.. ขอบคุณภาพจาก ผู้จัดการ เนชั่น และ อื่นๆในอินเตอร์เน็ต ..

...............................................

ฮาแตก แหกตา ... บ่อยครั้งที่ เหลิม ..เมาแล้ว..มั่ว ??!!..หมอโรคหูยืนยัน ..ก้านหูอักเสบ ..มีซะที่ไหน ?? .. เดินเซ หน้าแดง ไม่เกี่ยวกับหู .. มันอยู่ที่ ลิมิต ..แอลกอฮอล์ ..ล่ะม้างงง ..ฮ่า ??!!..

โบราณท่านว่า ..

อย่าถือคนบ้า อย่าว่าคนเมา ..

เหตุเพราะว่า .. คนบ้า และ คนเมานั้น ..มันคุยไม่รู้เรื่อง ..

อีกอย่าง ไอ้พวกคนบ้า เวลาเราไปบอกว่า มันบ้า มันก็ต้องปฏิเสธว่ามัน..ไม่ได้บ้า

เฉกเช่นกัน ไอ้พวกขี้เมา เวลามันเมา แล้วเราไปบอกมันว่า ..มันเมา มันก็ย่อมปฏิเสธ เสียงอ้อแอ้ๆ ลิ้นพันกันวันยังค่ำนั่นแหละว่า ..มันไม่ได้..มาวววววว ซักกะหน่อย !!..

ดร.เหลิม บางบอน กูรูทางด้านกฎหมายขายเป็ดของเรา งานนี้ชักจะจ๋อยแหลกซะแล้วล่ะครับ..

หลังจากเหตุการณ์ โดนกล่าวหาว่า "เมาแล้วมั่วในสภา" จนล่าสุด ออกอาการเดือดจัด ไปไล่ฟ้องร้องดะเรียบมาหมดตั้งแต่ สื่อมวลชนที่ลงข่าว ทั้่ง แนวหน้า สยามรัฐ ผู้จัดการ ไทยโพสต์ กรุงเทพธุรกิจ และ คม ชัด ลึก โดยหลงเหลือไทยรัฐไว้ เพราะยังกล้าๆกลัวๆไม่กล้าฟ้อง โดยอ้างว่าหากไทยรัฐยอมรับว่า เอาข้อมูลมาจาก รังสิมา รอดรัศมี ส.ส. ประชาธิปัตย์ .. เหลิม ก็จะยกฟ้องให้ ..

ส่วน ส.ส. ประชาธิปัตย์ ๓ คน .. ที่โดน เหลิม บางบอน ฟ้องแก้เกี้ยว แก้เขิน และ ฟ้องฟอกผิด ก็คือ รังสิมา รอดรัศมี , เทพไท เสนพงษ์ และ บุญยอด สุขถิ่นไทย ..

โดย เหลิม บางบอน ให้เหตุผลของการฟ้องร้องว่า เหลิม นั้นไม่ได้เมา ที่เดินเซ หน้าแดง เพราะหมอบอกว่าเป็น โรคก้านหูอักเสบ ????..

แต่ที่เดินไปชี้หน้า รังสิมา พร้อมบอกว่า ผมไม่ได้เมาเหล้า แต่เมารัก น่ะ..

มันหมายความว่า..อย่างไรกันแน่ครับ ท่าน เฉลิม ??..

หมิ่นประมาท ประทุษร้าย หรือ .. ชีกอ ???

..........................................

ล่าสุดเนี่ย ..

เรื่องนี้ชักจะวุ่นแล้วล่ะครับ ..

ทางแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคทางใบหูยื่นยัน..

โรคก้านหูอักเสบไม่มี เพราะ หูคนเรา ไม่มีก้านหู เหมือนสมอง ที่มี ก้านสมอง..

ชัดเจนไหมล่ะ ..อ่านรายละเอียดตามข่าวนี้ครับ

“โรคก้านหูอักเสบ” ศัพท์บัญญัติใหม่ที่ไม่มีในสารบบ!

กลายเป็นอีกโรคหนึ่งที่กำลังอยู่ในความสนใจของคนทั่วไปอย่างมากว่า “โรคก้านหูอักเสบ” ที่อยู่ดีๆ ก็เกิดอาการเสียศูนย์ ทรงตัวไม่อยู่ เดินเซถลา โยกไปเยกมาคล้ายกับคนเมา เป็นโรคอะไรกันแน่

รศ.นพ.ภาคภูมิ สุปิยพันธุ์ ประธานราชวิทยาลัยโสต ศอ นาสิกแพทย์ แห่งประเทศไทย กล่าวว่า โรคก้านหูอักเสบ ชื่อนี้ไม่เคยได้ยิน ไม่มีอยู่ในสาระบบศัพท์ทางการแพทย์ของโรคที่เกี่ยวกับหู ดังนั้น จึงไม่รู้ว่าหมายความว่าอย่างไร เพราะในร่างกายมนุษย์ไม่มีก้านหู มีแต่ก้านสมอง จึงเป็นไปได้ว่าผู้ป่วยอาจเกิดจากความเข้าใจผิดแล้วบัญญัติศัพท์ขึ้นมาใช้เอง

ประธานราชวิทยาลัยโสต ศอ นาสิกแพทย์ อธิบายต่อว่า ความจริงแล้วอาการเดินเอียง เซ เป็นไปได้ว่า เกิดจาการทำงานผิดปกติของประสาทหูชั้นใน ซึ่งเป็นส่วนที่ทำหน้าที่การทรงตัว ทั้งนี้หูแบ่งออกเป็น 3 ชั้น คือ 1.หูชั้นนอก 2.หูชั้นกลาง และ 3.หูชั้นใน สำหรับหูชั้นนอก ประกอบด้วย ใบหู ช่องหู และสุดที่แก้วหู ส่วนหูชั้นกลาง มีลักษณะเป็นโพรงอากาศขนาดเล็กเป็นกลไกนำเสียงมีกระดูกนำเสียง 3 ชิ้น คือ ค้อน ทั่ง และโกลน ขณะที่หูชั้นใน ทำหน้าที่เกี่ยวกับการทรงตัว โดยมีเซลล์ประสาท 2 กลุ่ม คือ กลุ่มแรกทำหน้าที่รับการได้ยิน และเชื่อมต่อกับกลุ่มที่สอง คือ กลุ่มที่ทำหน้าที่รับการทรงตัว เช่น เวลากระโดดตบลงมาย่อตัวคำสั่งของสิ่งเหล่านี้ กลไกของหูชั้นในจะถ่วงน้ำหนักไปด้านหลัง ทำให้รู้ว่าศีรษะอยู่ในตำแหน่งใด รวมถึงการแหงนหน้า หรือก้มหน้าก็ต้องใช้กลไกเดียวกันนี้

รศ.นพ.ภาคภูมิ กล่าวต่อว่า กรณีที่เซลล์ในหูชั้นในเกิดความผิดปกติ ในส่วนของเซลล์ประสาทส่วนรับเสียงจะทำให้หูตึง ในส่วนเซลล์ประสาทการทรงตัวจะทำให้เกิดอาการเวียนศีรษะ บ้านหมุน อาเจียน ถ้าเป็นมากๆเรื้อรังจะทำให้การทำงานของหูชั้นในแย่ลงไปเรื่อยๆ เกิดอาการเดินเอียงหรือเซได้

รศ.นพ.ภาคภูมิ กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม การเป็นโรคต่างๆ ของหูชั้นในมีหลายโรค มีหลายสาเหตุ และขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่มีปัญหา ยกตัวอย่าง โรคหูดับ สเตรปโตคอคคัส ซูอิส ที่เกิดจากการกินลาบ ลู่ หมูดิบ ซึ่งเป็นการติดเชื้อแบคทีเรียจากสุกรทำให้เยื้อหุ้มสมองอักเสบ และอาจส่งผลทำให้หูหนวกได้ นอกจากนี้อาจเกิดอาการหูดับจากโรค เช่น เบาหวาน ความดันสูง สุดท้ายเจอไม่บ่อยเป็นโรคเนื้องอกในสมองของเส้นประสาทหูทำให้เซลล์ประสาททำงานน้อยลง ทำให้มีปัญหาทั้งการได้ยิน การทรงตัว เดินไม่ตรง หรือปากเบี้ยวได้ ทั้งนี้ อาการของ โรคหูดับ อาจเป็นเพียงชั่วคราว หรือเกิดขึ้นอย่างถาวรก็ได้

รศ.นพ.ภาคภูมิ แจกแจงอีกว่า ส่วนโรคน้ำในหูไม่เท่ากัน เป็นโรคที่แรงดันน้ำในช่องหูชั้นในผิดปกติ ของเหลวที่อยู่ภายในส่วนที่เป็นเยื่อหุ้มภายในจะมีน้ำคั่งมากผิดปกติ ทำให้การไหลเวียนไม่สะดวก แรงดันที่เพิ่มขึ้นในหูชั้นในจะขัดขวางการทำงานของเซลล์ประสาทที่เกี่ยวกับการได้ยินและการทรงตัว ทำให้สูญเสียการได้ยินและความสมดุล จึงทำให้เกิดอาการเวียนศีรษะขึ้น เมื่อแรงดันมากขึ้นผู้ป่วยจะรู้สึกตึงๆ ในหูข้างที่ผิดปกติ ซึ่งหากน้ำระบายได้ดีขึ้นก็จะฟื้นตัวเป็นปกติแต่ก็จะกลับมาเป็นใหม่ได้อีก ไม่หาย 100%

ส่วนอาการหูอักเสบนั้นไม่มีผลกับการเดิน หรือการทรงตัว ลักษณะอาการเริ่มแรกของช่องหูอักเสบ คือตึงปวดในช่องหู ซึ่งมักได้ประวัติว่าแคะหู หรือว่ายน้ำมาก่อน การดึงใบหู หรือกดหน้าใบหู จะปวดมากขึ้น ถ้าส่องในช่องหู จะพบว่า ช่องหูบวม แดงอักเสบ ช่องหูแคบลง หูอื้อ ระยะต่อมาจะบวมอักเสบมากขึ้น ช่องหูแคบเล็ก ลงมาก หูอื้อมากขึ้น ปวดมากโดยเฉพาะเวลากลางคืน บางรายมี หนองไหลออกมาจากหูด้วย

ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นโรคอะไรที่เกี่ยวกับหู อย่ารอช้า รีบพบแพทย์ และให้แพทย์เป็นผู้วินิจฉัย แต่ที่แน่ๆ “โรคก้านหูอักเสบ” คุณหมอยืนยันว่า คลุกคลีอยู่ในวงการแพทย์มานานกว่า 40 ปี ไม่เคยได้ยิน และไม่มีอย่างแน่นอน

......................................

http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9550000026701

...............................

@@@@@@@

เหลิม บางบอน..

อาศัยลูกมั่ว ชกก่อนได้เปรียบ ..

เมื่อรู้ว่าตัวเอง เสียเปรียบ และ เพลี่ยงพล้ำ ที่คาดว่ารอบนี้ น่าจะถลำตัวจนเสียเก้าอี้รองนายกฯ แน่ๆ ..จึงเดินหน้าให้ทีมทนายของตน ไล่ฟ้องร้องเอาผิดฝ่ายตรงข้าม เพื่อแก้เกี้ยวทางการเมือง..

โดยอ้างเรื่อง ป่วย โดยอ้างเรื่องมีใบรับรองแพทย์ ..โดยอ้างเรื่อง รักษาสิทธิและเสรีภาพของตน โดยอ้างเรื่อง เสื่อมเสียเกียรติของตน เพื่อให้คนเชื่อตาม พร้อมทั้งท้าทายให้ตรวจแอลกอฮอล์ หลังผ่านมาแล้ว ๒ วัน ๒ คืนเต็มๆ (ตรวจหาขี้เหรอ ??) ..

จริงๆ สื่อมวลชน ที่โดน เหลิม บางบอน ฟ้องเอาในคราวนี้ ควรจะหาช่องทางฟ้องกลับ ..

และ ใช้เป็นกรณีศึกษาของภัยคุกคามสื่อในอนาคตได้ด้วย !!!..

ไม่เช่นนั้นแล้ว ..ในอนาคต นักการเมืองเลวๆ นักการเมืองชั่วๆอื่นๆ นักการเมืองที่มีอิทธิพลในอำนาจรัฐอื่นๆ อาจจะใช้วิธีการเดียวกันนี้ ..ปิดปากสื่อ ไม่ให้สื่อขยับขยายรายละเอียดข้อมูลลึกๆของข่าวสำคัญๆ ที่จะส่งผลเสียหายถึง .. ชื่อเสียงเกียรติยศของนักการเมืองเลวๆเหล่านั้น !! ..

รัฐสภา มีมาช้านาน ไม่เคยเสื่อมเสีย และ เสื่อมทราม เท่ากับยุค รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ..

นี่คือ เรื่องที่คนไทย ทุกวงการ ควรจะช่วยกันออกมา ..ต่อสู้ร่วมกัน !!!..

เพื่อกู้ภาพลักษณ์ รัฐสภาไทย กลับคืนมา ไม่ใช่ปล่อยให้เป็นที่ สมสู่ เสพสมอารมณ์หมาย หรือ เมาและ มั่ว ของพวก เสือ สิงห์ กระทิง แรด เมืองไทย จนเพลิน..

จนเกินจะเยียวยา กลับคืนมาได้ในท้ายที่สุด !!!..

.. จำไว้.. มอ มอ มอ ..ย่อมาจาก .. เมา ไม่ มั่ว ... เอื๊อกๆๆๆๆ !!! ..

...............................

วินเซนต์

ริมโขง บึงกาฬ

๒๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕

.................................

Music Playlist at MixPod.com