ว่ากันว่า การเดินทางคือการเรียนรู้ การเดินทางไปในสถานที่ใหม่เหมือนเปิดอ่านหนังสือเล่มใหม่ แต่ การไปเมืองน่านเที่ยวนี้ของเราเป็นเหมือนการพลิกหน้าถัดไปของหนังสือที่อ่านค้างเอาไว้เมื่อสิบกว่าปีก่อนและย้อนกลับไปเก็บรายละเอียดอีกบางตอน จึงได้เห็นบางมุมมองของตัวเองเปลี่ยนไป เหมือนทุกการเดินทางที่เราจะวางแผนไว้อย่างหลวม ไม่กำหนดเวลาล้อหมุน ไม่มีการจองที่พัก ถึงเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น ที่ไหนก็ที่นั่น เป็นนกขมิ้นสัญจร .. บ่ายวันวิสาขบูชาที่ผ่านมา พร้อมกระเป๋าเดินทางและเสบียงบ้างนิดหน่อย เดินทางไปจังหวัดน่านผ่านทางอำเภอร้องกวางจังหวัดแพร่ คิดว่าวันนี้จะไปเยือนหมู่บ้านประมงปากนาย อำเภอนาหมื่นซึ่งอยู่ใต้สุดของจังหวัดน่าน ไปยังไม่ถึงเวียงสาเลย การขับรถช้าช้าทำให้เหลือบเห็นป้ายปากทางแยกขวามือว่า "ชุมชนเผ่าตองเหลือง" เอาล่ะ! ไปทางนี้ก่อนละกัน บ่ายหน้าเข้าไปสักพักแวะถามทางชาวบ้านว่านอกจากชุมชนเผ่าตองเหลืองแล้ว ทางสายนี้จะไปไหนได้อีก ได้คำตอบว่า "ไปนาหมื่นได้แต่ทางลำบากหน่อยนา ผ่านป่าเปลี่ยวอยู่ช่วงนึง" ช่างเป๊ะอะไรอย่างนี้ นอกจากจะได้ไปเยือนชุมชนเผ่าตองเหลืองแล้วยังเดินทางต่อไปถึงหมู่บ้านประมงปากนายได้ด้วย เพราะภูมิประเทศแถบนี้เป็นภูเขาเกือบ 70% ถนนสายทางลัดนี่จึงค่อนข้างแคบคดเคี้ยวและสูงชันเป็นบางช่วง ที่น่าใจหาย .. สองข้างซ้ายขวา มองไปทางไหนเห็นแต่ภูเขาหัวโล้นเป็นบริเวณกว้าง เพราะอย่างนี้เองแถบนี้จึงมีปัญหาดินโคลนถล่มบ่อย ไม่กี่วันก่อนก็เห็นข่าวทีวี "จังหวัดน่านเตรียมแผนรับภัยพิบัติดินโคลนถล่ม" แก้ปัญหาปลายเหตุกันโดยแท้ เดินทางต่อไป ถนนเล็กลงเรื่อย จากถนนลาดยางเป็นคอนกรีตไปจนท้ายหมู่บ้าน เห็นป้าย " น่าน 0 กิโลเมตร" .. ที่นี่เป็นรอยต่อของแพร่กับน่าน มองไปข้างหน้าไม่เห็นว่าจะน่าเป็นถนนไปไหนได้อีก ดั้นด้นมาลึกขนาดนี้จะถอยก็ใช่ที่ กลับรถมายังหมู่บ้านที่เพิ่งผ่านไป เจอคุณลุงคนนึงบอกว่า "ไปทางนี้แหละ ขวามือเนี่ย 4-5 โลถึงชุมชนตองเหลือง จะไปปากนายเรอะ ไปได้ ลุงยังเคยขี่มอไซค์ไปกินข้าวเย็นที่นั่นเล้ย" ค่อยอุ่นใจ... แถวนี้เขาไม่ค่อยมีป้ายบอกเลยนะว่าที่นี่ที่ไหน ทางนี้จะไปไหน อีกไกลไหม .. ไปตายเอาดาบหน้าก็แล้วกัน ไปตามทางคุณลุงว่าสัก 4-5 กิโล เห็นมีทางแยกเป็นถนนลูกรังทางซ้ายมือ ลองเลี้ยวเข้าไปดูซิเผื่อจะใช่ .. เจอเด็กม้งมาซุ่มยิงนกอยู่ 2 คนพี่น้อง บอก "ไปบ้านผีตองเหลืองคับ" .. ความจริงเราต้องเรียกเขาว่า ชนเผ่า "มลาบรี" เขาไม่ใช่ผี แต่เป็นชนเผ่าที่เคยเร่ร่อนอยู่ในป่าเขา ขุดเผือกขุดมันกินเป็นอาหารหลัก สร้างเพิงพักมุงด้วยใบตองตึง พอขุดเผือกมันหมดแถบนั้นหมดก็ย้ายไปหาเผือกมันที่ใหม่ก็ใบตองตึงเหลืองพอดี .. แต่เดี๋ยวนี้ชนเผ่ามลาบรีไม่เร่ร่อนแล้ว ทางการจัดที่อยู่ให้เป็นหลักแหล่ง ชนเผ่ามลาบรีเข้าถึงบริการของรัฐได้มากขึ้น ทั้งเรื่องสุขภาพอนามัยและการศึกษาของเด็กเด็ก บางส่วนไปรับจ้างในหมู่บ้านชาวม้งซึ่งอยู่ใกล้เคียง ชนเผ่ามลาบรีจึงรับเอาวัฒนธรรมม้งมาบ้าง เช่นบ้านที่คล้ายกันกับบ้านของชาวม้ง แต่ชุมชนที่นี่มีฝรั่งครอบครัวนึงมาอาศัย จำไม่ได้เสียแล้วว่าเป็นฝรั่งชาติไหน ครอบครัวนี้มาปลูกบ้านและสร้างเป็นโรงงานทอเปลญวนให้ชาวมลาบรีมีอาชีพ มีรายได้ .. เท่าไหร่ก็ไม่ได้ถาม จะวันละ 300 หรือเปล่าไม่รู้ เจ้าหนูน้อยมลาบรีเกาะหลังแม่ เจ้าคนพี่กำลังงอแง ไม่รู้ร้องจะเอาอะไร ถูกแม่ขัดใจเลยงอนค้อนนขวับขวับ ไม่กล้าเข้าไปลึกกว่านี้แล้วค่ะ ท่าทางรถเข้าไปลำบาก .. เด็กมลาบรีที่นี่เดินทางไปเรียนที่โรงเรียนในหมู่บ้านม้ง เด็กหญิงวัย 13 ปีที่กำลังเลี้ยงน้อง 2 คนอยู่นี่ อายุ 13 ปีกำลังเรียนชั้นประถม 6 ถามว่าจบ ป.6 จะไปเรียนต่อที่ไหน อ้อ.. โรงเรียนหมู่บ้านม้งมีถึง ม.3 น้องคนนี้โตขึ้นเธออยากเป็นคุณครูค่ะ กระทรวงศึกษาอย่ายุบโรงเรียนน้องซะก่อนก็แล้วกันนะ ออกจากชุมชนตองเหลืองแล้วมุ่งหน้าเดินทางไปยังหมู่บ้านปากนายต่อไป ไม่ไกลหนิ คุณลุงคนตะกี้บอก ... เออ ไม่ไกลแต่ไปได้ทีละนิดนะคะ ทางที่ต้องผ่านป่าไปนั้นทั้งชันทั้งแคบและคดเคี้ยว บางช่วงรถไม่มีแรงส่ง ต้องถอยมาตั้งหลักและเร่งขึ้นไปใหม่ ลุ้นสุดใจขาดดิ้น ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ รถเลขไมล์เกือบสามแสนกิโลแล้วมันจะไหวมั้ย ไม่มีทางเลือกนอกจากลุยไปข้างหน้าเพราะว่ากลับรถก็ไม่ได้ ถอยก็คงตกดอย ใช้เกียร์โลว์ไต่เขาไปสาบกลิ่นเครื่องไหม้ไปพลางก็คิดถึงคำคุณลุงไป "ลุงยังขี่มอไซค์ไปกินข้าวเย็นที่นั่นเล้ยยยยย" ในที่สุด .. เราก็ผ่านตรงนี้ไปพร้อมกับบอกตัวเองว่า หนังสือหน้านี้จะไม่มีวันอ่านซ้ำ!!! จากตัวอำเภอนาหมื่นมีทางแยกไปยังหมู่บ้านประมงปากนายอีกกว่ายี่สิบกิโลเมตร หมู่บ้านประมงปากนายเป็นชุมชนเหนือเขื่อนสิริกิตต์ เขื่อนดินที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย กั้นแม่น้ำน่าน สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2506 จากที่นี่ถ้านั่งเรือหางยาวข้ามฟากไปใช้เวลา 2 ชั่วโมงกว่าจะเป็นหมู่บ้านในเขตอำเภอน้ำปาด จังหวัดอุตรดิตถ์ ชุมชนที่นี่ถือว่าเป็นชุมชนใหม่ซึ่งทั้งหมดไม่ใช่คนท้องถิ่นดั้งเดิม แต่ส่วนใหญ่มาจากต่างถิ่นผูกแพอยู่ตรงโน้นบ้างตรงนี้บ้างกระจัดกระจาย เพิ่งจะรวมตัวเป็นหมู่บ้านได้สัก 20 ปีที่ผ่านมานี่เอง เป็นแหล่งประมงน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดของจังหวัดน่าน ปลาในตลาดเมืองน่านมาจากที่นี่ทั้งนั้น พ่อค้าแม่ค้าจะมารับเอาจากชาวประมงทุกวัน เห็นอะไรในภาพนี้บ้างคะ? Zooooom V ปีนี้น้ำเหนือเขื่อนแห้งมากเลย ในภาพข้างบนจะเห็นระดับที่น้ำเต็มเขื่อนจะอยู่แนวโคนต้นไม้โน่นเลย ข่าวเมื่อ 2-3 วันก่อนที่ผู้เชียวชาญด้านน้ำออกมาเตือนว่าปีนี้ประเทศไทยจะเจอวิกฤติภัยแล้งหนักเพราะปรากฏการณ์ลานิญามันผ่านไปแล้ว ต้องบริหารจัดการน้ำในเขื่อนให้ดี แต่ละเขื่อนอย่างน้อยต้องมีน้ำ 45% แต่ที่เห็นมันน่าจะไม่ถึง เช้านี้(11 มิ.ย.56) ข่าวว่าน้ำในเขื่อนภูมิพลมีไม่ถึง 10% ด้วยซ้ำ เตรียมรับมือได้แล้วพี่น้อง อย่าฝากความหวังไว้กับรัฐบาลเด็ดขาด ยิ่งเขาขี้ตกใจอยู่ เก็บน้ำฝนไว้ใช้บ้านใครบ้านมัน อันที่จริงทุกเรือกสวนไร่นาควรจะแบ่งพื้นสำหรับเป็นแก้มลิงของตัวเอง เก็บน้ำไว้ไม่ว่าน้ำมากหรือน้ำแล้งแก้มลิงมีประโยชน์มากอย่างที่พ่อหลวงบอกไว้ ชุมชนที่นี่น่ารักค่ะ เขาอยู่กันอย่างพึ่งพาอาศัย มีร้านค้าขายของชำ มีร้านอาหาร มีชาวบ้าน มีวัด ผูกเป็นแพ โยงไปย้ายมาได้ ใครจะซื้ออะไรก็ตะโกนบอกไป "เอาน้ำปลาฝากไอ้เปี๊ยกมาขวดนึงนะ เดี่ยวไปจ่ายตังค์" แพแต่ละหลังก็จะมีกระดานพาดไปถึงกันได้หมด ใครจะไปไหนผ่านบ้านใครไม่มีใครว่า แต่ระวังหน่อยนะสำหรับคนไม่เคย เผลออาจตกน้ำเอาได้ง่ายง่าย เขาต้อนรับคนแปลกหน้าด้วยอัธยาศัยไมตรี เราเลยตัดสินใจว่าจะพักค้างคืนที่นี่ล่ะ เขามีแพให้พัก คืนละ 50 บาทต่อคน มีที่นอนหมอนไม่มุ้ง เพราะเขารับประกันว่าที่นี่ไม่มียุง แต่ที่นอนกลิ่นคลุ้งหน่อย ถ้าไม่ค่อยสบายใจก็ปูเสื่อนอนบนไม้กระดานก็ได้ แอบถ่ายเด็กน้อยลูกเจ้าของแพค่ะ ก่อนค่ำ เราเหมาเรือหางยาวไปวนรอบเกาะ น้องผู้หญิงที่ขับเรือยนต์ให้เรากำลังตั้งท้องด้วย นี่ถ้าขับเองเป็นจะขับให้น้องเขานั่งแล้วค่ะ น้องเขาเป็นคนน้ำปาดข้ามฟากมาพบรักกับหนุ่มที่นี่เหมือนเนื้อเพลงแม่น้ำนิรันดร์ของวงแมคอินทอชยังไงยังงั้น อยู่กันเกือบร้อยครัวเรือนเหมือนกันนะคะชุมชนนี้ บางแพมีคนแก่อยู่คนเดียวก็จะมีชาวบ้านแวะเวียนกันไปเยี่ยม มีเด็กอยู่ก็เยอะ แอบเป็นห่วงเด็กเล็กจะพลาดตกน้ำมั้ยนะ รอบแพก็มีแต่น้ำ แต่เราสังเกตว่าเด็กเขาจะรู้ เขาจะไม่ไปใกล้ขอบแพ คงเหมือนเด็กในเมืองที่ถูกสอนให้ระวังรถล่ะมั้ง นอกจากแพอาศัยยังมีวัดด้วย วัดปากนายเป็นแพเช่นกันต้องนั่งเรือข้ามฟากไป คืนนั้นเราตั้งใจจะไปเวียนเทียนที่วัดปากนายนี่แหละ ชาวบ้านบอกว่าใกล้เวลาเวียนเทียนเดี๋ยวเขาจะโยงแพวัดมาใกล้แถวนี้ แพวัดปากนาย (แพนี้หรูมั้ยคะ .. เปล่า ไม่ใช่แพคืนละ 50 ของเราหรอก แต่เป็นแพที่ครอบครัวชาวกรุงครอบครัวหนึ่งเขามาสร้างแพถาวรสำหรับเป็นที่พักผ่อนที่นี่หลายปีแล้ว ถามผู้ใหญ่บ้านดูได้ความว่า ใครจะมาผูกแพอยู่ที่นี่ก็อยู่ได้ถ้าไม่มาสร้างปัญหา และเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนได้ ส่วนแพที่พักของเราไม่มีอะไรนอกจากฝากระดานกั้นห้องมีช่องลมพัดผ่าน มีส้วมหลังแพ) ทานอาหารปรุงจากปลาสดอร่อยมาก ทั้งปลาคัง ปลาเนื้ออ่อน อิ่มแล้วก็เดินตามไม้กระดานไปเรือนแพพัก อาบน้ำล้างเหงื่อไคลในห้องน้ำรวม ไม่สะดวก แต่ สบาย ทั้งบรรยากาศที่สงบ อากาศสดชื่น ปรากฏคืนนั้นอดเวียนเทียน รอแล้วรอเล่าก็ไม่เห็นเขาโยงแพวัดมา สงสัยเขาพากันนั่งเรือไปที่วัดฝั่งโน้นมากกว่า ไม่ชวนกันมั่งเล้ย ไม่มียุงอย่างว่าจริงจริงค่ะ แต่ตกดึกลมพายุกระหน่ำปากนาย ลมแรงแพไหวแถมไฟดับด้วย แต่แปลก เราไม่รู้สึกกลัว ยังออกมานอนเปลท้าลมเล่น กว่าชั่วโมงพายุจึงสงบ ตี่สี่กว่าได้ยินเสียงเขาลากเรือออกจากฝั่งกันแล้ว เลยออกจากห้องมาเอาน้ำแร่ที่พกมาจะล้างหน้าแปรงฟัน กำลังจะก้าวลงไปเข้าส้วมด้านหลังแพ แต่ขาสวบลงไปในน้ำเสียข้างหนึ่ง มันมืด ไฟก็ยังดับ เลยไม่เห็นว่ากระดานมันมีร่องอยู่ เท้าอีกข้างก็ฟาดลงกับกระดานนั่นเอง ได้แผลแต่เช้าเลย ... อั๋ยยะ! เสียงทุ่นระเบิดตกน้ำ ต๋อม)))) ส้วมบนแพเขาเป็นจุดให้อาหารปลาด้วยค่ะ ไอ้ปลาเนื้ออ่อนมื้ออร่อยตัวเมื่อวานเย็นนี้ไม่รู้มันกินอะไรไปมั่ง เอร๊ยยยยย คุณตาคนนี้อายุแปดสิบแล้ว อยู่คนเดียวค่ะ เช้ามืดลากเรือพายมาเก็บขยะที่ลอยตามน้ำ พอสายก็ออกหาปลา จะมีพ่อค้าแม่ค้ามาถามหาเพื่อซื้อปลาจากคุณตาอยู่เป็นประจำ ชาวแพยามเช้า... ฟ้ายังฉ่ำฝนอยู่เลย เช้านี้เลยไม่เห็นตะวันบ้านปากนายว่าจะสวยแค่ไหน เตรียมออกเดินทางแต่เช้าเพราะไม่อยากสวนกับทีมข่าว "เรื่องเล่าเช้านี้" ที่เขาสัญจรมาจังหวัดน่านแล้วจะมาทานกลางวันกันที่นี่ ขนกระเป๋าย่ำโคลนออกมา มุ่งหน้าไป .. บ่อเกลือ
ขอบคุณ แมคอินทอช .. แม่น้ำนิรันดร์ |
ถึง บล็อกเกอร์ ทุกท่าน โปรดอ่าน
ด้วยทาง บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ได้ติดต่อขอความร่วมมือ มายังเว็บไซต์และเว็บบล็อกต่าง ๆ รวมไปถึงเว็บบล็อก OKnation
ห้ามให้มีการเผยแพร่ผลงานอันมีลิขสิทธิ์ ของบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ บนเว็บ blog โดยกำหนดขอบเขตของสิ่งที่ห้ามทำ และสามารถทำได้ ดังนี้
ห้ามทำ - การใส่ผลงานเพลงต้นฉบับให้ฟัง ทั้งแบบควบคุมเพลงได้ หรือซ่อนเป็นพื้นหลัง และทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือ copy code คนอื่นมาใช้ - การเผยแพร่ file ให้ download ทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือฝากไว้ server คนอื่น สามารถทำได้ - เผยแพร่เนื้อเพลง ต้องระบุชื่อเพลงและชื่อผู้ร้องให้ชัดเจน - การใส่เพลงที่ร้องไว้เอง ต้องระบุชื่อผู้ร้องต้นฉบับให้ชัดเจน จึงเรียนมาเพื่อโปรดปฎิบัติตาม มิเช่นนั้นทางบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ จะให้ฝ่ายดูแลลิขสิทธิ์ ดำเนินการเอาผิดกับท่านตามกฎหมายละเมิดลิขสิทธิ์
OKNATION
กฎกติกาการเขียนเรื่องและแสดงความคิดเห็น
1 การเขียน หรือแสดงความคิดเห็นใด ๆ ต้องไม่หมิ่นเหม่ หรือกระทบต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ หรือกระทบต่อความมั่นคงของชาติ
2. ไม่ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่นในทางเสียหาย หรือสร้างความแตกแยกในสังคม กับทั้งไม่มีภาพ วิดีโอคลิป หรือถ้อยคำลามก อนาจาร 3. ความขัดแย้งส่วนตัวที่เกิดจากการเขียนเรื่อง แสดงความคิดเห็น หรือในกล่องรับส่งข้อความ (หลังไมค์) ต้องไม่นำมาโพสหรือขยายความต่อในบล็อก และการโพสเรื่องส่วนตัว และการแสดงความคิดเห็น ต้องใช้ภาษาที่สุภาพเท่านั้น 4. พิจารณาเนื้อหาที่จะโพสก่อนเผยแพร่ให้รอบคอบ ว่าจะไม่เป็นการละเมิดกฎหมายใดใด และปิดคอมเมนต์หากจำเป็นโดยเฉพาะเรื่องที่มีเนื้อหาพาดพิงสถาบัน 5.การนำเรื่อง ภาพ หรือคลิปวิดีโอ ที่มิใช่ของตนเองมาลงในบล็อก ควรอ้างอิงแหล่งที่มา และ หลีกเลี่ยงการเผยแพร่สิ่งที่ละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบหรือวิธีการใดก็ตาม 6. เนื้อหาและความคิดเห็นในบล็อก ไม่เกี่ยวข้องกับทีมงานผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซต์ โดยถือเป็นความรับผิดชอบทางกฎหมายเป็นการส่วนตัวของสมาชิก คลิ้กอ่านเงื่อนไขทั้งหมดที่นี่"
OKnation ขอสงวนสิทธิ์ในการปิดบล็อก ลบเนื้อหาและความคิดเห็น ที่ขัดต่อความดังกล่าวข้างต้น โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของบล็อกและเจ้าของความคิดเห็นนั้นๆ
|
||
![]() ![]() |
<< | มิถุนายน 2013 | >> | ||||
อา | จ | อ | พ | พฤ | ศ | ส |
1 | ||||||
2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 |
9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 |
16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 |
23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 |
30 |