..ขอบคุณภาพจาก เนชั่น ผู้จัดการ facebook และ อื่นๆในอินเตอร์เน็ต ..

.........................................

ศาลโลก ศาลเหลี่ยม และ ศาลลิ้ม !!! รวมพล..คนมาหาเฮีย..ทำสยามเมืองยิ้ม เป็น สยามเมืองยับ ..คนไทยรับผลกรรม ..ฮุนเซน และ มหาอำนาจหัวแดง รับผลกำไร ??!!..

วานนี้..

ศาลโลก ..

เจ้ากรรมนายเวรเก่าเขาพระวิหาร ..

ออกนั่งบัลลังก์ ..ชี้คำสั่งแนะนำ ที่ไม่ใช่คำสั่งชี้ขาด (อีกล่ะ) ให้รัฐบาลไทย และ รัฐบาลเขมร ถอนกำลังทหารออกจากบริเวณพื้นที่ข้อพิพาทเขาพระวิหาร ..ตรงบริเวณ ๔.๖ ตร.กม. เจ้าปัญหา และ บริเวณอื่นๆ..

แรกเริ่มเดิมทีก่อนที่จะมีการวินิจฉัยตัดสินของศาลโลก ฮุนเซน และ ทีมงานเขมร มั่นใจสุดชีวิตว่าการยื่นฟ้องต่อศาลโลกเพื่อให้ศาลโลกมีมาตรการชั่วคราวในการออกคำสั่งชี้ขาดให้รัฐบาลไทยถอนทหารออกจากพื้นที่ข้อพิพาทตรงบริเวณเขาพระวิหารในครั้งนี้นั้น ..

ขแมร์ฮุนเซนมั่นใจว่ายังไงๆเขาก็จะสมมาตรปรารถนาในทุกๆด้าน..

ต่อการเดินหน้าบริหารจัดการเขาพระวิหารแน่นอน !!..

ภายหลังจากที่ก่อนหน้านั้น ฮุนเซนเกิดอาการหน้าแหกหมอไม่รับเย็บ จากการทะเล่อทะล่าเข็นกองทัพรถถังขี้สนิม และ ผลักดันกองกำลังอีแตะอาร์มี่ขแมร์แดงอันเกรียงไกรของฝ่ายตน เข้ามารับประทานลูกกระสุนปืนใหญ่ของฝ่ายไทยจนจุก รุกคืบเดินเกมป่วนชายแดนไทยต่อไปไม่ไหว ต้องร่นถอยกลับไปตั้งหลักใหม่ไกลถึงกรุงพนมเปญ..

การกลับไปตั้งหลักใหม่ไกลถึงกรุงพนมเปญในครั้งนั้น คือ การกลับไปเล่นเกมโต้กลับฉับพลันของฝ่ายเขมรที่ตั้งสูตรรอไว้นานแล้ว เป็นการกลับไปนำลูกเล่นเจ้าเล่ห์แบบเดิมๆมาเล่นซ้ำซากอีกครั้ง นั่นก็คือ การเอาข้ออ้างเหตุปะทะกันระหว่างทหารไทยและทหารเขมร การเอาข้ออ้างประเทศไทยที่เป็นประเทศที่ใหญ่กว่ากำลังรุกรานดินแดนของประเทศเขมรที่เป็นประเทศที่เล็กกว่าและด้อยกำลังอาวุธมากกว่า ไปเป็นข้ออ้างต่อศาลโลกเพื่อหวังว่าศาลโลกจะโน้มเอียงมาเห็นใจเขมรในฐานะผู้ถูกกระทำและถูกฝ่ายไทยย่ำยี..

ดังนั้น ..หวยของศาลโลก ไม่ว่าจะออกมาหน้าไหน ? ใน ๓ หน้าเมื่อวานนี้ ไม่ว่าจะยกคำร้องฝ่ายไทยและเอาตามเขมรหมด หรือ ยกคำร้องฝ่ายเขมรและเอาตามฝ่ายไทยหมด หรือ ออกมากลางๆแบบคำสั่งศาลเมื่อวานนี้นั้น ..ก็ไม่เกิดประโยชน์ใดๆต่อฝ่ายไทยทั้งนั้น..เพราะมันเป็นเกมของเขมรที่พาเราไปเล่น เขมรมันตั้งธงรอตั้งแต่แรกแล้วล่ะว่า ถ้ามันได้ผลประโยชน์จากคำตัดสินเขมรมันก็รับได้ แต่ถ้ามันเสียผลประโยชน์มันก็คัดค้านคำสั่งศาลโลกเหมือนกัน ไม่ได้แตกต่างอะไรจากธงของฝ่ายไทยเราเท่าไหร่หรอก  !!!..

ปัญหาข้อขัดแย้งต่างๆจึงยังดำรงคงอยู่ต่อไป แม้สิ้นสุดคำพิพากษาตัดสินของศาลโลกแล้ว การถอนกำลังทหารของทั้งฝ่ายไทยและฝ่ายเขมร ก็ยังคงเป็นเรื่องที่ยากต่อการปฏิบัติได้จริงอยู่ดี ..

ไม่มีฝ่ายใดถอนกำลังออกมาก่อนอย่างแน่นอน และ หากว่าคำสั่งศาลโลกพยายามจะชี้ข้อแนะนำว่าตรงพื้นที่ข้อพิพาทเขาพระวิหารโดยรอบที่ศาลโลกตีกรอบเอาไว้นั้น ควรเป็นพื้นที่เขตปลอดทหาร แต่เราอย่าลืมว่าที่ผ่านมานั้น..ตรงบริเวณนั้นทั้งหมดมีคนเขมร (ทหารขแมร์แปลกปลอม) ได้เข้าไปอยู่อาศัยมานานนับสิบปีแล้ว ตั้งแต่ปี ๒๕๔๔..

ภายหลังจากที่รัฐบาลทักษิณขายชาติ ..

ได้เข้ามาบริหารจัดการงาบประเทศไทย !!!..

.....................................

หมู่บ้านเขมรอำพราง..

ที่เป็นกับดักหลุมพรางขนาดใหญ่ คือ ปัญหาสำคัญที่สุด..

ที่หากฝ่ายไทยก้าวเดินหมากเกมผิด เขมรก็ปิดบัญชีจบข่าวเขาพระวิหารได้เลย..

การต่อสู้นับจากนี้ไป คือ การที่ฝ่ายใดจะคงกองกำลังทหารอยู่บริเวณพื้นที่เขาพระวิหารนั้นได้นานกว่ากัน จนกว่าการเจรจาระหว่างสองประเทศนั้นจะเปิดฉากขึ้นมาอีกครั้ง ..

ฝ่ายเขมรก็จะพยายามบอกชาวโลกให้เห็นว่าพวกเขานั้นอยู่บริเวณนั้นมาตั้งแต่ก่อน ปี ๒๕๔๓ ให้จงได้ ในขณะที่ฝ่ายไทยต้องทำให้ประชาคมโลกเห็นและเชื่อตามเราให้ได้ว่า เขมรเพิ่งรุกรานเข้ามายึดครองพื้นที่ตรงนี้..ในช่วงที่ไอ้หน้าเหลี่ยมเข้ามามีอำนาจ คือ หลังปี ๒๕๔๔ ..

ฝ่ายไทยต้องทำให้ประชาคมโลกเห็นพ้องกับฝ่ายเราให้ได้ว่า หมู่บ้านเขมรอำพรางนี้ คือ การละเมิดข้อตกลงร่วมกันระหว่างไทยกับเขมรตาม MOU ๔๓ และ มีขึ้นมาภายหลังจากมี MOU ๔๓ นี้ ..

สิ่งปลูกสร้างชั่วคราวเพิงหมาแหงน กระท่อมใดๆอย่าไปสนใจ ..สนใจโฟกัสไปที่สิ่งปลูกสร้างถาวรเป็นพอ เพราะเขมรต้องรื้อถอนออกไปสถานเดียว ..ถ้าไม่รื้อถอนออกไปการเจรจาระดับใดๆไม่ว่าจะทางฝ่ายรัฐบาล หรือ ฝ่ายทหาร ..ไทยกับเขมรก็จะไม่พบบทสรุปของการเจรจาที่ลงตัวได้ ..

ดังนั้น เขตปลอดทหาร ณ ที่นี่..ตรงพื้นที่ข้อพิพาทเขาพระวิหาร หากจะว่าตามเนื้อผ้าสถานการณ์อันเป็นจริง และ ความเป็นมาดั้งเดิมแล้ว ..

ต้องเป็นเขตปลอดสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่ามนุษย์เขมร ..

ต้องเป็นเขตปลอดสิ่งไม่มีชีวิตที่เรียกว่าอาวุธสงครามของเขมร..

ที่เขมรเข้ามาอำพรางและซุกซ่อนเอาไว้มานานหลายปี..

ตรงบริเวณพื้นที่ข้อพิพาทนั้นถึงจะถูก !!!..

................................................

หวยศาลโลกวานนี้..

หลายๆคนที่มองโลกในแง่ดีก็จะมองว่าดี..ที่ไทยเขมรจะได้เจรจากัน..

หลายๆคนที่มองโลกในแง่ร้ายก็จะมองว่าฉิบหายล่ะ..ไทยกำลังจะเสียดินแดน..

เหมือนอย่างที่แก๊งค์รับจ้างประท้วงขับไล่รัฐบาลแถวๆบ้านพระอาทิตย์กำลังออกมาโพนทะนาเรียกแขก โยนหินถามทาง..หาช่องทางออกมาวางกล่องบริจาคกันอยู่ในขณะนี้นี่แหละ ..

ทว่า หากเราลองหันมามองในลักษณะกลางๆไม่ดีไม่ร้ายเพราะมันมีทั้งเรื่องไม่น่าไว้วางใจ เรื่องเล่ห์เหลี่ยมของเขมรที่กี่ปีกี่ชาติก็ไม่เคยน่าไว้วางใจ และ เรื่องเล่ห์เหลี่ยมรัฐบาลไทยหัวใจเขมรตัวจริงเสียงจริงที่กำลังจะได้โอกาสเข้ามาบริหารประเทศต่อในอนาคตอันใกล้นี้..

กับ เรื่องของความเป็นไปได้ที่จะเกิดสันติภาพ เกิดการเจรจาต่อรองกันต่อไปตามข้อตกลงเดิมใน MOU ๔๓ ระหว่างตัวแทนของสองประเทศผ่านคณะกรรมการปักปันเขตแดน JBC ไทย-ขแมร์ ..

หากเราแลไปข้างหน้า แลไปถึงสถานการณ์ความเป็นไปได้โดยไม่ต้องไปท่องสมมติพุทโธหาแต่สิ่งศักดิ์สิทธิ์บรรพบุรุษผีตาผียายให้มาช่วยคุ้มครองดูแลรักษาบ้านเมืองให้เรา หรือ ไม่เอาแต่ร้องแรกแหกกระเชออุปาทานเอ็ดตะโรจนเสียงหลงด้วยการเรียกร้องหาสงครามระหว่างประเทศที่จะนำพาความฉิบหายอันสมบูรณ์แบบมาสู่ประเทศไทยของเรา และ ประเทศเพื่อนบ้านอย่างเขมร.. 

หรือแม้กระทั่งว่า..หากเราไม่เอาแต่หลงคารมของการแสดงวิสัยทัศน์ของพวกปัญญาชนบ้องตื้น ที่เรียกหาแต่ โลกเสรีจนสุดโต่ง คุยโขมงโฉงเฉงอวดขี้ในสมองเรื่องของรัฐไร้พรมแดน เรื่องของการแสวงหาผลประโยชน์ร่วมกันแบบโง่ๆแบบจินตนาการอุดมคติ โดยไม่คิดถึงใบหน้าของพวกนายทุนข้ามชาติ ฝรั่งหัวแดง เจ๊กตาตี่ ที่จ้องงาบผลประโยชน์จากทรัพยากรทางธรรมชาติของประเทศที่ด้อยยพัฒนากว่า ..

หากเราเผลอไปมองตามวิสัยทัศน์ชุ่ยๆเบลอๆ ของพวกนักวิชาการฝ่ายซ้ายแดงเถือกบ้านเรา ที่พยายามจะอุปโลกน์และมอมเมาข้อมูลความรู้อันไร้สาระให้เราเชื่อว่า ..ชาตินิยมน่ะไม่ดี เขตแดนอธิปไตยน่ะไม่มี ..แผนที่ประเทศน่ะเพิ่งจะมี มันเป็นสิ่งสมมติขึ้นมาภายหลังยุคล่าอาณานิคมทั้งนั้น ..

เราก็คงจะได้แต่แค้นจนขี้ออกเป็นเลือดแน่ๆ ..

หากไม่เหลือทรัพย์สมบัติใดๆไว้ให้ลูกหลานในอนาคต !!..

หากย้อนไปมองความสุขสบายของพวกนักวิชาการแดงเถือก พวกเสรีชน พวกปัญญาชนแห่งโลกเสรีแล้ว เราจะพบความจริงในชีวิตจริงของคนพวกนี้ว่ามันไม่เป็นอย่างที่พวกเขาพูดเลยแม้แต่น้อย..

ในชีวิตจริงบ้านอยู่อาศัยของพวกเขาเหล่านักวิชาการซ้ายหลุดโลกพวกนี้นั้น มันก็มีทั้งโฉนดที่ดินที่แสดงกรรมสิทธิ์ความเป็นเจ้าของ มีทั้งรั้วกำแพงใหญ่ที่แสดงอาณาเขตของบ้านเรือนของพวกมัน มีทั้งสัญญาณเอาไว้กันขโมยเพราะมันห่วงสมบัติของมันจะหาย ..

คนพวกนี้มันก็มีสถานะความเป็นอยู่สะดวกสบายในฐานะชนชั้นกลาง ที่สร้างรั้วรอบขอบชิดสร้างเกราะคุ้มกันภัยให้กับตัวเองดีพอกันทั้งนั้น ..เพื่อป้องกันภัยอันตรายจากโลกภายนอก !!!..

พวกนักเหตุผลนิยมขี้หมาขังหูขี้หมูขังสมองพวกนี้จึงชี้แนะทางออกอันไร้สาระให้เราคนไทยเสมอมาว่า ผ่านงานเขียนและแนวคิด..ตีกินปัญหาสังคมเลี้ยงชีพ..ที่เราจับต้องอะไรไม่ได้ มีแต่จะนำความเสียหาย และ ขาดทุนมาให้เราในอนาคตทั้งนั้น..

คำบอกกล่าวของปัญญาชนหน้าทนทานพวกนี้ มักจะบอกให้เราหลงกลความคิดอยู่ในมุมความเชื่อที่ว่า..เราคนไทยต้องทันสมัย ต้องทันต่อโลกที่เปลี่ยนแปลงไป และ คิดอย่างพวกห้วก้าวหน้า (มันสมองถอยหลัง) ต้องละวางความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของทุกสิ่งทุกอย่างไป อย่าไปยึดติดในสิ่งที่เรายึดถือสืบทอดต่อกันมาในอดีตไม่ว่าจะเรื่องของเอกลักษณ์ความเป็นไทยเรื่องชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ หรือ เรื่องของคำว่า ชาตินิยม อธิปไตย เขตแดน ..ที่กลายเป็นเรื่องล้าสมัยในสายตาคนเหล่านี้ไปแล้ว ด้วยข้ออ้างที่ว่ายุคนี้มันเป็นยุคโลกเสรี  โลกไร้พรมแดน ..อะไรประมาณนั้น  !!..

หากเราดันเผลอ..ไปหลงคารมลมปากเหม็นๆของพวกนักประวัติศาสตร์แดงถ่อย นักวิชาการการเมืองแดงเถือก พวกนักเลือกปฏิบัติพวกนี้บ่อยๆ ไปหลงฟังความคิดเห็น และ ไปหลงเดินตามความเชื่อและความต้องการของพวกนักคิดรับจ้าง พวกนักดิสเครดิตสถาบันพระมหากษัตริย์ของไทย ที่เป็นแนวร่วมฯแดงแจ๋ทั้งหลายของ ทักษิณ ชินวัตร ..

เราคนไทยก็จะมีอนาคตที่เป็นเพียงแค่พวกพลเมืองชั้นสองพวกทาสในเรือนเบี้ย..

ของพวกนายทุนผูกขาดและนายทุนข้ามชาติแค่นั้นแหละ !!!..

........................................

ดังนั้น..

การมองปัญหาข้อพิพาทเขาพระวิหาร..

เราจึงไม่ควรมองเฉพาะข้อพิพาทระหว่าง เราฝ่ายไทย กับ เขาฝ่ายเขมร เท่านั้น ..

ทว่า เราควรมองปัญหาทั้งหมดให้มันครอบคลุมให้รอบด้าน มองที่มาที่ไปของปัญหา มองให้เห็นว่าเหตุใด ??ฮุนเซนถึงต้องการเขาพระวิหารไปขึ้นทะเบียนมรดกโลกฝ่ายเดียวนัก ??.. 

ใช่เพราะต้องการค้ำจุลบัลลังก์อำนาจเผด็จการของตนในเขมรต่อไปหรือไม่ ? ..

ใช่เพราะต้องการนำไปสร้างฐานเสียงในฐานะตระกูลวีรบุรุษผู้เอาชนะไทยที่เขาพระวิหาร เพื่อหวังจะนำไปสร้างฐานเสียงคะแนนนิยมสืบทอดอำนาจให้กับลูกชายของตนให้ขึ้นมาผูกขาดอำนาจเป็นใหญ่เหนือแผ่นดินเขมรต่อไปหรือไม่ ??..

ทำไม? ฮุนเซนก่อนหน้านี้ถึงต้องยอมมาเดินเรื่องขึ้นทะเบียนมรดกโลกร่วมกันกับไทยเฉพาะพื้นที่ที่เป็นของไทย (ไม่ใช่พื้นที่ทับซ้อนใดๆทั้งนั้น เพราะมันเป็นของไทยมาตั้งแต่แรกทั้งเขาพระวิหารนั่นแหละ) ทั้งๆที่ตัวฮุนเซนเองพูดไม่หยุดว่า ที่เขาพระวิหารไม่มีพื้นที่ทับซ้อน มีแต่พื้นที่ของเขมร ??..

อย่าลืมว่า..ศาลโลกไม่ได้ชี้ขาดชัดเจนว่าพื้นที่ตรงไหนที่เป็นของเขมร พื้นที่ตรงไหนที่เป็นของไทย เพราะศาลโลกไม่มีอำนาจในการมาปักปันเขตแดนให้กับประเทศใดทั้งนั้น ??..

อย่าลืมว่า..ศาลโลกเมื่อปี ๒๕๐๕ กับ ศาลโลกเมื่อวานนี้ ก็มาอีหรอบเดิมคล้ายๆกันเท่าที่อำนาจของพวกเขาศาลโลกศาลลวงพอจะทำได้นั่นแหละ ..

ก็คือ..อ้างสันติภาพ อ้างการหลีกเลี่ยงสงครามและการปะทะ ด้วยข้อเสนอให้ฝ่ายไทยถอนกำลังทหารออกจากพื้นที่ที่สุ่มเสี่ยงที่จะนำมาซึ่งหายนะของสงคราม แม้รอบนี้จะพ่วงให้เขมรถอนกำลังทหารออกไปด้วยแต่อย่าลืมว่าในพื้นที่จริงตอนนี้นั้นมันมีอะไรที่ซับซ้อนซ่อนเงื่อนจากฝ่ายเขมรมากมายเกินกว่าที่ศาลโลกจะมองเห็นความชัดเจนของต้นตอของปัญหาเพื่อจะหาข้อยุติที่เป็นธรรมแก่ประเทศไทยได้..

อย่าลืมว่า..ในปี ๒๕๐๕ เราถอนทหารออกจากตัวปราสาท แต่ว่าเราก็สงวนสิทธิ์ในการคัดค้านคำสั่งศาลโลก พูดง่ายๆก็คือ เราไม่ได้ยอมรับคำสั่งศาลโลกมาตั้งแต่แรก เพิ่งจะมียุครัฐบาลทักษิณ ยุครัฐบาลสมัตร และ ยุคนพดล ปัทมะ ผู้มีวิสัยทัศน์ที่ไม่สามัคคีกันนั่นแหละ ..ที่ไปยอมรับว่า ตัวปราสาทเขาพระวิหาร เป็นของเขมร ตามคำสั่งของศาลโลกและ พื้นที่ ๔.๖ ตร.กม. นั้นเป็นพื้นที่ทับซ้อน  ตามแผนที่ ๑ : ๒๐๐,๐๐๐ ของเขมร ทั้งเราไม่เคยยอมรับเลยตั้งแต่แรก !!!..

อ่านรายละเอียดข่าวเก่าๆ..

จากสื่อบ้านพระอาทิตย์ สมัยเป็นม็อบกู้ชาติ ก่อนกลายมาเป็นม็อบกู้ส้วมในวันนี้

สัมพันธ์ลึก-ผลประโยชน์ลงตัว ปราสาทพระวิหาร-ทักษิณ-อัลฟาเยด-ปตท.

http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9510000085750

...............................................

ข้อหมกเม็ดมันเลยเกิดขึ้นมาตรงนี้ ทั้งๆที่ก่อนหน้าที่จะมีรัฐบาลทักษิณขายชาติเข้ามางาบประเทศนั้น ไทยกับเขมรก็เดินหน้าแผนปักปันเขตแดนทางบกกันมาด้วยดีแล้วตามข้อตกลงร่วมกันใน MOU ๔๓ ที่จะจัดให้มีคณะกรรมการปักปันเขตแดนร่วมกันของ ๒ ประเทศ ในพื้นที่ข้อพิพาท (ต่างฝ่ายต่างชี้กันไปคนละเขตแดน ในที่เราจะพบว่า มีจุดพิพาทสำคัญๆทางบกอยู่ ๒ จุด คือ ที่เขาพระวิหาร และ โนนหมากมุ่น ) ให้เป็นไปตามอนุสนธิสัญญาสยาม-ฝรั่งเศส ปี ๑๙๐๔ - ๑๙๐๗ ..

นี่มันเป็นเอกสารเจรจาสันติภาพที่เป็นลายลักษณ์อักษรที่ชัดเจนดีแล้วว่า..

ทั้งเขมรและไทยนั้น..มีเป้าหมายในการแสวงหาสันติภาพร่วมกันมาก่อน !!!..

ถ้าเขมรมันจริงใจ มันไม่ต้องแห่แหนไปฟ้องศาลโลกเสียด้วยซ้ำ !!!..

หากไม่มีพวกชาติมหาอำนาจไปวาดสวรรค์วิมานในอากาศให้กับฮุนเซนเพื่อล่อเอาผลประโยชน์จากบ่อน้ำมันและปันส่วนเป็นเงินสัมปทานให้กับเขมรเป็นกอบเป็นกำ จนฮุนเซนแทบสำลักน้ำลายความอยากตายมาจนถึงทุกวันนี้ ..

หรือ หากไม่มีพวกรัฐบาลนายทุนสามานย์จากฝั่งไทย พวกคนไทยหัวใจเขมรไปสร้างสายสัมพันธ์เฉพาะกิจแสดงความรักใคร่กลมเกลียวกับเขมรดุจพี่น้องท้องชนกัน เพื่อประเคนผลประโยชน์ที่เขาพระวิหารให้กับฮุนเซนเพื่อแลกกับสัมปทานธุรกิจด้านพลังงานที่ฝั่งเขมรแล้ว..

ฮุนเซนไหนหรือ ??..กองทัพขี้สนิมขแมร์อาร์มี่ไหนหรือ ??..

มันจะกล้ามากร่าง ..และ อหังการ์ใส่พี่ไทยอย่างทุกวันนี้ !!!..

......................................

สุดท้ายนี้..

ก็อยากจะบอกว่า..

นับจากนี้ไป..ในปัญหาข้อพิพาทเขาพระวิหารนี้..

เราต้องมาแยกแยะ ..ค้นหาเบื้องลึกเบื้องหลังฝ่ายเขาฝ่ายเราออกมาให้ละเอียด..

ฝ่ายเขมรนั้น มีใครอยู่เบื้องหลัง ? มีใครให้การสนับสนุน ? มีเป้าหมายปลายทางอยู่ในเรื่องอะไรกันแน่ ? ทำไมฮุนเซนจากที่เคยทิ้งเขาพระวิหารให้เป็นปราสาทร้างมานานหลายสิบปี ในปีที่มีสงครามกลางเมืองเขมร..เขาพระวิหารก็เป็นบังเกอร์และป้อมปราการชั้นดีของพวกเขมรแดงด้วยซ้ำไป ..

เหตุใดจู่ๆมาวันนี้ ฮุนเซนถึงได้มีวิสัยทัศน์ยาวไกลอันไม่น่าไว้วางใจในความคิดที่จะขึ้นทะเบียนมรดกโลกขึ้นมา จู่ๆทำไมเขมรถึงได้มีความคิดที่จะบริหารจัดการพื้นที่เขาพระวิหารให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว โดยไม่สนหัวฝ่ายไทยเลยว่าจะยอมหรือไม่ยอม ? ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้เขมรมันก็ยอมทำข้อตกลง MOU ๔๓ กับทางไทยมาก่อนแล้ว..

ฝ่ายไทยนั้น มีใครอยู่เบื้องหลัง ? เกมขายชาติขายอธิปไตย ? มีใครอยู่เบื้องหลังเกมป่วนเมืองกรณีเขาพระวิหารบ้าง ? ..ใครกันที่พรางตนทำทีรักชาติราชบัลลังก์ แต่เบื้องหลังเดินเกมให้ไทยเสียท่าเขมรตลอดมาด้วยข้อเสนอสุดโต่ง ทั้งเรื่องของการ ฉีก MOU ๔๓ ทิ้งทันที ทั้งเรื่องของการถอนตัวออกจากมรดกโลกทันที และ เรื่องของการผลักดันคนเขมรออกจากพื้นที่ข้อพิพาททันที !!!..

หากวันนี้ฮุนเซนหันหน้ามาเจรจากับไทยดีๆก็จะไม่มีปัญหาอะไรกัน การบริหารจัดการพื้นที่เขาพระวิหารร่วมกัน เขมรก็ต้องจริงใจกับไทยบ้าง เขมรต้องผนวกดินแดนฝั่งที่เป็นผลประโยชน์ของเขมรเข้ามาร่วมด้วยไม่ใช่จะมาแบ่งปันเอากับดินแดนไทยฝ่ายเดียว โดยอ้างแผนที่ที่ไทยไม่เคยยอมรับ (ยกเว้นสมัยรัฐบาลทักษิณขายชาติ และ รัฐบาลนอมินี่ทักษิณขายชาติ) โดยอ้างคำสั่งศาลโลกที่ไทยเคยคัดค้านและไม่ยอมรับ โดยอุปโลกน์ข้อหมกเม็ดสัญญาเพิ่มเติมของรัฐบาลขายชาติของไทยขึ้นมา ..

โดยที่ฝ่ายรัฐบาลไทยฝ่ายทหารไทยผู้รักชาติอธิปไตย..

ต่างก็คัดค้านและไม่ยอมรับกันทั้งนั้น !!!..

ฮุนเซน และ ทีมงานเขมร ต้องหยุดคิดที่จะแทรกแซงการเมืองของไทย ต้องหยุดคิดในเรื่องที่ว่าหากประเทศไทยได้รัฐบาลไทยหัวใจเขมรของคนในระบอบทักษิณเข้ามาบริหารประเทศวันใด..ฝันของคนเขมร ฝันของฮุนเซน จะเป็นจริงได้ในบัดดล ???...

มันไม่มีอะไรง่ายขนาดนั้น ..หากขแมร์ฮุนเซนยังไม่หยุดคิด หยุดพฤติกรรมสัปดน ที่จะใช้เล่ห์กลเหลี่ยมคู้ของ ทักษิณ ชินวัตร เป็นใบเบิกทางเข้ามางาบอธิปไตยของไทย เข้ามาแทรกแซงความมั่นคงของชาติไทย ..

นับจากนี้ต่อไปถึงอนาคตอันยาวไกล..

ไทย และ เขมร ก็อาจจะไม่ได้อะไรเป็นผลประโยชน์กลับไปด้วยซ้ำ !!!..

เราอาจจะเกิดสงครามยืดเยื้อขึ้นมาวันหนึ่งวันใดก็ได้ หากเขมรมั่นใจในแผนการของตนมากเกินไป มั่นใจในแนวร่วมมหาอำนาจบ้าน้ำมันฝ่ายตนมากเกินไป มั่นใจในรัฐบาลขายชาติขายแผ่นดินที่เป็นรัฐบาลไทยหัวใจเขมรมากเกินไป ??!!..

ใครคิดจะไปสะกิดอารมณ์เดือดของทหารไทยในตอนนี้ก็ขอคิดให้รอบคอบคิดให้ดีๆ ..

ใครที่คิดจะเข้ามามีอำนาจรัฐ แล้วจะใช้อำนาจบาตรใหญ่..

มาสั่งการให้ทหารยอมรับในสิ่งที่ไม่ถูกต้องก็ต้องคิดให้ดีๆ ..

เหตุเพราะว่า..มันไม่มีใครยอมใครแล้ว..

ในชั่วโมงนี้ !!!..

.........................................................

ติดตาม เพื่อนร่วมชาติของข้า !!! ใน Facebook ตาม Link นี้ครับ

http://www.facebook.com/?ref=home#!/groups/113130998780882?ap=1

.......................................

วินเซนต์

ริมโขง  บึงกาฬ

๑๙  กรกฎาคม  ๒๕๕๔

.........................................

Music Playlist at MixPod.com