*/
~*♥♥บันทึกด้วยภาพ♥♥*~ | ||
![]() |
||
~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~ |
||
View All ![]() |
วอนลมฝากรัก | ||
![]() |
||
วอนลมฝากรัก/หวานหวาน |
||
View All ![]() |
<< | พฤษภาคม 2012 | >> | ||||
อา | จ | อ | พ | พฤ | ศ | ส |
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | ||
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | 29 | 30 | 31 |
บราวนี่ หวานน้อยอร่อยมากที่สุดนะคะ ตอน...ลูกชวนแม่เข้าครัว...อร่อยแบบมืดๆ!!! สวัสดีค่ะเพื่อนๆ พี่ๆ และน้องๆที่รัก เวลาที่ทำงานเหนื่อยๆ โหยๆ แล้วได้ทานขนมหวานก็จะรู้สึกว่ามีความสุขมากขึ้นใช่ไหมคะ ดีเลยค่ะ วันนี้ลูกสาวคนเล็ก"น้องน้ำหวาน"เค้าชวนทำ "บราวนี่" ค่ะ ช่วงนี้อยู่ระหว่างปิดเทอม ว่างมาก วันๆเอาแต่ท่องเนต แล้วบังเอิญไปเจอสูตรบราวนี่จากหลายสำนัก ....จากพันทิป และที่อื่นๆ ก็อยากจะทดลอง โดยให้คุณแม่เป็นพี่เลี้ยงค่ะ ที่จริงหวานหวานไม่ทำพวกเบเกอรี่มานานแล้ว เพราะทำแล้วต้องทาน ต้องแบกน้ำหนัก แต่เพื่อลูกก็.....โอเคนะคะ :) . เราไปซื้อของที่ร้านหยก ถนนเชียงใหม่ - ลำปาง ฝั่งตรงข้ามBig C Extra ซื้อเนยสดชนิดเค็ม 1 ก้อน (500) กรัม....... เนยขาว (shortening) 1 ก้อน แป้งเอนกประสงค์ตราว่าว 1 ถุง ......วานิลา 1 ขวด ......ผงโกโก้ 1 กระป๋อง อัลมอนด์สับ 1 ถุง...... ช็อคชิพ 1 ถุง ......ไข่ไก่ ......และกระดาษไข 1 แผ่น เราซื้อของมาครั้งนึง คงจะทำขนมได้มากกว่าหนึ่งครั้งค่ะ การทำบราวนี่ครั้งนี้ ได้ปรับให้มีรสหวานน้อยลง แต่เพิ่มความอร่อยให้มากขึ้น มีสูตรดังนี้ค่ะ .... ..... .... ...........เนยสดเค็ม 2 / 3 ของหนึ่งก้อนขนาด 500 กรัม...(คือประมาณ 335 กรัม) แป้งเอนกประสงค์ ....1 1/2 ถ้วย ไข่ไก่ ........... 4 ฟอง ผงโกโก้ ..........1 ถ้วย อัลมอนด์ ........ 2 ถ้วย ช็อคชิพ........... 2 ถ้วย น้ำตาลทราย .........1 1/2 ถ้วย วานิลา ............. 6 ช้อนชา เนยขาว (shortening)สำหรับทาถาดเล็กนอย กระดาษไข ... 1 แผ่น
ทำขนมฝรั่งต้องเตรียมอุปกรณ์ ถ้วยตวงของแห้ง และน้ำ ช้อนตวง พาย อ่างสำหรับผสม ถาดสำหรับอบขนม ขนาด 10 x 10 นิ้ว
ตะกร้อสำหรับผสมอาหารและอย่าลืมถุงมือสำหรับจับของร้อนด้วยนะคะ เริ่มด้วยการแบ่งเนยสดออกเป็นสามส่วน เราใช้สองส่วน (ที่เหลือเก็บเข้าตู้เย็น) แล้วตัดเนยเป็นชิ้นเล็กๆใส่หม้อ นำหม้อเนยตั้งไฟอ่อนๆจนเนยละลาย แล้วเทใส่อ่างสำหรับผสม ใช้ถ้วยสำหรับตวงของแห้ง ตวงน้ำตาลทราย หนึ่งถ้วยครึ่ง เทน้ำตาลทรายลงในเนยละลายร้อน คนแรงจนเข้ากันดี น้ำตาลจะไม่ละลายทั้งหมดค่ะ ปล่อยทิ้งไว้ให้อุ่นนิดๆ อาจใช้เวลานานสักหน่อย ขอเรียกของเหลวนี้ว่า เทอัลมอนด์ สองถ้วย ใส่ถาดเตรียมอบ วอร์มเตา ด้วยอุณหภูมิ 175 องศาเซลเซียส ตั้งเวลาประมาณ 10 - 15 นาที แล้วนำถาดอัลมอนด์อบไปพร้อมกันเลยค่ะ ช่วงที่รอการวอร์มเตา ก็ตวงแป้งหนึ่งถ้วยครึ่ง โดยไม่ต้องร่อนแป้งค่ะ ผงโกโก้ หนึ่งถ้วย ช็อคชิพ สองถ้วย ไข่ไก่ สี่ฟอง ใช้ไข่ใหม่จะดีค่ะ เตรียมพร้อมที่จะผสมแล้วนะคะ ประมาณ 10 นาทีผ่านไปนำอัลมอนด์ที่สุก เหลืองได้ที่ออกมาจากเตาอบ วางผึ่งไว้ก่อนค่ะ ถึงเวลานี้เนยที่ผสมน้ำตาลไว้ ความร้อนลดลงเหลือเพียงอุ่นนิดๆแล้ว จึงใส่ไข่สี่ฟอง และวานิลา 6 ช้อนชา ลงใน แล้วใช้ตะกร้อตีไข่และวานิลาจนส่วนผสมเข้ากันดี ขอเรียกส่วนผสมใหม่นี้ว่า สังเกตว่าไข่ในส่วนผสม B เป็นฟองละเอียด แต่ไม่ได้ขึ้นฟูนะคะ แล้วจึงใส่แป้งและผงโกโก้ลงใน
คนแรงๆ 2 - 3 นาที จนเนื้อเนียนขึ้นเงา..ขนาดนี้ยังไม่เนียนนะคะ ต้องประมาณนี้ค่ะ จากนั้นจึงใส่ช็อคชิพ และอัลมอนด์ คน คลุกเคล้าส่วนผสมให้เข้ากันดีนะคะ ที่เห็นนี่คือเนยขาว (shortening) สำหรับทาถาดขนมค่ะ ทาถาดด้วยเนยขาวให้ทั่ว เมื่อขนมสุกจะไม่ติดก้นถาดค่ะ ถ้าไม่ทาถาดด้วยเนยขาวก็กรุถาดด้วยกระดาษไข และนี่คือกระดาษไขสำหรับกรุถาดขนมค่ะ ตัดให้ใหญ่กว่าขนาดของถาดนะคะ นำกระดาษไขมากรุถาดขนมให้เรียบร้อย ให้กระดาษไขสูงเลยขอบถาดด้วยค่ะ เทส่วนผสมทั้งหมดลงในถาดที่ทาเนยขาว หรือกรุกระดาษไขเรียบร้อยแล้ว เทลงตรงกลางถาดนะคะ เพื่อให้ส่วนผสมไหลออกไปด้านริมของถาดอย่างเท่าเทียมกัน ต้องเกลี่ยส่วนผสมให้มีหน้าเรียบเสมอกันด้วยค่ะ พร้อมที่จะเข้าเตาอบแล้วค่ะ อบด้วยอุณหภูมิ 175 องศาเซลเซียส ประมาณ 25 - 30 นาทีค่ะ ภาพนี้คือครัวไทยหลังบ้านที่เคยเล่าให้ฟังว่า โดนน้ำซึมเข้าทางรั้วหลังบ้าน เลยต้องปรับปรุงใหม่ค่ะ จากเดิมซึ่งเป็นบรรยากาศโปร่งๆใช้เหล็กดัดบุมุ้งลวดโดยรอบ ได้ทำการปรับปรุงผนังใหม่ให้มั่นคงแข็งแรง ป้องกันน้องน้ำซึมเข้าบ้าน !!!!!กลัวจังค่ะเวลาที่น้องปูบอกว่าเอาอยู่ๆคร่าาา!!!!! แล้วก็เลยกลายมาเป็นแบบนี้ เพราะเตาอบที่ห้องครัวในบ้าน ซึ่งเคยโดนน้ำท่วมเมื่อปี 2548 อาการไม่ดีหมดสภาพ ก็สมควรหรอกนะคะ เพราะเค้าอยู่กับบ้านเรามายี่สิบสองปีแล้วค่ะ ที่สำคัญคือเป็นระบบดิจิตอล ไฮเทคมากเกินไป ซ่อมยาก อะไหล่ก็ไม่มีจำหน่ายแล้วเพราะบริษัท Ariston เลิกผลิตเตาอบรุ่นนี้ไปนานแล้ว เลยตัดสินใจซื้อยี่ห้อTeka แบบ Manual ใช้ง่าย ราคาสบายกระเป๋ามาแทนค่ะ . ในภาพแม่ครัวแอบไปเอนหลังรอเวลาขนมสุก ที่งีบได้เพราะตั้งเวลาเอาไว้แล้วค่ะ บราวนี่ในถาดกำลังขึ้นสวย และส่งกลิ่นหอมฟุ้ง เราอาจจะใช้เวลาอบไม่ถึง 25 นาทีนะคะขึ้นอยู่กับความชื้นของส่วนผสม วิธีตรวจสอบว่าบราวนี่สุกหรือยัง ทำได้โดยใช้ไม้จิ้มลงกลางถาดขนม ถ้าไม่มีน้ำแป้งเละๆติดปลายไม้ออกมาด้วยก็ใช้ได้ เพราะถ้าอบนานขนมอาจจะแห้งเกินไปค่ะ เวลาเปิดเตาอบระวังไอร้อนพุ่งออกมานะคะ เดี๋ยวจะเสียโฉม เลี่ยงอยู่ข้างๆจะปลอดภัยมากกว่า และอย่าลืมใช้ถุงมือหนาๆจับถาดขนมนะคะ เพราะอุณหภูมิเตาอบ ร้อนมากถึง 175 องศาเซลเซียสเชียวนะคะ!!!!!
ได้เวลานำออกมาจากเตาอบแล้วค่ะ นำบราวนี่ออกจากถาด วางผึ่งลม รอให้เย็นแล้วจึงตัดแบ่งเป็นชิ้นๆนะคะ เวลาตัดใช้มีดฟันเลื่อย ตัดแบ่งแถวแล้วตัดเป็นชิ้นค่ะ บราวนี่มากับความมืด ทำเสร็จก็ค่ำพอดี แสงไม่พอเลยมีสีมืดเข้ากับบรรยากาศ ตัดแบ่งใส่ถ้วยกระดาษ แบ่งให้เพื่อนบ้าน และเพื่อนๆของลูกสาว แบ่งๆน้ำหนักกันไปค่ะ :) พรุ่งนี้ลูกสาวมีกิจกรรมเกี่ยวกับน้องใหม่ที่คณะ ถือโอกาสหิ้วไปฝากเพื่อนๆด้วยค่ะ ใส่กล่องปิดฝาเก็บไว้ทานวันรุ่งขึ้นค่ะ กล้วยไม้กำลังออกดอก ....เด็ดมาแต่งจานขนม สร้างมูลค่าเพิ่มนะคะ!!!! แสงยามเช้าถ่ายรูปสวยกว่าตอนกลางคืนเยอะเลยนะคะ บราวนี่เนื้อชุ่มฉ่ำชิ้นนี้ สำหรับเพื่อนๆที่แวะมาเยือนทุกท่านค่ะ สวย.......หวานน้อย เคี้ยวอัลมอนด์มั้นมัน.....อร่อยมากที่สุด แน่นอนค่ะ :) ทานกับกาแฟดำ ไม่ใส่น้ำตาล ........อร่อยเกินพรรณนาค่ะ Open wide!!!!! ........อั้ม ๆ ๆ ๆ ๆ :)
. เกร็ดความรู้คู่ครัว . . . . บราวนี่ (brownie) ขนมชิ้นสี่เหลี่ยมสีน้ำตาลเข้ม ถูกจัดให้อยู่ในหมวดหมู่ของคุกกี้ ภาษาอังกฤษเรียกว่า sheet cookies หรือ คุกกี้แผ่น ที่มีลักษณะคล้ายเค้กช็อกโกแลตเข้มข้น แต่เนื้อแน่นกว่ามากและไม่เบาฟูเหมือนอย่างเค้ก นัยว่าเพราะใส่ผงฟูน้อย ขนมเค้กส่วนใหญ่นั้นเป็นก้อนกลม แต่บราวนี่กลับเป็นเค้กช็อกโกแลตที่อบในถาดแบนรูปสี่เหลี่ยมสูง 1 นิ้วกว่าๆ แล้วตัดแบ่งเป็นชิ้นลักษณะสี่เหลี่ยม ขนาดพอเหมาะ เอกลักษณ์ของบราวนี่ก็อยู่ตรงที่เนื้อแน่นและเป็นเค้กตัดนี่แหละค่ะ แม้ว่าที่มาของบราวนี่จะไม่ชัดเจน แต่นักประวัติศาสตร์อาหารสันนิษฐานว่า เจ้าขนมรูปทรงสี่เหลี่ยมนี้เกิดขึ้นในประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นที่แรกตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 19 กล่าวกันว่า บราวนี่ เกิดจากความบังเอิญในการทำเค้กช็อกโกแลตโดยลืมใส่ผงฟู อบออกมาแล้วเค้กไม่ขึ้นฟู แต่กลับได้ขนมสีน้ำตาลเข้มเนื้อแน่น อันเป็นที่มาของชื่อ “brownie” นั่นเอง นับได้ว่า " ความหลงลืม ความผิดพลาดเป็นปัจจัยผลักดันความก้าวหน้า " ให้ขนมชนิดนี้ถือกำเนิดขึ้นบนโลก ชื่อของ brownie ปรากฏขึ้นครั้งแรกบนสื่อสิ่งพิมพ์ใน Sears, Roebuck and Company Catalog เมื่อปี ค.ศ.1897 ต่อมาไม่นานก็พบว่ามีสูตรการทำบราวนี่ตามตำราอาหารต่างๆด้วย อาทิเช่น Boston Cooking-School Cook Book, The Joy of Cooking จนคนรู้จักบราวนี่แพร่หลายขึ้น เป็นที่นิยมทำกินกันตั้งแต่ ค.ศ.1920 เป็นต้นมา ขอบคุณ ประวัติ บราวนี่จาก บ้านส้มซ่าค่ะ
. .
. ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() |
ถึง บล็อกเกอร์ ทุกท่าน โปรดอ่าน
ด้วยทาง บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ได้ติดต่อขอความร่วมมือ มายังเว็บไซต์และเว็บบล็อกต่าง ๆ รวมไปถึงเว็บบล็อก OKnation
ห้ามให้มีการเผยแพร่ผลงานอันมีลิขสิทธิ์ ของบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ บนเว็บ blog โดยกำหนดขอบเขตของสิ่งที่ห้ามทำ และสามารถทำได้ ดังนี้
ห้ามทำ - การใส่ผลงานเพลงต้นฉบับให้ฟัง ทั้งแบบควบคุมเพลงได้ หรือซ่อนเป็นพื้นหลัง และทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือ copy code คนอื่นมาใช้ - การเผยแพร่ file ให้ download ทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือฝากไว้ server คนอื่น สามารถทำได้ - เผยแพร่เนื้อเพลง ต้องระบุชื่อเพลงและชื่อผู้ร้องให้ชัดเจน - การใส่เพลงที่ร้องไว้เอง ต้องระบุชื่อผู้ร้องต้นฉบับให้ชัดเจน จึงเรียนมาเพื่อโปรดปฎิบัติตาม มิเช่นนั้นทางบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ จะให้ฝ่ายดูแลลิขสิทธิ์ ดำเนินการเอาผิดกับท่านตามกฎหมายละเมิดลิขสิทธิ์
OKNATION
กฎกติกาการเขียนเรื่องและแสดงความคิดเห็น
1 การเขียน หรือแสดงความคิดเห็นใด ๆ ต้องไม่หมิ่นเหม่ หรือกระทบต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ หรือกระทบต่อความมั่นคงของชาติ
2. ไม่ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่นในทางเสียหาย หรือสร้างความแตกแยกในสังคม กับทั้งไม่มีภาพ วิดีโอคลิป หรือถ้อยคำลามก อนาจาร 3. ความขัดแย้งส่วนตัวที่เกิดจากการเขียนเรื่อง แสดงความคิดเห็น หรือในกล่องรับส่งข้อความ (หลังไมค์) ต้องไม่นำมาโพสหรือขยายความต่อในบล็อก และการโพสเรื่องส่วนตัว และการแสดงความคิดเห็น ต้องใช้ภาษาที่สุภาพเท่านั้น 4. พิจารณาเนื้อหาที่จะโพสก่อนเผยแพร่ให้รอบคอบ ว่าจะไม่เป็นการละเมิดกฎหมายใดใด และปิดคอมเมนต์หากจำเป็นโดยเฉพาะเรื่องที่มีเนื้อหาพาดพิงสถาบัน 5.การนำเรื่อง ภาพ หรือคลิปวิดีโอ ที่มิใช่ของตนเองมาลงในบล็อก ควรอ้างอิงแหล่งที่มา และ หลีกเลี่ยงการเผยแพร่สิ่งที่ละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบหรือวิธีการใดก็ตาม 6. เนื้อหาและความคิดเห็นในบล็อก ไม่เกี่ยวข้องกับทีมงานผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซต์ โดยถือเป็นความรับผิดชอบทางกฎหมายเป็นการส่วนตัวของสมาชิก คลิ้กอ่านเงื่อนไขทั้งหมดที่นี่"
OKnation ขอสงวนสิทธิ์ในการปิดบล็อก ลบเนื้อหาและความคิดเห็น ที่ขัดต่อความดังกล่าวข้างต้น โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของบล็อกและเจ้าของความคิดเห็นนั้นๆ
|
||
![]() ![]() |