*/
รวยรินกลิ่นชีวา วันฟ้าฝนหล่นพรำ ที่ริมฝั่งโขง .. | ||
![]() |
||
รวมภาพชีวิตเดินทาง ห้วงสั้นๆกับวันพิเศษๆ และ บรรยากาศที่พิเศษ ความสุขล่องลอยมากับสายฝน และ ไหลผ่านไปปะปนอยู่กับสายน้ำที่ไหลเอื่อยเฉื่อยเนือย ชีวิตนี้ยังมีภาคความหวัง เป็นภาคต่อเรื่อยๆไม่สิ้นสุด |
||
View All ![]() |
Besame Macho | ||
![]() |
||
Besame Macho By Cesaria Evora _Latin Music |
||
View All ![]() |
<< | มิถุนายน 2008 | >> | ||||
อา | จ | อ | พ | พฤ | ศ | ส |
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 |
. . .. ทัพหน้า ย่าโมออกศึก คึกคักห้าวหาญ เชี่ยวชาญการบุก !! .. สงคราม ๙ ทัพ : วิวัฒนาการแห่งพลังมวลชนของฝ่ายพันธมิตรฯ ..(๑)
วันนี้ .. ที่หน้าร้านยามเช้า .. ฉันตื่นมาด้วยอาการมึนๆงงๆเล็กน้อย ..รู้สึกปวดเมื่อยตามเนื้อตัว ออกอาการเกียจคร้านอย่างเห็นได้ชัด ได้กลับมานอนที่นอนนุ่มๆในห้องนอนเย็นสบายๆ ไม่อยากจะลุกตื่นขึ้นมาเลย อาจจะเป็นเพราะว่าฉันล้าและเหนื่อยจากภาระหน้าที่ของประชาชนคนไทยมาหลายร่วม ๓ - ๔ วัน ตากฝน ตากแดด เดิน ยืน นั่ง นอน อยู่กลางท้องถนน ท่ามกลางอากาศอันร้อนระอุ..เหนื่อยล้าจากการเดินทางไปกลับระหว่างขอนแก่นและกรุงเทพฯ .. ฉันเดินทางเข้ากรุงเทพฯ เมื่อวันที่ ๑๙ มิถุนายน ตอนบ่ายๆ..และเข้าไปที่สะพานมัฆวานในคืนนั้น อยู่ร่วมชุมนุมท่ามกลางสายฝนจนกระทั่งดึกดื่นตีสองตีสาม รอสซี่เพื่อนชาวฮังการีได้ขึ้นไปแสดงความคิดเห็นของเขาบนเวที ได้ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับความเหมือนและความต่างระหว่าง ประวัติศาสตร์การเมืองไทย และ ประวัติศาสตร์การเมืองฮังการี พลังมวลชนของไทย และ พลังมวลชนฮังการี และ ได้ย้ำเตือนสติพี่น้องประชาชนชาวไทยอย่าได้เป็นเหมือนฮังการี ที่ประชาชนฮังการีเป็นฝ่ายพ่ายแพ้และนับจากนั้นมาก็ไม่สามารถสร้างพลังมวลชนขึ้นมาต่อกรกับรัฐบาลนายทุนสามานย์ได้อีกเลย.. จากคำบอกเล่าของรอสซี่ ทำให้ฉันมองเห็นภาพหายนะจากการที่รัฐวิสาหกิจต่างๆของฮังการีถูกแปรรูปเป็นของเอกชนไปหมด ทั้ง ประปา ไฟฟ้า น้ำมัน ทุกสิ่งทุกอย่างรัฐไม่สามารถควบคุมราคาได้ ประชาชนเป็นผู้แบกรับภาระอยู่ฝ่ายเดียว ไม่แตกต่างไปจากอาร์เจนติน่าที่ล้มสลายไปก่อนหน้านี้ แถมฮังการีเองยังมีรัฐบาลที่เป็นเผด็จการรัฐสภาครองเสียงข้างมากเหมือนไทย นายกรัฐมนตรีฮังการีปากเสียเหมือนนายกรัฐมนตรีไทยเลย ( แต่คงปากหมาน้อยกว่านายกฯไทยเยอะ ฮ่าๆ ) .. . .. ฮังการีเละแล้ว เมืองไทยอย่าเละเหมือนฮังการี น๊าคร๊าบบบ !! สู้ สู้ !! .. ประเทศไทยเราเองก็กำลังเดินหน้าเข้าสู่หนทางหายนะนี้ มีการผลักดันกันอย่างเป็นขบวนการเป็นขั้นเป็นตอน มีการคอรัปชั่นเชิงบูรณาการที่ครอบคลุมแจกจ่ายได้ทั่วถึงทุกหมู่ชนทุกหมู่เหล่า เพื่อเป็นกองกำลังสนับสนุนขบวนการล้างผลาญชาติ .. ขบวนการนี้มีตั้งแต่รัฐมนตรี ส.ส. อบจ. อบต. ไป ข้าราชการ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ตลอดจนนายทุน พ่อค้าคนกลาง เจ้าพ่อท้องถิ่น หรือ แม้แต่จิ๊กโก๋ หน้าปากซอย เหล่าอันธพาล อีกมากมาย คนเหล่านี้ต่างตกเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดร่วมล้างผลาญชาติไปเป็นที่เรียบร้อยโรงเรียนแม้วหน้าเหลี่ยมแล้ว .. .............................. . . .. อีกสักครู่ เราจะดัน ดัน ดัน .. . . .. อ้าว !! ดัน ดัน ดัน .. อ้าว!! เดิน เดิน เดิน !!! .. . . .. วินาทีทำนบแตก แหวกแนวกั้นตำรวจเข้าไปปักธงหน้าทำเนียบเป็นทัพแรก .. . . .. ภาพสวยครับ !! ตำรวจปลอดภัย ประชาชน จุกอก เคล็ดขัดยอกเล็กน้อย ครับผม !! .. . . .. เดินฝ่าช่องแคบแนวกั้นรถตำรวจ มุ่งหน้าสู่ทำเนียบรัฐบาล .. วันที่ ๒๐ มิถุนายน ๒๕๕๑ .. เป็นเสมือนวันประวัติศาสตร์ทางการเมืองอีกวันหนึ่งของประเทศไทย พลังมวลชนของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยในวันนี้มากันแบบมืดฟ้ามัวดินเต็มทั่วทุกท้องถนนโดยรอบทำเนียบรัฐบาลไม่สามารถประเมินตัวเลขที่แน่นอนได้ แต่เท่าที่ฉันเดินสำรวจในช่วงที่ผู้คนแออัดกันสุดๆ มองไปถนนหนทางใดก็สุดลูกหูลูกตา ต้องบอกว่าเป็นพลังมหาประชาชนที่มีจำนวนหลายแสนคนเลยทีเดียว .. เป็นบทสรุปของคำตอบทั้งหมดในรอบหลายสิบวันที่มีการปักหลักชุมนุมของฝ่ายพันธมิตร ฯ ..บทสรุปที่จะสามารถย้ำชัดให้เห็นถึงวิวัฒนาการของการขับเคลื่อนการเมืองภาคประชาชนไปสู่จุดยืนอันมั่นคงต่อไปในภายภาคหน้าต่อไป .. ประชาชนของประเทศชาติเล็กๆที่มีความเจริญเติบโตทางด้านเทคโนโลยีสื่อสารในระดับที่ดีมากประเทศหนึ่ง แทบไม่น่าเชื่อว่า ประเทศชาติบ้านนี้เมืองนี้กลับโดนกีดกั้นข้อมูลข่าวสารอย่างน่าอดสูใจ เปอร์เซ็นต์ข่าวสารการบ้านการเมืองต่อวันผ่านช่องสถานีโทรทัศน์ฟรีทีวีมีไม่ถึงสิบเปอร์เซ็นต์ เหลือเชื่อสุดๆว่าเรื่องพรรค์อย่างนี้มันมาเกิดขึ้นในปี ๒๕๕๑ ในยุคโลกาภิวัฒน์ ในยุคของโลกไร้พรมแดน .. ฉันร่วมขบวนกับทัพหน้าของพลังมวลชนที่เดินทัพเข้ามาตามถนนในซอยวัดเบญจมบพิตร ผ่านเข้าสู่หน้าทำเนียบได้อย่างไม่ยากเย็นนัก พวกเราเป็นกลุ่มพันธมิตรกลุ่มแรกที่เข้าไปปักธงหน้าทำเนียบรัฐบาล เผชิญหน้าและผลักดันกับกำลังตำรวจปราบจราจลอยู่ไม่นานนักทำนบของแผงกั้นตำรวจก็พังทลาย .. อาจจะเป็นเพราะว่าตำรวจหมดหนทางจริงๆในการกีดกั้นพลังมหาประชาชนเรือนหมื่นในถนนเส้นนั้น พวกเขาอาจจะมองไปจนเห็นว่าประชาชนมากันสุดลูกหูลูกตา มองไปทางไหนก็พบเห็นแต่ขบวนประชาชนยาวเหยียด และ พอหันกลับไปดูกำลังพลของพวกเขาแล้วมียืนเรียงกันไม่ถึงสิบแถว มีไม่กี่ร้อยคน หากดื้อดึงอาจจะแบนติดพื้นถนนเพราะบาทาประชาชนก็เป็นได้ .. ฉะนั้นกองกำลังของตำรวจจึงจำต้องล่าถอยไป !!! ........................... . . .. เท่ห์ซ๊าไม่มี ตำรวจไทย ไม่รู้ว่าโดนดันแล้วแว่นตาหลุดหรือเปล่าหนอ ? .. . . .. แนวกั้นตำรวจตระเวนชายแดน แฟนๆเอเอสทีวีเพียบ ฮ่าๆ .. . . .. แอ๊คอาร์ต เป็นที่ระลึก ก่อนแนวกั้นนี้จะสลายไปโดยละม่อม น้องละเมียด พี่ละมุน อิอิ .. . . .. บล็อกเกอร์ปัจเจกตน ญาใจ และ วินเซนต์ เจอกันโดยบังเอิญ .. เมื่อแรกเข้ามาถึงรั้วประตูทำเนียบ.. ฉันมองลอดช่องประตูไปเห็นแถวตำรวจปราบจราจลหลายร้อยนายยืนเรียงรายอยู่ภายในทำเนียบรัฐบาล ฉันมองเห็นนักข่าวสาวของสถานีโทรทัศน์ซึ่งเป็นกระบอกเสียงของรัฐคนหนึ่ง ยืนชี้โบ้ชี้เบ้สั่งช่างภาพเก็บภาพประชาชน เธอคนนี้ยืนอยู่ในภายในทำเนียบห่างจุดแนวกั้นตรงเชิงสะพานชมัยมรุเชฐเยอะมาก แต่เธอเป็นคนแรกๆที่รายงานว่า ประชาชนฝ่ายพันธมิตรทำร้ายตำรวจ เธอย้ำนักย้ำหนาว่าประชาชนทำร้ายตำรวจ .. สื่อมวลชนนางนี้เห็นหน้าเธอแล้วก็รู้สึกคลื่นเหียน เมื่อปี ๔๙ ที่หน้าทำเนียบที่เดียวกันนี้ ฉันเห็นเธอและช่างภาพของสถานีโทรทัศน์ไอทีวีสมัยนั้น เดินสัมภาษณ์ประชาชนที่มาร่วมชุมนุมนับสิบยี่สิบคน ไม่เห็นเธอเอาไปลงข่าวเลยสักคน ... ฉันนึกสงสัยอยู่เหมือนกันว่า เธอคนนี้ สื่อมวลชนขี้ข้าหน้าเหลี่ยมคนนี้ สาวเสียงห้าวหุ่นล้ำบึ้ก เธอเอาข้อมูลที่สัมภาษณ์ประชาชนที่มาร่วมชุมนุมกับพันธมิตรนั้นไปให้ใครหรือเปล่า ทำไมถึงไม่เห็นเป็นข่าวตามหน้าจอทีวี ?? .................................... . . .. ไตรรงค์ธงไทยปลิวไสวสวยงามสง่า ..โบกสบัดชัย ! .. . . .. โอ้ พระเจ้าจอร์จ มันยอดมาก ! ภาพนี้ต้องขยายไปทั่วโลก นะคร๊าบบบ !! .. . . .. ปีกซ้ายสุดลูกหูลูกตาเลยหน้าสนามม้านางเลิ้ง .. . . .. ปีกขวามองเห็นสุดลูกลูกตาเลยแยกมิสกวัน .. . . .. หมอผีนำขบวนพนักงานรัฐวิสาหกิจออกมาขับไล่พวกเปรตกินเมือง .. หน้าทำเนียบรัฐบาล .. ภายหลังโดนเจาะไข่แดงถูกพันธมิตรบุกปักธงได้สำเร็จ .. ตรงถนนด้านหน้า ปปช. และ สำนักงาน กพ. ตอนนั้นยังมีกองกำลังตำรวจตระเวนชายแดน ที่ ๑๒ ยืนตรึงกำลังอยู่สามแถว มองข้ามไปไกลยังฝั่งแยกมิสกวันจะเห็นทัพหน้าของแนวร่วมพนักงานรัฐวิสาหกิจยังคงผลักดันอยู่กับแนวกั้นของตำรวจปราบจราจลอยู่ แต่หลังจากนั้นไม่นานพวกเขาก็เคลื่อนผ่านแนวกั้นของตำรวจมาได้ พร้อมๆกับการสลายตัวของแนวกั้นของ ตชด. ก็สลายออกไปเหมือนกัน .. ตำรวจไม่ได้ดึงดันที่จะขวางกั้นประชาชนอย่างสุดชีวิต พวกเราเจรจาและพูดคุยกันตลอด ตำรวจตระเวนชายแดนมีรอยยิ้ม พวกเรามีรอยยิ้ม ..ไม่มีความตึงเครียดของการเผชิญหน้าใดๆอยู่เลย ตอนที่พวกเราฝ่าแนวกั้นของตำรวจปราบจราจลตรงเชิงสะพานชมัยมรุเชฐก็เช่นกัน แม้ใบหน้าตำรวจจะไม่มีรอยยิ้ม แต่จากพละกำลังที่พวกเขาดันกลับมายังพวกเรานั้นพอจะรู้ๆได้ว่าพวกเขาไม่พร้อมที่จะยืนทานพลังมหาประชาชนต่อไปได้อีกแล้ว พวกเขาอยากพักเหนื่อยอยากดื่มน้ำอยากกลับบ้านไปอาบน้ำ ดูทีวีอยู่กับลูกกับเมีย .. ตอนที่พวกเราฝ่าแนวกั้นตำรวจ ฉันเหลือบมองไปเห็นจ่าแดงเพื่อนร่วมหอพักเมื่อสิบปีก่อนเป็นคนยืนคุมแนวกำลังพลตำรวจอยู่ จ่าแดงในวันนั้นมาวันนี้ติดตาวที่บ่าหนึ่งดวง เป็นผู้กองแดงไปแล้ว แต่ว่าเราไม่ได้ทักทายกัน ทำได้เพียงตะโกนเรียกและโบกมือให้เพราะกำลังพุ่งตัวเคลื่อนผ่านแนวกั้นเพื่อเข้าไปยังหน้าทำเนียบรัฐบาล .. ฉันถือกล้องดิจิตอลติดมือขวาไว้ตลอดเวลาเพื่อบันทึกภาพประวัติศาสตร์นี้ไว้.. ฉันพยายามบันทึกภาพเหตุการณ์ตอนชุลมุนนี้ให้มากที่สุด แต่ว่าสถานการณ์มันก็ไม่เอื้ออำนวยนักเลยเก็บภาพได้เท่าที่เห็นนี่แหละ .. ตำรวจและประชาชน พวกเราทั้งผองพี่น้องกันจริงๆ !! .. ฉันยืนพูดคุยกับตำรวจตระเวนชายแดนหลายนาย หลายคนมาจากนครราชสีมา หลายคนมาจากอุบลราชธานี หลายคนมาจากปราจีณบุรี พวกเขามาปฏิบัติหน้าที่ และ เราประชาชนเองก็มาปฏิบัติหน้าที่ของประชาชนคนไทยของเราเช่นกัน พวกเขา (ตำรวจ) และ พวกเรา (ประชาชน) ไม่ได้มามุ่งร้ายทำร้ายร่างกายกันและกันเหมือนอย่างพวกบ้าอำนาจ พวกบ้าสงครามทั้งหลายอยากให้เป็น และ อยากให้เกิดขึ้น .. หลังจากผ่านเหตุการณ์ต่างๆมาแล้ว ฉันมานั่งพักเหนื่อยอยู่ตรงถนนหน้าทำเนียบ มองเห็นแนวตำรวจที่ไปยืนออกันอยู่ตามร่มไม้และริมฟุตบาธข้างทาง .. นึกขำขำอยู่เหมือนกันว่าตำรวจไทยยุคนี้กลัวกล้องดิจิตอลเสียยิ่งกว่ากลัวบาทาประชาชนเสียอีก !! ............................. . . .. พักเหนื่อยครับผม !! .. .. อ่านต่อตอน ๒ ครับ .. ............................. ....................................................... |
ถึง บล็อกเกอร์ ทุกท่าน โปรดอ่าน
ด้วยทาง บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ได้ติดต่อขอความร่วมมือ มายังเว็บไซต์และเว็บบล็อกต่าง ๆ รวมไปถึงเว็บบล็อก OKnation
ห้ามให้มีการเผยแพร่ผลงานอันมีลิขสิทธิ์ ของบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ บนเว็บ blog โดยกำหนดขอบเขตของสิ่งที่ห้ามทำ และสามารถทำได้ ดังนี้
ห้ามทำ - การใส่ผลงานเพลงต้นฉบับให้ฟัง ทั้งแบบควบคุมเพลงได้ หรือซ่อนเป็นพื้นหลัง และทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือ copy code คนอื่นมาใช้ - การเผยแพร่ file ให้ download ทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือฝากไว้ server คนอื่น สามารถทำได้ - เผยแพร่เนื้อเพลง ต้องระบุชื่อเพลงและชื่อผู้ร้องให้ชัดเจน - การใส่เพลงที่ร้องไว้เอง ต้องระบุชื่อผู้ร้องต้นฉบับให้ชัดเจน จึงเรียนมาเพื่อโปรดปฎิบัติตาม มิเช่นนั้นทางบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ จะให้ฝ่ายดูแลลิขสิทธิ์ ดำเนินการเอาผิดกับท่านตามกฎหมายละเมิดลิขสิทธิ์
OKNATION
กฎกติกาการเขียนเรื่องและแสดงความคิดเห็น
1 การเขียน หรือแสดงความคิดเห็นใด ๆ ต้องไม่หมิ่นเหม่ หรือกระทบต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ หรือกระทบต่อความมั่นคงของชาติ
2. ไม่ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่นในทางเสียหาย หรือสร้างความแตกแยกในสังคม กับทั้งไม่มีภาพ วิดีโอคลิป หรือถ้อยคำลามก อนาจาร 3. ความขัดแย้งส่วนตัวที่เกิดจากการเขียนเรื่อง แสดงความคิดเห็น หรือในกล่องรับส่งข้อความ (หลังไมค์) ต้องไม่นำมาโพสหรือขยายความต่อในบล็อก และการโพสเรื่องส่วนตัว และการแสดงความคิดเห็น ต้องใช้ภาษาที่สุภาพเท่านั้น 4. พิจารณาเนื้อหาที่จะโพสก่อนเผยแพร่ให้รอบคอบ ว่าจะไม่เป็นการละเมิดกฎหมายใดใด และปิดคอมเมนต์หากจำเป็นโดยเฉพาะเรื่องที่มีเนื้อหาพาดพิงสถาบัน 5.การนำเรื่อง ภาพ หรือคลิปวิดีโอ ที่มิใช่ของตนเองมาลงในบล็อก ควรอ้างอิงแหล่งที่มา และ หลีกเลี่ยงการเผยแพร่สิ่งที่ละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบหรือวิธีการใดก็ตาม 6. เนื้อหาและความคิดเห็นในบล็อก ไม่เกี่ยวข้องกับทีมงานผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซต์ โดยถือเป็นความรับผิดชอบทางกฎหมายเป็นการส่วนตัวของสมาชิก คลิ้กอ่านเงื่อนไขทั้งหมดที่นี่"
OKnation ขอสงวนสิทธิ์ในการปิดบล็อก ลบเนื้อหาและความคิดเห็น ที่ขัดต่อความดังกล่าวข้างต้น โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของบล็อกและเจ้าของความคิดเห็นนั้นๆ
|
||
![]() ![]() |