*/
หอมกลิ่นวรรณกรรม | ||
![]() |
||
หอมกลิ่นวรรณกรรม |
||
View All ![]() |
DONNIE DARKO | ||
![]() |
||
MAD WORLD BY GARY JULES |
||
View All ![]() |
<< | มีนาคม 2011 | >> | ||||
อา | จ | อ | พ | พฤ | ศ | ส |
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | ||
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | 29 | 30 | 31 |
.. ขอบคุณภาพจากอินเตอร์เน็ต .. .......................................... แผ่นดินไหว-สึนามิเจแปน !!! แค้นธรรมชาติถึงคราวชำระ..มนุษย์เราก็ขยะดีๆนี่เอง ..??!!..
รุนแรงสุด.. ในรอบ ๑๔๐ ปี.. คือ สถิติใหม่ของแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหวที่ญี่ปุ่นครั้งนี้.. ความสยดสยองของมันนั้น รุนแรงและน่าสะพรึงกลัวขนาดไหน ? ซีเอ็นเอ็น บีบีซี และ อัลจาซีรา ก็รายงานภาพข่าว ช็อตต่อช็อต มาให้พวกเราได้ชมกันจนอิ่มหนำระกำใจกันไปหมดแล้ว .. อาคาร บ้านเรือน รถยนต์ เรือประมง เรือยอร์ช เรือบรรทุกขนาดใหญ่ ปลิวตามแรงคลื่นเหมือนเศษขยะของเด็กเล่น ความสูงของคลื่น ๑๐ เมตร สูงพอๆกับตึก ๓ ชั้น ความเร็วและความแรงไม่ต้องพูดถึงโหมกระหน่ำซัดเข้าตรงไหน..ก็ราบเป็นหน้ากลองตรงนั้น !!!.... ดังนั้น..คนที่อยู่บนตึกโกโรโกโส สี่ชั้น ห้าชั้น หกชั้น..ก็ใช่ว่าจะปลอดภัย .. หากเจอคลื่นยักษ์ซัดหนักๆเข้าไป ..ก็มีหวังล้มครืนลงได้หมด ..ไม่เหลือซาก!!!.. ข่าวสึนามิ ถล่มญี่ปุ่น ..มันทำให้เห็นภาพชีวิตที่เล็กกระจิ๊ดริดของมนุษย์เราได้ชัดเจนยิ่ง หากธรรมชาติคิดจะเก็บกวาดเราออกไปวันใด ??.. เราก็เหมือนกับ ..เศษขยะที่กองรกอยู่ตามท้องถนนหนทางดีๆนั่นแหละ !!! .. เพียงแต่ว่า ..เราคือเศษขยะที่มีชีวิต มีความกลัวเจ็บ กลัวตาย กลัวการย้ายถิ่น กลัวการเสียทรัพย์สิน และ กลัวการเสียคนที่เรารักไป ..เราเป็นเศษขยะที่มีหัวใจ และ มีสมองมีปัญญา เรื่องพวกนี้จะไม่คิดถึงมันก็ไม่มีปัญหา ทว่า มาคิดอีกทีจะไม่คิดถึงมัน จะไม่ระแวดระวังภัยของมันมันก็ไม่ได้.. ดังนั้น ..เมื่อธรรมชาติเขาไม่ปรารถนาเรา ทว่า เราก็ดันไม่มีที่จะไปอีก จะไปอยู่ดาวดวงใหม่หรือ ??พัฒนาการทางด้านยานอวกาศของเราก็ไม่มีผลิตออกมาให้มันเกลื่อนถนนเหมือนพวก รถแท็กซี่ รถเก๋ง รถ ขสมก.ในกรุงเทพฯ ก็เลยไม่รู้จะหนีไปไหน ??.. ๓ ชั่วโมง ..ที่คนญี่ปุ่นในเขตที่ได้รับภัยพิบัติได้รับเตือนก่อนล่วงหน้าว่าพวกเขาจะเจอกับสึนามิ .. สิ่งแรก ..ที่พวกเขาคิดถึงเลย ก็น่าจะเป็น..เรื่องของชีวิตของพวกเขา !!!.. นี่คือ ..เกร็ดความรู้ และ บทเรียนสอนใจ ที่คนญี่ปุ่นฝากเตือนใจเราผ่านภาพข่าว รถยนต์ที่กองอยู่เต็มลานหลายร้อยคัน สมบัติพัสถานในบ้านเรือนที่กองพะเนินเต็มถนน.. ไม่ใช่สิ่งที่ ..คนญี่ปุ่นจะไปมัวพะวงหวงแหนในช่วงเวลาสั้นๆเพียง ๓ ชั่วโมง !!!.. สิ่งที่พวกเขาคิดและทำทันทีจากประสบการณ์ของมนุษย์โลกที่อาศัยอยู่ในแดนดินที่เป็นวงแหวนแห่งไฟ รอบล้อมด้วยภูเขาไฟที่พร้อมปะทุ อยู่บนแผ่นดินที่มีรอยเลื่อนของเปลือกโลกผ่ากลางทับซ้อนกันอยู่ ๓ แผ่นใหญ่ๆ ก็คือ การหนีทันที !!!.. การหนีขึ้นไปที่สูงให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้ คือ สิ่งที่คนญี่ปุ่นผู้มีประสบการณ์ประสบภัยพิบัติขั้นเทพเขาทำกัน ขนาดแผ่นดินบ้านเขานั้นมันขยับเขยื้อนเคลื่อนตัวบ่อยๆ จนการสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหวที่ญี่ปุ่นกลายเป็นภาพชีวิตปกติประจำวันของพวกเขา .. ทว่า พวกเขาก็ไม่เคยประมาทระมัดระวังทุกฝีก้าวและติดตามข่าวสารตลอด .. มันจึงเป็นมูลเหตุสำคัญที่ทำให้พวกเขาสูญเสียชีวิตผู้คนของพวกเขาน้อยเกินคาด !!!.. รถราไม่เอาไป สมบัติพัสสถานไม่ต้องหอบไป หอบไปแต่ชีวิตและสิ่งของจำเป็นพอหิ้วไหวเท่านั้น มันก็เลยทำให้พวกเขาสูญเสียชีวิตกันน้อยมากๆ .. หากเปรียบเทียบกับเหตุรุนแรงทางภัยธรรมชาติจากทั่วทุกมุมโลกในช่วงปีที่ผ่านมานั้น แม้ญี่ปุ่นจะสูญเสียทรัพย์สินอาคารบ้านเรือนเรือรถไปมากมายเพียงใด .. ทว่า เหตุการณ์ภัยพิบัติครั้งนี้ในญี่ปุ่นถือว่า .. พวกเขาสูญเสียชีวิตผู้คนน้อยมาก !!!.. ส่วนหนึ่งอาจจะเกิดจากการที่คนญี่ปุ่นนั้นเป็นคนมีระเบียบมีวินัยและคิดถึงสังคมส่วนรวม มันเลยทำให้คนญี่ปุ่นไม่เกิดความเห็นแก่ตัวจนเอาความเห็นแก่ตัวนั้นไปสร้างความเดือดร้อนให้สังคม ดูอย่างง่ายๆเรื่องของการทิ้งรถยนต์ ทิ้งบ้านเรือนของพวกเขานั่นแหละ .. ลองคิดภาพคนตรงริมชายทะเลจำนวนหลายพันครัวเรือน แห่ไปอัดแน่นกันอยู่ในรถยนต์หมด และ แห่กันขึ้นไปบนถนนจนหมดพร้อมๆกัน มันจะกรีดขวางการจราจรขนาดไหนในช่วงเวลาสั้นๆที่ทางการเตือนภัยมา .. ดีไม่ดีได้ไปตายดับอนาถกันเต็มบนท้องถนนแทนตายคาบ้าน.. ซึ่งมันก็คงจะเป็นภาพอเนจอนาถไม่ต่างกัน !!.. ............................................. ภาพสึนามิถล่มญี่ปุ่น.. ที่มีเกลียวคลื่นยักษ์สูงท่วมบ้านท่วมอาคารบ้านเรือนผู้คน. โดยแรงโถมกระหน่ำของคลื่นมหาภัยนั้นรุนแรงขึ้นมาบนพื้นดินกวาดเรียบสิ่งปลูกสร้างต่างๆไปไกลเป็นระยทางหลายกิโลเมตรนั้น .. ทำให้นึกถึงภัยพิบัติสึนามิที่ประเทศไทยของเราโดนหางเลขเมื่อหลายปีก่อน และ นึกถึงเรื่องของการเตือนภัยสึนามิในไทย ที่ยังเป็นไปแบบอวดรู้อวดเก่งกันจนไม่รู้ว่าจะเชื่อข้อมูลของฝ่ายไหนดี.. คิดถึงอุปนิสัยของคนไทย ..ที่มักจะไม่สนใจรับฟังข่าวสารข้อมูลประจำวัน และ มักจะไม่เชื่อว่าภัยอันตรายต่างๆนั้นจะมาถึง และ มักจะพะวักพะวงกับทรัพย์สมบัติ มากกว่าจะห่วงชีวิตผู้คน หรือ ชีวิตตนเอง .. คิดถึงสถิติแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ ที่เกิดถี่ขึ้นมาเรื่อยๆรอบๆบ้านเรา โดยเฉพาะในแถบเอเชีย .. ไม่วันใดวันหนึ่ง ..ประเทศไทยของเรานั้น มีสิทธิ์โดนภัยพิบัติแบบเต็มๆอีกรอบแน่ๆ.. ซึ่งเชื่อได้ว่า ..มันคงจะไม่นานนับจากนี้ เหตุเพราะว่าจากสถิติแผ่นดินไหวขนาดใหญ่เกิน ๗ ริกเตอร์ตามรายงานข่าว ภายในช่วงปี ๒๕๕๓ ที่ผ่านมานั้น มันเกิดขึ้นมาถี่ยิบถึง ๒๒ ครั้ง ครั้งที่ทำให้เกิดการสูญเสียชีวิตหนักสุดก็เป็นเหตุการณ์ที่ประเทศเฮติ ที่มีคนตายถึง ๒๓๐,๐๐๐ คน .. เหมือนมันใกล้เข้ามา และ มันก็วนเวียนรอบๆบ้านเรานี่แหละ ผมเองตอนนี้ไม่รอฟังข่าวแผ่นดินไหวที่ไหนทั้งนั้น เงี่ยหูฟังแต่แผ่นดินไหวอินโดนีเซียอย่างเดียว ..ว่าเกิดขึ้นตอนไหน รุนแรงไม่รุนแรง ??!!!.. เหตุเพราะ..ถ้าอินโดนีเซียเกิดแผ่นดินไหวตอนไหนมันสั่นสะเทือนมาถึงเมืองไทยทุกที และ หากมันเกิดแบบหนักๆ อย่างเช่นปีที่เกิดสึนามินั้น มันก็หายนะของชาวโลกดีๆนี่แหละ .. ดังนั้น ภัยพิบัติพวกนี้ มันไม่จำเป็นต้องเกิดขึ้นที่ประเทศไทยโดยตรง .. เราก็อาจโดนลูกหลงได้ทุกเมื่อ !!! ........................................ ที่ผ่านมาบ้านเรา.. ได้ยินข่าวภัยร้าย และ ได้รับข่าวเตือนภัยเหล่านี้ถี่ขึ้น.. แม้ที่ผ่านมานั้นเราจะไม่เคยโดนจังๆเลยจนทำให้การระวังภัยที่ผ่านมาเป็นไปหละหลวม.. ทว่า ต่อไปนี้ในอนาคตเราก็ไม่ควรที่จะประมาทอีกต่อไปแล้ว ประเภทที่พวกนักวิชาการด้านธรณีวิทยาชอบอวดเก่งออกมาฟันธงกันว่าเมืองไทยอีกนานกว่าโดนภัยพิบัติรุนแรงเหมือนคราวโดนสึนามินั้น ฟังดูแล้วก็ได้ก็ได้รันทดใจ ..ใครมันก็พูดได้ฟันธงได้อ้างงานวิชาการงานวิจัยนั่นนีได้ แต่ธรรมชาติเวลาพิโรธแล้ว มันมีปาก หรือ มีสัญญาณบอกล่วงหน้าไหม ?.. ที่ผ่านมาพอเกิดเหตุการณ์ทีเห็นเงียบเป็นเป่าสากกันหมดเลย ดังนั้นเราต้องทำเรื่องเตรียมพร้อมป้องกันให้เป็นหัวใจหลักสำคัญ จะเกิดไม่เกิดไม่รู้ ไม่เกิดรุ่นเรา ก็ขอให้คิดทำไว้เพื่อให้รุ่นลูกรุ่นหลานเหลนโหลนเราปลอดภัยด้วยอย่าคิดว่าเป็นการสิ้นเปลืองแต่ควรคิดว่าเป็นเรื่องที่ควรจะทำให้เร็วที่สุดและทำให้มีระบบที่ดีที่สุดได้มาตรฐานสากลที่สุด !!!.. โดยเฉพาะการทำความเข้าใจอย่างถูกต้องเกี่ยวกับภัยพิบัติทางธรรมชาติ และ การสร้างระเบียบวินัยเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการอพยพลี้ภัย รวมถึงการลงทุนระบบเตือนภัยที่ทันสมัยที่เชื่อถือได้.. เพราะภัยพิบัติพวกนี้..มันเดาไม่ได้ มันไม่แน่ว่ามันจะเกิดขึ้นที่ไหน ? ในยามใด ?.. ครั้นจะมานั่งฟันธง มานั่งเก็งวิชาเดาสุ่มเหมือนพวกนักวิชาการกรมอุตุ หรือ นักธรณีวิทยาเมืองไทยเราเขาชอบมานั่งโก่งคออวดวิชาความรู้กันนแบบสะเปะสะปะล่องลอยนั้นก็คงจะไม่ได้อีกต่อไปแล้ว เพราะคนพวกนี้รับผิดชอบชีวิตผู้คนเรือนหมื่นเรือนแสนที่อยู่ในเขตเสี่ยงภัยไม่ได้เลยไม่แม้แต่ชีวิตเดียว.. ทุกวันนี้ ..จังหวัดแถบชายทะละอันดามันของไทย ที่มีสิทธิ์เจอสึนามิแน่นอนในอนาคต.. เราเตรียมพร้อมสำหรับการหนีตายกันดีหรือยัง ?? ระบบของเราทันสมัยมากมายขนาดไหน ?? หรือ แค่เป็นการออกข่าวลวงกันไปลวงกันมาเพื่อสร้างราคาให้กับองค์กรแค่นั้น ???.. กรุงเทพมหานคร ..อาคารสูงที่อยู่บนผืนดินที่อ่อนยวบยาบอีกล่ะ ผังเมืองที่กลายเป็นพังเมืองไปแล้วเพราะสิ่งก่อสร้างที่สร้างอัดกันไม่หยุดอีกล่ะ .. แผนรองรับ ๑๐-๒๐ ปีข้างหน้านี้ มีหรือยัง ? พร้อมจะเอาจริงเอาจังกันได้หรือยัง ??.. หรือ..จะรอให้มันพังถล่มกันทั้งเมืองแล้วตายเกลื่อนกันเรือนแสนค่อยมาคิดวางแผนกันใหม่ ??.. ตอนนี้อะไรๆเราก็ประมาทไม่ได้แล้วล่ะครับ ??..ใกล้ๆบ้านเราก่อนหน้านี้ก็ที่ประเทศลาวแผ่นเปลือกโลกก็เคลื่อนตัวจนเกิดแผ่นดินไหว ทำเอาวัดไทยเสียหาย ตึกอาคารสูงเมืองไทยสั่นสะเทือนต้องวิ่งหนีลงตึกกันจนลิ้นห้อย นี่เป็นสัญญาณเตือนภัยที่ไม่ใช่น้อยๆเลยนะครับ .. ผมเองเคยมีประสบการณ์วิ่งลงตึก ๒๐ ชั้นเมืองไทยมาแล้ว ตอนหลังเกิดสึนามิไม่กี่เดือน .. ตอนนั้นแผ่นดินไหวซ้ำที่อินโดนีเซีย ตึกนี้เอียงไปมาแก้วกาแฟวางอยู่บนโต๊ะเทราดจนตกพื้น.. สั่งลูกน้องออกจากออฟฟิศให้วิ่งลงตึก ยังโดนหัวหน้าโทรมาห้ามไม่ให้ออกจากออฟฟิศกันอีก.. เลยต้องมีการแข็งข้อกันยกใหญ่ ไม่ใช่ไม่ฟังคำสั่งผู้บังคับบัญชานะครับ แต่ปัญญาผู้บังคับบัญชามันไม่มี เหตุการณ์อกสั่นขวัญแขวนขนาดนั้น คนวิ่งหนีตายกันลงมาเยอะขนาดนั้น และ วิ่งลงมาจากตึกที่สูงขนาดนั้น หมดแรงและเหนื่อยขนาดนั้น.. มันดันโทรมาสั่งให้เราขึ้นไปทำงานต่อ แถมให้เหตุผลสัปดนอีกว่า..มันหยุดสั่นแล้ว !!.. นี่แหละสมองแมวแมวของมนุษย์ !!!.. ........................................ วินเซนต์ ริมโขง หนองคาย ๑๒ มีนาคม ๒๕๕๔ ........................................
|
ถึง บล็อกเกอร์ ทุกท่าน โปรดอ่าน
ด้วยทาง บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ได้ติดต่อขอความร่วมมือ มายังเว็บไซต์และเว็บบล็อกต่าง ๆ รวมไปถึงเว็บบล็อก OKnation
ห้ามให้มีการเผยแพร่ผลงานอันมีลิขสิทธิ์ ของบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ บนเว็บ blog โดยกำหนดขอบเขตของสิ่งที่ห้ามทำ และสามารถทำได้ ดังนี้
ห้ามทำ - การใส่ผลงานเพลงต้นฉบับให้ฟัง ทั้งแบบควบคุมเพลงได้ หรือซ่อนเป็นพื้นหลัง และทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือ copy code คนอื่นมาใช้ - การเผยแพร่ file ให้ download ทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือฝากไว้ server คนอื่น สามารถทำได้ - เผยแพร่เนื้อเพลง ต้องระบุชื่อเพลงและชื่อผู้ร้องให้ชัดเจน - การใส่เพลงที่ร้องไว้เอง ต้องระบุชื่อผู้ร้องต้นฉบับให้ชัดเจน จึงเรียนมาเพื่อโปรดปฎิบัติตาม มิเช่นนั้นทางบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ จะให้ฝ่ายดูแลลิขสิทธิ์ ดำเนินการเอาผิดกับท่านตามกฎหมายละเมิดลิขสิทธิ์
OKNATION
กฎกติกาการเขียนเรื่องและแสดงความคิดเห็น
1 การเขียน หรือแสดงความคิดเห็นใด ๆ ต้องไม่หมิ่นเหม่ หรือกระทบต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ หรือกระทบต่อความมั่นคงของชาติ
2. ไม่ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่นในทางเสียหาย หรือสร้างความแตกแยกในสังคม กับทั้งไม่มีภาพ วิดีโอคลิป หรือถ้อยคำลามก อนาจาร 3. ความขัดแย้งส่วนตัวที่เกิดจากการเขียนเรื่อง แสดงความคิดเห็น หรือในกล่องรับส่งข้อความ (หลังไมค์) ต้องไม่นำมาโพสหรือขยายความต่อในบล็อก และการโพสเรื่องส่วนตัว และการแสดงความคิดเห็น ต้องใช้ภาษาที่สุภาพเท่านั้น 4. พิจารณาเนื้อหาที่จะโพสก่อนเผยแพร่ให้รอบคอบ ว่าจะไม่เป็นการละเมิดกฎหมายใดใด และปิดคอมเมนต์หากจำเป็นโดยเฉพาะเรื่องที่มีเนื้อหาพาดพิงสถาบัน 5.การนำเรื่อง ภาพ หรือคลิปวิดีโอ ที่มิใช่ของตนเองมาลงในบล็อก ควรอ้างอิงแหล่งที่มา และ หลีกเลี่ยงการเผยแพร่สิ่งที่ละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบหรือวิธีการใดก็ตาม 6. เนื้อหาและความคิดเห็นในบล็อก ไม่เกี่ยวข้องกับทีมงานผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซต์ โดยถือเป็นความรับผิดชอบทางกฎหมายเป็นการส่วนตัวของสมาชิก คลิ้กอ่านเงื่อนไขทั้งหมดที่นี่"
OKnation ขอสงวนสิทธิ์ในการปิดบล็อก ลบเนื้อหาและความคิดเห็น ที่ขัดต่อความดังกล่าวข้างต้น โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของบล็อกและเจ้าของความคิดเห็นนั้นๆ
|
||
![]() ![]() |