*/
รวยรินกลิ่นชีวา วันฟ้าฝนหล่นพรำ ที่ริมฝั่งโขง .. | ||
![]() |
||
รวมภาพชีวิตเดินทาง ห้วงสั้นๆกับวันพิเศษๆ และ บรรยากาศที่พิเศษ ความสุขล่องลอยมากับสายฝน และ ไหลผ่านไปปะปนอยู่กับสายน้ำที่ไหลเอื่อยเฉื่อยเนือย ชีวิตนี้ยังมีภาคความหวัง เป็นภาคต่อเรื่อยๆไม่สิ้นสุด |
||
View All ![]() |
Besame Macho | ||
![]() |
||
Besame Macho By Cesaria Evora _Latin Music |
||
View All ![]() |
<< | สิงหาคม 2008 | >> | ||||
อา | จ | อ | พ | พฤ | ศ | ส |
1 | 2 | |||||
3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 |
17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 |
24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 |
31 |
. .. แมงปอ ณ บ่อปลา ที่บ้านไร่ ..
๑ ปี ผ่านไป : เพียงสิ่งใด ..ควรใจจดจำ ???..
หลายวันก่อน .. ตื่นนอนตอนรุ่งเช้า ณ เวลาปกติ .. เปิดประตูร้าน .. ม่านฟ้าเปิด แสงอาทิตย์อุทัยสาดส่อง ..อู้หู้ !!..ชีวิตนี้สดใสดีจัง !! เดินออกไปโบกรถสองแถวประจำทาง .. ยืนรอส่งคนใกล้ตัวขึ้นรถไปทำงาน .. เดินกลับเข้ามาในร้าน เปิดโน้ตบุ๊ค เปิดเพลง เปิดอินเตอร์เน็ท ดูข่าว ผ่านไปสิบนาที หยิบไม้กวาดเพื่อจะไปปัดกวาดหน้าร้าน.. มองไปหน้าร้าน .. หน้าร้านปกติ ...เอ๊ะ ! ไม่ล่ะสิ หน้าร้านไม่ปกติแล้ว .. อ้าว !! มอเตอร์ไซค์กูหายไปไหนว่ะเนี่ย ??? !!!! มอเตอร์ไซค์ฉันหาย เหลือแต่ไฟแช็ค !!.. อ้าว !! แล้วไฟแช็คมันไปเกี่ยวอะไรกับมอเตอร์ไซค์ล่ะว่ะ ???.. ใครบางคนอาจจะอยากถาม ?? !!! มันไม่เกี่ยวกันหรอกนะ แต่ไฟแช็คที่ฉันลืมเก็บเข้ากระเป๋า หลังจากนั่งจิบเบียร์เย็นๆ ชมฟ้า ชมฝน ชมถนน ชมผู้คน สัญจรไปมาผ่านหน้าร้านจนดึกดื่นเลยเที่ยงคืนไปตีหนึ่งตีสอง ..มันยังคงวางอยู่ ณ ที่จุดเดิม .. แต่ที่มีอันต้องอันตรธานหายไปก่อนรุ่งสางวันใหม่ก็คือ มอเตอร์ไซค์คันใหม่ ที่ฉันเพิ่งถอยออกมาได้ ๒ เดือนกว่าๆ เพื่อนำมาใช้วิ่งๆไปๆมาๆในระยะทางใกล้ๆเพื่อช่วยประหยัดน้ำมันและค่าใช้จ่ายของรถยนต์ส่วนตัว ที่นับวันยิ่งผลาญพลังงาน ผลาญชีวิต ผลาญเงินจากกระเป๋าตังค์ใบน้อยๆใบนี้อย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย.. มอเตอร์ไซค์คันที่หายไป ฉันมักจะจอดไว้ตรงหน้าร้าน ล็อคคอ ล่ามโซ่ล้อ ไว้อย่างดี เคยคิดกลัวโดนขโมยเหมือนกันเมื่อตอนที่ซื้อมาใหม่ๆ และ ก็จอดทิ้งไว้เช่นนี้ในคืนแรกๆ ..แต่มาคิดอีกทีว่า คนแถวนี้ก็ปิดร้านกันดึกๆดื่น หลายๆคน หลายๆร้านก็ไม่หลับไม่นอนจนรุ่งเช้า ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร..คงมีคนเห็นอยู่หรอก หากว่ามีใครจะมาขโมยรถคันนี้ไป และ อีกอย่างหากจะโดนขโมยก็คงจะขโมยได้ด้วยวิธีเดียวคือ .. อุ้มขึ้นรถกระบะ !!!.. ฉันจอดรถทิ้งไว้แบบนี้ ๒ เดือนกว่าๆ จนไม่คิดว่ามันจะมีปัญหาอะไร ? แต่แล้ววิวัฒนาการของโจรมันก็ก้าวไกลกว่าความระมัดระวังและมันสมองของคนหาเช้ากินค่ำทั่วไปอย่างฉันจนได้ .. มีร่องรอยของการอุ้มขึ้นรถกระบะไว้ให้ดูต่างหน้า มีรอยขูดขีดอยู่เต็มตามพื้นคอนกรีตที่หน้าร้าน แต่ว่า ..ไม่มีใครสักคนในละแวกที่ฉันอยู่เห็นว่ามีใครมาขนรถฉันไป และ ขนไปตอนไหน ?.. นี่คือ .. ความทรงจำร้ายๆ เล็กๆ ที่เข้ามาในชีวิตฉันเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา .. มันทำฉันเอาเซ็งในอารมณ์ได้ไปทั้งวัน ที่ยิ่งร้ายกว่านั้นก็คือ การไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ท่าทีของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ดูเหมือนจะหมดปัญญาและยอมรับสภาพว่าวิ่งตามโจรไม่ทัน โจรผู้ร้ายสมัยนี้มันชุกชุมเหลือเกิน และ นับวันโจรมันยิ่งอายุอานามน้อยลงไปเรื่อยๆ ส่วนใหญ่โจรที่มาขโมยรถมอเตอร์ไซค์นี้ก็เป็นวัยรุ่นลูกคนมีเงินมีอันจะกินทั้งนั้น .. ตำรวจบอกให้ฉันสบายใจได้ เพราะฉันไม่ได้โดนคนเดียว มีคนที่โดนยกรถ โดนถีบคอรถแล้วขับโฉบหนี ทั้งที่ล็อคคอ จอดไว้หน้าบ้าน หน้าร้าน หน้าหอพัก ใต้อพาร์ทเมนท์อีกเป็นสิบๆคัน ในช่วงเวลาไล่เลี่ยกันกับฉันโดนเนี่ยแหละ แถมบางคนก็ยังโดนซิวรถยนต์ รถกระบะ เอาข้ามไปขายฝั่งลาวอีกด้วย.. ตำรวจมีข้อมูลบันทึกไว้หมดแล้ว ตอนนี้ติดปัญหาอยู่นิดเดียว คือ ตำรวจยังจับคนร้ายไม่ได้แค่นั้นเอง .. เหตุการณ์แต่ละเหตุการณ์โจรผู้ร้ายพวกนี้มันใช้เวลาเพียงแค่เสี้ยวนาทีในการปฏิบัติงาน !!.. ฉันคงจะได้รถกลับคืนมาเหมือนกัน แต่ก็คงเป็นแค่โครง ส่วนตัวเครื่องคงโดนชำแหละ เอาไปเปลี่ยนถ่ายใส่พวกรถเท่ห์ๆ อย่างรถ ซี ๗๐ ซี ๘๐ ที่วิ่งฉิ่วๆเป็นชมรม เป็นแก๊งค์ เป็นก๊วน ข้ามจังหวัดกันนั่นแหละ .. ตำรวจบอกให้ฉันสบายใจเหมือนกันว่า ..ในอนาคตจะมีนโยบายเรียกตรวจจับรถแต่ง พวก ซี ๗๐ ซี ๘๐ ทั้งหลายแหล่นี้เหมือนกัน .. หากเราเจอตัวเครื่องรถของคุณ..เราจะแจ้งให้ทราบนะครับ !!.. ................................................... . .. ลั่นทม หยาดน้ำค้าง ลานวัด ..
วันนี้ .. นั่งเปิดบล็อก .. มองวันเริ่มต้นที่เขียนบล็อก ๒๖ - ๖ - ๒๐๐๗ .. อ้าว !! ผ่านมาได้ปีกว่าๆแล้วหรือเนี่ย ? ..ชีวิตนี้มันช่างผ่านไปไวดีแท้ !! "" ฉันมองกลับไปยังเรื่องราวเดิมๆที่ฉันเขียน .. วันแรกที่เขียน จำได้ว่าฉันเขียนเรื่อง " ในที่ที่เรามองเห็น " เรื่องสัพเพเหระ ที่หยิบมาเขียน และ มาตั้งคำถาม จากสายตาที่ฉันมองออกไปเห็นสังคมและสิ่งแวดล้อมรอบๆตัว.. หลังจากนั้นมันก็ผ่านมาหลายเรื่องเขียน ฉันกลับไปย้อนอ่านเรื่องเก่าๆ ฉันพบความพึงพอใจและพบความไม่พึงพอใจมากมายคละเคล้ากันในเรื่องราวต่างๆที่ฉันเขียนออกไป.. ฉันรู้สึกตกใจเหมือนกันที่เมื่อย้อนมองกลับไปเพียงห้วงครึ่งปีกว่าที่ผ่านมา เรื่องที่ฉันเขียนส่วนใหญ่หลีกไม่พ้นเรื่องราวของการเมืองไทย เรื่องราวของรัฐบาล เรื่องราวของพันธมิตร เรื่องของคนใจชั่วหน้าเหลี่ยม เรื่องของลิ่วล้อขี้ข้าบริวารของเขา ที่ยังคงสร้างความสับสนวุ่นวายให้กับสังคมไทยไม่รู้จบ.. มันอาจจะเป็นเพราะกระแสของข่าวการเมืองไทยมาแรง หรือ เพราะโดยพื้นฐานตัวฉันเองนั้นเป็นคนที่สนใจการเมืองและติดตามความเป็นมาเป็นไปของกระบวนการทางการเมืองไทย และ การเมืองต่างประเทศตลอดเวลา .. ฉันเลยมีเรื่องของการเมืองอยู่เต็มไปหมดในเนื้อหาของงานเขียนช่วงหลังๆมานี้ .. .............................................. วันวานที่ผ่านมา .. ที่ศาลอาญาชั้นต้นพิพากษาจำคุกคุณหญิงพจมาน ๓ ปี .. ฉันมองเห็นสัจธรรม .. มองเห็น " กรรม " .. และ หนทางแห่งกรรม .. ฉันมองเห็นแววตาเศร้าๆ สีหน้าเครียดแค้น และ ใบหน้าเซ็งชีวิต ของคนตระกูลนี้แล้วฉันก็ได้แต่ .. ปลง !! คนร่ำรวยมากมายมหาศาลขนาดนั้น ทำไมต้องปล่อยให้ชีวิตของตนถูกกิเลส ความโลภ โกรธ หลง นำพาความเสื่อมเสียพาตนและครอบครัวมาเผชิญวิบากกรรมอันน่าสลดใจได้เพียงนี้ ? .. ฉันมองเห็น "กฎแห่งกรรม" ..ที่กำลังทำงานของมันไปเรื่อยๆ อย่างเงียบๆ ผ่านกระบวนการต่างๆ ทั้งในทางโลกที่ให้ทุกข์ทางกาย และ ในทางธรรมที่ส่งผลแก่ทุกข์ทางใจ .. มนุษย์ทุกคนมี กรรมดี กรรมชั่ว ต่างกัน ..แต่ทุกๆชีวิต ทุกๆคนจะต้องได้รับผลกรรมแห่งการกระทำของตนทุกๆคน .. ไม่มีชาติหน้าหรอก ไม่ต้องไปรอ มีเพียงชาตินี้ชาติเดียวเท่านั้นที่มีอยู่จริง !! .............................................. . .. แดดเช้า หน้าบ้าน และ กลีบดอกไม้ร่วง ..
ท่านพุทธทาส .. เคยแสดงธรรม ย้ำเตือนพุทธศาสนิกชนทุกคนในเรื่องนี้ .. มนุษย์บนโลกนี้ล้วนป่วยเป็นโรคทางวิญญาณ (Spiritual disease) รักษาให้หายขาดยาก และ ถ้าจะรักษาให้หายได้นั้นก็ต้องใช้ยารักษาโรคที่มีชื่อว่า " ธรรมะ " และต้องปรึกษาและได้รับการรักษาโดยแพทย์ที่มีชื่อว่า " พระพุทธเจ้า " เท่านั้น .. ท่านพุทธทาส บอกว่า มนุษย์โลก มีผู้ป่วยเป็นโรคทางกาย (Physical disease) มากมาย และ มีผู้ป่วยเป็นโรคทางจิต ( Mental disease) ก็มากมาย ..ซึ่งทั้งสองโรคนี้ทำการรักษาและเยียวยาได้หรือไม่ได้ก็ด้วยแพทย์แผนปัจจุบัน ซึ่งมีให้เห็นอยู่ทั่วไป เป็นไปตามวัฎจักรสังขาร เกิด แก่ เจ็บ ตาย ของทางโลก.. ทว่า การที่มนุษย์โลกยังคงวุ่นวายสับสน และ มีปัญหา มีความทุกข์ มีความวุ่นวายมากมายในแต่ละวันของชีวิตอยู่เฉกเช่นนี้ก็เพราะว่า ..มนุษย์แทบทุกคนในสังคมโลกร้ายๆใบนี้ ล้วนแล้วแต่ป่วยเป็นโรคทางวิญญาณ (Spiritual disease) แทบจะทุกคน.. เมื่อมนุษย์ห่างเหินจาก "ธรรมะ" .. มนุษย์ก็ย่อมจะป่วย .. แม้ว่ามนุษย์นั้นจะมีร่างกายแข็งแรง มีสภาพจิตปกติดี และ มีความร่ำรวยมหาศาล มีหน้าที่การงานใหญ่โต มีอำนาจบารมี มากมายเพียงใดก็ตาม หากว่ามนุษย์ป่วยเป็นโรคทางวิญญาณแล้วไซร้ .. มนุษย์ย่อมไม่มีความสุขทางกาย ไม่มีความสงบทางใจ มืดมนในจิตวิญญาณแห่งตน ไม่รู้หนทางแก้ไข และ ไม่รู้หนทางที่จะนำเขาไปสู่วิถีทางแห่งการดับทุกข์อันแท้จริงได้ !! ................................................... . .. สิ่งมีชีวิตบางชนิด เล็กๆ เติบโต งดงาม บนตอไม้แห้ง ..
บ่ายวันนี้ .. ร้อนอบอ้าวไร้แดด มีเพียงเมฆฝนปกคลุมอยู่หนา บนท้องฟ้าเบื้องบน.. ฉันนั่งมองท้องถนนหน้าร้าน มองอาคารร้านค้าพาณิชย์ฝั่งตรงข้ามที่กำลังก่อสร้างใกล้แล้วเสร็จ มองร้านกาแฟและเบเกอรี่ร้านใหมน่ารักกิ๊บเก๋ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามร้านหนังสือของฉันกำลังตกแต่งใกล้แล้วเสร็จเหมือนกัน มีพื้นที่ดินถมใหม่อยู่ด้านหลังของ ร้านกาแฟ และ อาคารพาณิชย์ที่ว่านี้ กำลังปรับแต่งพื้นที่เพื่อจะสร้างเป็นอพาร์ทเมนท์หลังงามทันสมัยภายในเวลาไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ .. ร้านหนังสือของฉันเองก็เช่นเดียวกัน ห้องแถวที่ฉันเช่าอยู่ในตอนนี้ มันกำลังจะถูกผ่านมือจาก คนรวยคนหนึ่ง ไปยัง คนรวยอีกคนหนึ่ง ไม่ช้าไม่นาน ห้องแถวร้านค้าที่ฉันเปิดร้านหนังสือยู่ตอนนี้ก็จะเปลี่ยนเป็นอพาร์ทเมนท์อันทันสมัยหมด .. ฉันคงต้องหาพื้นที่ใหม่เพื่อเปิดร้านหนังสือ " กลิ่นวรรณกรรม " อาจจะมีการโยกย้ายภายในสองหรือสามเดือนข้างหน้านี้ ซึ่งมันก็เป็นไปตามวัฎจักรชีวิตของคนเบี้ยน้อยทั้งหลายนั่นแหละ.. แต่ฉันคิดเสมอว่าในโลกแห่งความฝัน โลกอันงดงามใบนี้ มันยังมีพื้นที่เล็กๆสำหรับให้คนตัวเล็กๆได้ทำสิ่งเล็กๆ ความฝันเล็กๆ ของเขาเสมอ มันยังมีตรอกซอกซอยเล็กๆ ให้เราได้เดินทางสัญจรต่อไปเสมอ แม้มันหางนั้นมันจะขรุขระ จะเดินลำบากขึ้น แคบขึ้น มีน้ำเจิ่งนอง และ มีความเฉอะแฉะมากขึ้น แต่มันก็จะมีซอกหลืบและตรอกทางเล็กๆเช่นนี้อยู่เสมอในสังคมไทยของเรา .. ฉันเชื่อเช่นนี้ และ เดินออกมาจากจุดที่คนส่วนใหญ่ของสังคมเขาเดินกัน มาทำในสิ่งที่คนส่วนใหญ่เขาไม่อยากจะทำกัน มาเปิดร้านขายหนังสือเก่า มานั่งเฝ้ากองพะเนินของเศษกระดาษเก่าๆอันไร้ค่าของคนร่ำรวย.. ...........................................
. .. หน้าร้านยามเช้า กรุ่นกลิ่นกาแฟ และ เรื่องเล่าของค่ำคืน ..
เรื่องราวต่อไป.. ฉันอยากจะหยุดเขียนเรื่องราวการเมืองของไทยไปสักระยะ อยากนั่งมองดูผลกรรมที่มันกำลังทำงานของมันอย่างเงียบๆ .. ทว่า ..ฉันเองก็ยังอยากจะขอสงวนสิทธิ์และใช้สิทธิ์ในการแสดงความคิดเห็นทางการเมืองผ่านบ้านของบล็อกเกอร์ท่านอื่นๆที่เขียนงานด้านการเมือง เฉกเช่นเดิม .. อาจจะสั้นบ้าง ยาวบ้าง แล้วแต่ห้วงสถานการณ์ หนักบ้าง เบาบ้างแล้วแต่ห้วงอารมณ์ แต่ ..ฉันยังยืนยันว่าฉันยังสนใจปัญหาการเมืองของชาติบ้านเมืองอยู่ตลอดเวลา การเมืองมันเป็นชีวิตของฉันไปแล้ว .. แต่ว่าชีวิตเรา ยังคงมีเรื่องราวอื่นๆอีก มันยังคงมีเรื่องของประวัติศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ธรรมชาติสิ่งแวดล้อม ปรัชญา ศาสนา วรรณกรรม วรรณคดี บทกวี และ บทเพลง มากมาย.. รวมถึงเรื่องราวของมนุษย์ในแง่มุมอื่นๆอีก หลายๆแง่มุม ให้ฉันได้คิด ให้ฉันได้เขียนถึง สัปดาห์ที่ผ่านมาฉันเตรียมเรื่องราว สงครามเวียดนามไว้เขียนสองสามบท มีเรื่องราวอินเดียนแดงอีกประมาณสองสามบท และ มีบทเขียนเรื่องสั้นขนาดยาวอีกสองสามเรื่อง ที่อยากจะเขียนบันทึกลงใน.. บล็อก " กลิ่นหอมของบ้าน " .. ฉันอยากจะเอาเวลาในชีวิตมานั่งเขียนเรื่องราวต่างๆเหล่านี้มากกว่า ดีกว่าใช้พื้นที่ในแต่ละเอ็นทรี่ไปเขียนถึงมนุษย์โลกที่ป่วยเป็นโรคทางวิญญาณอย่างหนัก อย่างเช่น นายทักษิณ นางพจมาน หรือ นายสมัคร ตลอดจนลิ่วล้อขี้ข้าบริวารทั้งหลาย เช่นที่ผ่านๆมาหลายเดือน .. แท้จริงแล้ว กฎแห่งกรรม กำลังทำงานของมันอยู่อย่างสม่ำเสมอ !!.. หากคนเหล่านี้ไม่ยอมเข้ารับการเยียวยารักษาโดยใช้ตัวยาที่มีชื่อเรียกว่า "ธรรมะ" แล้ว พวกเขาย่อมจะได้ ป่วยหนัก จนกระทั่งต้องได้รับผลกรรมอันเลวร้ายในชีวิตของพวกเขาไม่วันใดก็วันหนึ่ง.. เฉกเช่นเดียวกัน .. พวกแก๊งค์โจรห้าร้อยทั้งหลาย แก๊งค์เด็กนรกทั้งหลาย ที่ในแต่ละวัน ในแต่ละค่ำคืนของชีวิตพวกเขา เที่ยวตระเวนสร้างเวรกรรมทำความเดือดร้อนให้แก่ผู้คนในสังคมไม่หยุดหย่อน .. ฉันเชื่อว่า ไม่วันใดก็วันหนึ่ง ในเร็ววันนี้ .. พวกเขาเหล่านี้ คนชั่วช้าเลวทรามเหล่านี้ จะต้องพบจุดจบที่จะส่งผลให้ชีวิตของพวกเขานั้นทุกข์ทรมานไม่ต่างจากการตกลงไปในขุมนรกอเวจีที่มีเปลวเพลิงอันร้อนแรงคอยเผาผลาญอย่างแน่นอน !! ..
วินเซนต์ ขอนแก่น .. ๔ มิถุนายน ๒๕๕๑
" ฝากไว้ก่อนเถอะ .. เจ้าโรบิ้น !! "
.. ขอบคุณบทเพลงจากอินเตอร์เน็ท .. |
ถึง บล็อกเกอร์ ทุกท่าน โปรดอ่าน
ด้วยทาง บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ได้ติดต่อขอความร่วมมือ มายังเว็บไซต์และเว็บบล็อกต่าง ๆ รวมไปถึงเว็บบล็อก OKnation
ห้ามให้มีการเผยแพร่ผลงานอันมีลิขสิทธิ์ ของบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ บนเว็บ blog โดยกำหนดขอบเขตของสิ่งที่ห้ามทำ และสามารถทำได้ ดังนี้
ห้ามทำ - การใส่ผลงานเพลงต้นฉบับให้ฟัง ทั้งแบบควบคุมเพลงได้ หรือซ่อนเป็นพื้นหลัง และทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือ copy code คนอื่นมาใช้ - การเผยแพร่ file ให้ download ทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือฝากไว้ server คนอื่น สามารถทำได้ - เผยแพร่เนื้อเพลง ต้องระบุชื่อเพลงและชื่อผู้ร้องให้ชัดเจน - การใส่เพลงที่ร้องไว้เอง ต้องระบุชื่อผู้ร้องต้นฉบับให้ชัดเจน จึงเรียนมาเพื่อโปรดปฎิบัติตาม มิเช่นนั้นทางบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ จะให้ฝ่ายดูแลลิขสิทธิ์ ดำเนินการเอาผิดกับท่านตามกฎหมายละเมิดลิขสิทธิ์
OKNATION
กฎกติกาการเขียนเรื่องและแสดงความคิดเห็น
1 การเขียน หรือแสดงความคิดเห็นใด ๆ ต้องไม่หมิ่นเหม่ หรือกระทบต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ หรือกระทบต่อความมั่นคงของชาติ
2. ไม่ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่นในทางเสียหาย หรือสร้างความแตกแยกในสังคม กับทั้งไม่มีภาพ วิดีโอคลิป หรือถ้อยคำลามก อนาจาร 3. ความขัดแย้งส่วนตัวที่เกิดจากการเขียนเรื่อง แสดงความคิดเห็น หรือในกล่องรับส่งข้อความ (หลังไมค์) ต้องไม่นำมาโพสหรือขยายความต่อในบล็อก และการโพสเรื่องส่วนตัว และการแสดงความคิดเห็น ต้องใช้ภาษาที่สุภาพเท่านั้น 4. พิจารณาเนื้อหาที่จะโพสก่อนเผยแพร่ให้รอบคอบ ว่าจะไม่เป็นการละเมิดกฎหมายใดใด และปิดคอมเมนต์หากจำเป็นโดยเฉพาะเรื่องที่มีเนื้อหาพาดพิงสถาบัน 5.การนำเรื่อง ภาพ หรือคลิปวิดีโอ ที่มิใช่ของตนเองมาลงในบล็อก ควรอ้างอิงแหล่งที่มา และ หลีกเลี่ยงการเผยแพร่สิ่งที่ละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบหรือวิธีการใดก็ตาม 6. เนื้อหาและความคิดเห็นในบล็อก ไม่เกี่ยวข้องกับทีมงานผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซต์ โดยถือเป็นความรับผิดชอบทางกฎหมายเป็นการส่วนตัวของสมาชิก คลิ้กอ่านเงื่อนไขทั้งหมดที่นี่"
OKnation ขอสงวนสิทธิ์ในการปิดบล็อก ลบเนื้อหาและความคิดเห็น ที่ขัดต่อความดังกล่าวข้างต้น โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของบล็อกและเจ้าของความคิดเห็นนั้นๆ
|
||
![]() ![]() |