลับไปที่คิวด้วยกันได้ป่าว" ลุงหมูพยักหน้า พร้อมกับยิ้มๆ กับถ้อยคำของป๋มในประโยคต่อมา " แต่ลุงอย่าเรียกแพงนะ หนูมาทำงาน เดี๋ยวไม่มีตังค์จ่ายค่ารถ" เห่ะๆ
แล้วลุงหมูก็พาขับถีบรถอ้อมไปด้านหน้าวัด บอกเข้าไปถ่ายรูปก็ได้ ป๋มไม่รอช้า เดินเข้าไปถ่ายรูป คนแถวนั้นก็คง งงๆ เพราะคงมีคนไม่มากที่จะแวะที่วัดธาตุ วัดนี้ เป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น
 วัดธาตุ ตัดกับฟ้าแจ่มๆ เมฆปุยๆ สวยงาม (ก่อนที่อีก 3 วันต่อมาจะมีแต่ฝนกับฝน)
จากวัดธาตุ ลุงพาถีบรถต่อไปบึงแก่นนคร ที่อยู่ไม่ไกลออกไป ถนนช่วงนี้รถไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่แต่แดดร้อนเหลือหลาย ลุงบอกไม่ค่อยมีอะไร ไปวัดหนองแวงมั๊ย อยู่โน่น พร้อมกับชี้มือให้ดู เห็นเป็นเจดีย์ชั้นๆ อยู่ลิบๆ "ไปค่ะไป" เรารีบบอก  มุมถนนติดบริเวณวัดกลาง
 เลี้ยวเข้า วัดหนองแวง
ลุงหมูพาปั่น แต่เราก็รู้สึกว่าไกลจังไม่ถึงสักที "เจดีย์มันสูง อยู่ในมุมหลอกตา มันก็ดูเหมือนใกล้" ลุงหมูบอก ขณะที่ขาไม่หยุดปั่นรถ แล้วในที่สุด ก็ถึงเสียที เราได้แต่อุทานถึงความสวยงามแม้ด้านหลังวัดกำลังมีช่างก่อสร้างก็เถอะ ลุงหมูเข้ารถเข้าจอดตรงร่มๆ ให้เราไปถ่ายรูป จากเดิมที่ลุงแกจะเงียบๆ คงเห็นเราเล็งถ่ายรูปมุมเดิมซะนาน ก็เดินมาบอกให้ไปดูอีกด้าน รวมถึงด้านหน้าที่มีรอยพระพุทธบาท และท้ายที่สุด ลุงแกก็พาเดินไปซะเอง

วัดหนองแวง (พระอารามหลวง)ภายในวัดมีพระมหาธาตุแก่นนคร หรือพระธาตุเก้าชั้น เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก ก่ออิฐถือปูน เรือนยอดทรงเจดีย์ (จำลองแบบจากพระธาตุขามแก่น)
 พระธาตุเก้าชั้น จัดสร้างขึ้นเนื่องในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงครองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี และมหามังคลานุสรณ์ 200 ปี เมืองขอนแก่น ความสูงขององค์พระธาตุฯ 80 เมตร มีพระจุลธาตุ 4 องค์ ตั้งอยู่ 4 มุมและมีกำแพงแก้วพญานาค 7 เศียรล้อมรอบ เป็นศิลปะสมัยทวาราวดี ผสมผสานศิลปะอินโดจีน ซึ่งเป็นลักษณะแบบชาวอีสานตากแห ภายในองค์พระธาตุมีอยู่ 9 ชั้น คือ
ชั้นที่ 1 เป็นหอประชุมมีพระบรมสารีริกธาตุ ประดิษฐานอยู่บนบุษบกตรงกลางและพระประธาน 3 องค์อยู่ตรงกลาง บานประตู หน้าต่าง แกะสลักภาพนิทานเรื่องจำปาสี่ต้น โดยเฉพาะบานประตูแกะสลักภาพ 3 มิติและมีจิตรกรรมฝาผนังเกี่ยวกับประวัติศาสตร์เมืองขอนแก่น
ชั้นที่ 2 เป็นหอพัก บานประตูหน้าต่างเขียนลวดลายเบญจรงค์และภาพแกะสลักนิทานเรื่องสังศิลป์ชัย
ชั้นที่ 3 เป็นหอปริยัติ บานประตูหน้าต่างเขียนลวดลายเบญจรงค์และภาพแกะสลักนิทานเรื่องนางผมหอม
ชั้นที่ 4 เป็นหอปริยัติธรรม ภายในมีพิพิธภัณฑ์ของเก่าบานประตูหน้าต่างภาพพระประจำวันเกิด เทพประจำทิศและตัวพึ่ง-ตัวเสวย
ชั้นที่ 5 เป็นหอพิพิธภัณฑ์ มีบริขารของหลวงปู่พระครูปลัดบุษบา สุมโน อดีตเจ้าอาวาสวัดรูปที่ 6 บานประตูหน้าต่างแกะสลักภาพพุทธชาดก
ชั้นที่ 6 เป็นหอพระอุปัชฌายาจารย์ บานประตูหน้าต่างแกะสลักนิทานชาดกเรื่องเวสสันดร
ชั้นที่ 7 เป็นหอพระอรหันตสาวก บานประตูหน้าต่างแกะสลักนิทานเรื่องพระเตย์มีใบ้
ชั้นที่ 8 เป็นหอพระธรรม เป็นที่รวบรวมพระธรรม คัมภีร์สำคัญทางพระพุทธศาสนามีพระไตรปิฏก ฯลฯ บานประตูแกะสลักรูปพรหม 16 ชั้น
ชั้นที่ 9 เป็นหอพระพุทธ ตรงกลางมีบุษบก เป็นที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า บานประตูแกะสลักภาพ 3 มิติ รูปพรหม 16 ชั้น และสามารถชมทัศนียภาพของตัวเมืองขอนแก่นได้ทั้ง 4 ด้าน โดยเฉพาะทางด้านทิศตะวันออกสามารถมองเห็นบึงแก่นนครได้สวยงามมาก (ที่มาข้อมูลวัดหนองแวง : การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย) และในทางกลับกัน ก็สามารถถ่ายรูปผ่านบึงแก่นนคร ให้มีฉากหลังเป็นพระธาตุเก้าชั้นก็ได้เช่นกัน ลุงหมูบอกว่า ต้องไปอยู่อีกฝั่งของบึง แล้วถ่ายรูปมาให้ติดพระธาตุ ตอนพระอาทิตย์ตกเย็นๆ จะสวยงามมาก แต่ป๋มยังไม่มีโอกาสสักครั้ง
 เลาะรั้วบึงแก่นนคร ถ่ายรูปเสร็จ ลุงหมูถามต่อว่าจะไปไหนอีกดี แต่ป๋มดูเวลาแล้วท่าทางจะไม่ทันนัดที่ต้องไปเตรียมงานช่วงบ่ายแก่ๆ เลยบอกลุงให้พากลับดีกว่า บึงแก่นนครตอนกลางวันก็ไม่ค่อยมีอะไร ขากลับลุงหมูยังปั่นสามล้อพาออกถนนอีกด้าน กะให้เราเห็นเมืองขอนแก่นเยอะๆ เราได้แต่บอก "ดีจังเลยค่ะ แต่ถ้ามาอีกรอบหนูคงหลง" ลุงหมูได้แต่ยิ้มๆ แถมไปถึงคิวรถ ลุงแกดันไม่เรียกค่ารถอีก บอกคิดไม่ถูก ... จนป๋มต้องคิดให้แกซะเอง (รับรองว่าไม่เอาเปรียบคร๊าบบบ) แล้วป๋มก็ดีใจ ที่มีลูกค้ามาต่อคิวขึ้นรถลุงหมูต่อจากป๋มเลย เป็นคุณพ่อกับลูกสาวตัวเล็ก ๆ ที่ใจเย็นรอเราหยิบเงินให้ลุงแก แถมยังบอกว่าไม่ต้องรีบหรอก วันนั้น ป๋มเลยรู้สึกอารมณ์ดี รู้สึกเย็นใจ กับความเรียบง่าย สบายๆ ที่ได้รับจากคนรอบข้าง วันนั้น ป๋มค้นพบว่า "ทุกข์และสุข เกิดขึ้นได้จากใจและตัวของเราเอง(จริงๆ)"
|