24-25 ตค.52 แม้จะมีเวลาแค่ 2 วัน ป๋มหมุนไปหมุนมา รัศมีของการเดินทางไม่น่าจะเกิน 400 กม. จาก กทม. หลังจากที่พลาดทริปเดินป่าหนักๆ ที่รอคอยมานาน เพราะติดภารกิจชนิดไม่อาจปลีกตัวเข้าป่าลึกได้ เสียดายเป็นที่สุด เพราะนานๆ จะมีวันหยุดติดกัน 3 วันโดยไม่ต้องลางาน ครั้นจะเข้าป่าลึกคนเดียว ก็คงอาจหาญไปหน่อย ว่าแล้วก็โทรหาเพื่อนที่คิดว่าไงไงก็ยังไม่ได้ไปไหนแน่ ฮา ... นั่นไง เป็นโชคดีที่เพื่อนว่างพอดี เลยมีเพื่อนร่วมทางรวมเบ็ดเสร็จ 4 คน ล้อหมุนเช้าตรู่วันเสาร์ 24 ตค.52 บ่ายหน้าไปตามทิศตะวันออก ในเส้นทางที่ดูแปลกตาไปมากมาย เมื่อเทียบกับที่เคยผ่านไป ....ป่าของเราที่จำต้องมีถนนมากั้นกลาง แต่เพื่อนที่ไปด้วยกัน ท่าทางจะไม่ได้ผ่านไปแถวนั้น นานกว่าป๋ม ขนาดว่า เจ้เตรียมลุยกันนะ จะพาเดินเทรลสั้นๆ .... แต่ที่ไหนได้ รถเก๋งเข้าถึงสบายๆ ฮา หลังแวะเติมเสบียงลงท้องมื้อเที่ยง เตรียมเสบียงมื้อเย็น ซึ่งก็ไม่มากไม่มาย มีแหนมเนือง สารพัดผักสดไปแกล้ม แล้วยังมีแหนมเห็ด3อย่าง ที่ป๋มเองก็เพิ่งเคยลิ้มลองเป็นครั้งแรกในชีวิต ส่วนมื้อเช้าวันพรุ่ง ก็คงไม่มีอะไรมากมายไปกว่า กาแฟ ขนมปังชุบไข่ทอดแล้วก็ข้าวโพดคลุกเนย แน่น๊อน...คราวนี้เตรียมมาครบเครื่องตั้งแต่ที่บ้านแล้ว แล้วเราก็มุ่งหน้าไปผาเก็บตะวัน ระหว่างทางผ่านรีสอร์ทมากมาย หลายชื่อชวนเข้าพักซะจริงๆ แต่ป๋มก็อดไม่ไดเที่จะเอ่ยขึ้นมา "เราไม่อยากนอนรีสอร์ทอ่ะ ไปหาบ้านชาวบ้านนอนกันเหอะ" ระหว่างถอยหลังกลับ "เจ้เราไปนอนรีสอร์ท หรือไม่ก็ขอเจ้าหน้าที่กางเตนท์มันตรงที่ทำการเลยดีกว่า" บ้านส่วนตั๊ว ส่วนตัว ที่มาปลูกทิ้งไว้ ตามประสาคนมีกะตังค์ อยู่สู๊ง สูง ราว 24 ฟุตจากพื้น แต่สูงจากระดับน้ำทะเลเท่าไหร่ .... อันนี้ไม่รู้แฮะ ข้าวของก็ชักรอกขึ้นบ้านสบายๆ บ้าน 1 จันทร์ 1000 ดาว ของเรา มองไปได้ไกลสุดสายตา ปะทะทิวเขาที่ขวางหน้า กับทุ่งหญ้าสะวันนา เบื้องล่าง ที่หลอกล่อสัตว์น้อยใหญ่ออกมาหากิน
มองลงไปด้านล่าง อยู่ปุ๊นนนน เสียวขาดีจัง ... บางคนปีนขึ้นปีนลง ส่วนป๋มของยืนเล่น นั่งเล่นทำใจก่อน ตอนขึ้นมันสบาย แต่ตอนลงนี่ดิ เสียวแฮะ หลังจากปีนบันไดขึ้นไปนั่งทอดอารมณ์กันพักใหญ่ ถ่ายรูปแทบจะทุกมุมรอบบ้าน มีเสียงนกร้องอยู่ที่ต้นไม้ใกล้ๆ นั่นไงๆ ตัวใหญ่ด้วย อกเหลืองมาเชียว เสียดาย สี่พระหน่อ มะมีเซียนนกซะกะคน แล้วจะไปถามแมวที่ไหน แต่มองไปมองมา มันก็ป้วยนเปี้ยนไม่ยอมไปไหน "เจ้...เจ้ มีรังนกอยู่ตรงยอดไม้นั่นด้วย" นายรองเท้าร้องบอก พร้อมกับชี้ให้ดู เออแฮะ ขนากเลือกมาทำรังบนยอด แต่บ้านของเราก็ดันสูงเทียมยอดไม้ต้นนั้นซะด้วย
อีกมุม นักท่องเที่ยว มาชมอาทิตย์ตก แม้จะไม่สมหวัง แต่ก็ยังสนุกสนานได้ กับกิจกรรมที่ทาง อช.เตรียมไว้ ไม่ว่าจะเป็นยิงหนังสติ๊ก เมล็ดพันธุ์พืช ให้ไปตกตามแนวไหล่เขา จนเห็นว่า บางคนเลือกหนังสติ๊กขนาดยักษ์ หวังจะให้เมล็ดพันธุ์ลอยไปไกลๆ แต่ท่าง้างหนังสติ๊ก ก็ต้องออกแรงเยอะไม่แพ้กัน ดูแล้วก็อดยิ้มไม่ได้ คุคิ คุคิ
เผลอ มองมุมนู้น มุมนี้ ขำขำกันไปพักหนึ่ง หันไปดูริมผาอีกที อ้าว แสงจะลับฟ้าแล้ว ไปอาบน้ำกันได้แล้ว เดี๋ยวจะถึงบ้านมืดซะก่อน ห้องน้ำที่นี่เป็นแบบห้องน้ำรวม แต่แยกฝั่งชาย-หญิง
หลังจากจัดแจงแปลงบ้านพักเป็นลานเพลินได้ไม่นาน พระจันทร์ที่เห็นเพียงเสียวเดียว เพราะเป็นข้างขึ้นไม่กี่ค่ำ แต่กลางป่ามืดๆแบบนี้ ส่องสว่างจนแทบไม่ต้องใช้แรงเทียน เพราะจริงๆ ทริปนี้ก็ดันลืมหยิบเทียนติดเป้ไปด้วย เลยต้องแปลงสภาพไฟฉายเป็นเทียนแทน กล้อมแกล้มกับแสงจันทร์ พอไหว อยากเก็บดวงดาวมาทอภาพฝัน แว่วเสียง"สีเผือก-คนด่านเกวียน" กับบทเพลงหวานๆ ลอดเข้ามาในห้วงคำนึง ยามนอนมองแสงจันทร์ แต่ใจกลับคิดไปถึงคนไกล .... ไกล แม้เมื่อคืนจะเป็นเดือนครึ่งดวง ก็สว่างไสวไม่น้อยยามอยู่กลางป่าที่ไม่มีแสงไฟใดๆ ยิ่งดึก น้ำค้างยิ่งลงแรง เรามองไปยังทิวเขา เห้นหมอกลอยเอื่อยๆ เข้ามาบดบัง ป๋มเอนตัวลงนอนบนพื้นไม้ตรงชานบ้าน แต่ระหว่างรูดซิบถุงนอน ว่าแล้ว วงสนทนาก็กลับมาใหม่ สารพัดเรื่องราว เรื่องเล่า จนสุดท้ายเสียงบ่นเรื่องยุง ถี่ขึ้น เพราะตะไคร้หอมก็เอาไม่อยู่ ครั้นจะใช้ยาแรงกว่านั้นก็อย่าดีกว่า Starry กับนายรองเท้า และกอร์น Hunter x Hunter ก็ลงมือกางเตนท์ ส่วนป๋มอ่ะหรอ นอนรออ่ะดิ ...ตอนนี้ขี้เกียจทำอะไรทั้งนั้น กางเตนท์เสร็จ เป็นอันว่าลานเพลินต้องปิดตัวลงโดยอัตโนมัติ กระทั่งเช้า แสงเช้า รำไร ปลุกเราขึ้นมาชะเง้อดู กะว่าถ้าไม่มีหมอกจะนอนต่อ แต่ถ้ามีก็คงต้องถ่ายรูปกันซะหน่อย ภาพที่เห็น หมอกจาง ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ แต่อืมมมม ได้อารมณ์ไปอีกแบบกับยอดไม้ทะมึน เลยตัดใจตื่นมาถ่ายรูป "ดีจัง... บรรยากาศแบบนี้ คงไม่มีคนได้เห็นบ่อยนัก จากจุดนี้ ในยามนี้" แสงสว่างเพิ่มมาอีกหน่อย ... นายรองเท้าจัดแจงต้มน้ำ เตรียมชงกาแฟ คราวนี้เอาที่ตีฟองนมมาด้วย จะทำคาปูชิโน่ร้อนให้จิบ เย้ ..เย้ ของป๋มไม่ต้องใส่น้ำตาลนะคราฟ ..... ว่าแล้วก็ถ่ายรูปกันต่อ
ถึงตาป๋มบ้างและ ที่ต้องมานั่งเตรียมมือเช้าง่ายๆ รองท้อง ก่อนจะกลับสู่เมือง ....เช้านี้ มีไข่ดาว ก็กะทะทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า เลยดาวไข่ซะทีละ 2 ฟองสบายๆ แล้วก็มีข้าวโพดคลุกเนย มีขนมปังชุบไข่ทอด ราดด้วยน้ำผึ้ง แค่นี้ก็อิ่มตื้อ ทำกับข้าวยังไม่ทันเสร็จ แสงแดดก็แผดจ้าโผล่เหนือทิวเขา ....มาแล้วววว แสงอุ่นๆ ยามเช้า กับไรหมอกจางๆ ส่งให้ทุ่งหญ้า ป่าเขา เงาไม้ ดูเหมือนอาบแสงสีส้ม จนป๋มลืมตัววางช้อน ปล่อยกะทะ หันไปคว้ากล้องมาถ่ายรูปเก็บไว้ก่อน ชอบ ๆ ๆ ๆ ๆ กับแสงแดดยามเช้าแบบนี้ ยิ่งเป็นในป่าเขาลำเนาไพร ยิ่งเสริมให้โลกนี้โสภา แสงอุ่นอุ่น ในยามเช้า
บรรยากาศสบายๆ เตรียมอาหารไป ถ่ายรูปไป กินไป จิบไป ตามแต่อารมณ์ใครจะพาไป นายรองเท้าบอกถ่ายรูปบนบ้านไม่สะใจ ขอลุยดงหญ้าไปถ่ายแนวพื้นราบมั่ง น่าจะได้มุมแตกต่าง ถึงแสงจะจ้าไปบ้าง แต่รูปที่นำมาอวด ก็สวยสมฝีมือเชียวฮับ ที่แน่ๆ ทำให้รถป๋มดูโดดเด่นขึ้นมาเชียว (ไม่เชื่อย้อนไปดูรูปที่ 2 ด้านบนจิฮะ)
หลังมื้อเช้าไม่นาน ถึงเวลาทำธุระยามเช้า เลยต้องปีนบันไดลงมาข้างล่าง ขับรถไปใช้บริการห้องน้ำล้างหน้าล้างตา ปฏิบัติภารกิจจำเป็นกันที่ผาเก็บตะวัน ฝั่งนี้ แสงแดดยังส่องมาไม่ถึง แต่ก็ได้เห็นหมอกเรี่ยๆ พื้น แต่ยังไม่อลังการเท่าไหร่ นักท่องเที่ยวตื่นมาถ่ายรูป ชมทะเลหมอกกันเยอะ เพราะส่วนใหญ่ ก็กางเตนท์นอนกันที่นี่แหล่ะ
หลังจัดการภารกิจเสร็จ ขับรถกลับมา มาเก็บข้าวของ ออกเดินทางไปแวะชมที่อื่นๆรายทางบ้างดีกว่า หลายคนสงสัย บ้านก็ออกจะสูง แล้วขนข้าวของขึ้นไปได้ยังไง ทั้งเต้นท์ ทั้งเป้ ทั้งถังน้ำ ไม่ยากฮับ เชือกมานี่นา ชักรอกขึ้นไปจิ ... ที่เห็นในรูปนี่ ตอนชักรอกลง เก็บข้าวของกลับบ้าน
ข้าวเก็บของ ออกเดินทางกันต่อ แวะขอบคุณเจ้าหน้าที่ประจำด่าน ลัดเลาะทางลูกรังกลับออกมา กับความหมายมาดในใจว่า หนาวนี้ เราคงไม่พลาดที่นี่เป็นแน่ แต่ก่อนจตะถึงที่หมายถัดไป ก็อดไม่ได้ที่จะแวะถ่ายรูปอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ที่เห็นอยู่ริมทาง
ถ่ายรูปกันจนพอใจ กลางแดดร้อนๆ ย้อนแสงหน่อยๆ คราวนี้มุ่งหน้าเป้าหมายถัดไป โดยไม่วอกแว่กอีก .... สวนผักที่มีคุณลุงเล่นกีตาร์ให้ผักฟัง จนโด่งดังลงกินเนสบุ๊ค เอ้ย ย ย .. ออกทีวี มีนิตยสารมาเขียน ...ตอนที่ไปถึง "ลุงไกร" กำลังเล่นดนตรีสดๆ ให้ได้ฟังกัน "ผักจ๋าผัก ผักมีวิตะมิน .... " .... พวกเราได้ผักติดมือกลับบ้านกันคนละถุงใหญ่ งืมมมม สดๆ น่ากินเจงๆ จากสวนผัก ... เราไปต่อกันที่ไร่องุ่น ข้างโรงนา ที่กลายเป็นสถานที่หย่อนใจที่กำลังมีชื่อเสียง "วิลเลจ ไวน์เนอร์รี่" ความจริงป๋มเคยเขียนถึงมาครั้งหนึ่งแล้ว ในตอน "จากสระแก้ว สู่วังน้ำเขียว" เป้าหมายของเราที่นี่ นอกจากกาแฟสดอีกคนละแก้วแล้ว ยังมีเค็กอร่อยๆ อยากกินอีก แต่ดูท่าเราจะมาเรน็วไป ทางร้านบอกว่ากำลังทำอยู่ จะเสร็จก็คงต้องบ่าย ... แป่ว สุดท้ายดูเมนู ดูไป ดูมา ก็เลยได้อาหารหลักมากิน เป็นเรื่องเป็นราว ก่อนจะออกตะเวนถ่ายรูปกันต่อ ราวกับจะทำสารคดีให้ทันปิดเล่ม แต่ ... แต่ มือสมัครเล่นอย่างเรา อย่างดีก็นำมาลงบล็อกให้เพื่อนๆ อ่าน เพราะสารคดี เค้ามีโปรฯ ประจำอยู่แล้ว อิ อิ
ตะวันคล้อยบ่าย เราถึงได้ออกเดินทางกลับ เพราะไม่อยากถึงบ้านเย็นมาก และแน่นอนว่าไม่เย็น แต่ค่ำเลยทีเดียว 5 5 5 5 เนื่องจากแวะเที่ยวสวนแถวแปดริ้ว จนกินมื้อเย็นเสร็จนั่นแหล่ะ ถึงได้เวลากลับ กทม.จริงๆ จังๆ กันซะที ทริปนี้ แม้จะมีเวลาไม่มาก แต่ได้ใจไปเต็มๆ .... และหนาวนี้ เราคงจะกลับไปนอนบ้านโป่งเทียมฟ้า เฝ้าดู 1 จันทร์ 1000 ดาว ของเราอีกครา .... |
ถึง บล็อกเกอร์ ทุกท่าน โปรดอ่าน
ด้วยทาง บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ได้ติดต่อขอความร่วมมือ มายังเว็บไซต์และเว็บบล็อกต่าง ๆ รวมไปถึงเว็บบล็อก OKnation
ห้ามให้มีการเผยแพร่ผลงานอันมีลิขสิทธิ์ ของบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ บนเว็บ blog โดยกำหนดขอบเขตของสิ่งที่ห้ามทำ และสามารถทำได้ ดังนี้
ห้ามทำ - การใส่ผลงานเพลงต้นฉบับให้ฟัง ทั้งแบบควบคุมเพลงได้ หรือซ่อนเป็นพื้นหลัง และทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือ copy code คนอื่นมาใช้ - การเผยแพร่ file ให้ download ทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือฝากไว้ server คนอื่น สามารถทำได้ - เผยแพร่เนื้อเพลง ต้องระบุชื่อเพลงและชื่อผู้ร้องให้ชัดเจน - การใส่เพลงที่ร้องไว้เอง ต้องระบุชื่อผู้ร้องต้นฉบับให้ชัดเจน จึงเรียนมาเพื่อโปรดปฎิบัติตาม มิเช่นนั้นทางบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ จะให้ฝ่ายดูแลลิขสิทธิ์ ดำเนินการเอาผิดกับท่านตามกฎหมายละเมิดลิขสิทธิ์
OKNATION
กฎกติกาการเขียนเรื่องและแสดงความคิดเห็น
1 การเขียน หรือแสดงความคิดเห็นใด ๆ ต้องไม่หมิ่นเหม่ หรือกระทบต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ หรือกระทบต่อความมั่นคงของชาติ
2. ไม่ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่นในทางเสียหาย หรือสร้างความแตกแยกในสังคม กับทั้งไม่มีภาพ วิดีโอคลิป หรือถ้อยคำลามก อนาจาร 3. ความขัดแย้งส่วนตัวที่เกิดจากการเขียนเรื่อง แสดงความคิดเห็น หรือในกล่องรับส่งข้อความ (หลังไมค์) ต้องไม่นำมาโพสหรือขยายความต่อในบล็อก และการโพสเรื่องส่วนตัว และการแสดงความคิดเห็น ต้องใช้ภาษาที่สุภาพเท่านั้น 4. พิจารณาเนื้อหาที่จะโพสก่อนเผยแพร่ให้รอบคอบ ว่าจะไม่เป็นการละเมิดกฎหมายใดใด และปิดคอมเมนต์หากจำเป็นโดยเฉพาะเรื่องที่มีเนื้อหาพาดพิงสถาบัน 5.การนำเรื่อง ภาพ หรือคลิปวิดีโอ ที่มิใช่ของตนเองมาลงในบล็อก ควรอ้างอิงแหล่งที่มา และ หลีกเลี่ยงการเผยแพร่สิ่งที่ละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบหรือวิธีการใดก็ตาม 6. เนื้อหาและความคิดเห็นในบล็อก ไม่เกี่ยวข้องกับทีมงานผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซต์ โดยถือเป็นความรับผิดชอบทางกฎหมายเป็นการส่วนตัวของสมาชิก คลิ้กอ่านเงื่อนไขทั้งหมดที่นี่"
OKnation ขอสงวนสิทธิ์ในการปิดบล็อก ลบเนื้อหาและความคิดเห็น ที่ขัดต่อความดังกล่าวข้างต้น โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของบล็อกและเจ้าของความคิดเห็นนั้นๆ
|
||
![]() ![]() |
โมโกจู | ||
![]() |
||
เดินทางไกลเพื่อหินเรือใบ |
||
View All ![]() |
เปรโต๊ะลอซู ภาค 3 | ||
![]() |
||
ไปจับหมอกกันมั้ย |
||
View All ![]() |
<< | พฤศจิกายน 2009 | >> | ||||
อา | จ | อ | พ | พฤ | ศ | ส |
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 |