*/
~*♥♥บันทึกด้วยภาพ♥♥*~ | ||
![]() |
||
~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~ |
||
View All ![]() |
วอนลมฝากรัก | ||
![]() |
||
วอนลมฝากรัก/หวานหวาน |
||
View All ![]() |
<< | มกราคม 2013 | >> | ||||
อา | จ | อ | พ | พฤ | ศ | ส |
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | ||
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | 29 | 30 | 31 |
แจ๋วจ่ายตลาดที่ไชน่าทาวน์ ...ดูหมูมาเลย์ พูดได้ประโยคเดียว"หว่ออ้ายหนี่ฮ่ะ"!!! ก่อนที่จะออกเดินทางไปไชน่าทาวน์ เราแหงนมองหอคอยแฝดอีกครั้ง ...สูงสุดสายตาทีเดียวค่ะ สำหรับเพื่อนๆที่เพิ่งจะแวะเข้ามาบ้านหวานหวาน ย้อนกลับไปอ่านสองเอ็นทรี่ย้อนหลังได้ตามลิ้งด้านล่างนะคะ ความเดิม ตอนที่ 2 คลิกที่นี่ค่ะ
วันนี้เราจะ ชมเมืองโดยรถ KL HOP-ON HOP-OFF City Tour ซึ่งจะพาเราไปชมสถานที่ ที่น่าสนใจของ KL เช่น MALAYSIA TOURISM CENTER (MTC), KL TOWER, AQUARIA KLCC, CRAFT CULTURAL COMPLEXKL, CHINATOWN, BIRD PARK และ ISTANA NEGARA เป็นต้น ซื้อตั๋วคนละ 36 ริงกิต ใช้ได้ 24 ชั่วโมง จะขึ้นจะลงกี่ครั้งก็ได้ โดยรถจะมาทุกๆ 15 นาทีค่ะ คุ้มสุดจะคุ้มค่ะ ค่าตั๋วโดยสารคนละ 360 บาท ยิ่งตอนนี้ค่าเงินบาทกำลังแข็งตัวก็ยิ่งคุ้มนะคะ ซื้อเที่ยงวันนี้บัตรหมดอายุเที่ยงวันพรุ่งนี้ จะนั่งชมเมืองสักกี่รอบก็ได้ !! รอรถค่ะ เป็นรถบัสสองชั้น เปิดแอร์เย็นสบาย เมื่อรถเคลื่อนตัวออกจากสถานีหน้าตึกแฝด ใครๆก็ชอบนั่งชั้นบนเพราะเห็นวิวชัด ชมเมืองไป ถ่ายรูปไป เพลินดีค่ะ เมื่อผ่านสถานที่สำคัญก็จะมีเสียงบรรยาย แนะนำ ชี้แจง ให้ผู้โดยสารทราบ รถแล่นขึ้นเนินเขามาถึง เคแอล ทาวเวอ่อร์ซึ่งเป็นหอคอยสื่อสาร มีความสูง 421 เมตร นับว่าสูงเป็นอันดับที่ 5 ของโลก เปิดให้เข้าชมตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2539 เป็นต้นมา มีภัตราคารให้บริการอาหารแก่นักท่องเที่ยวด้วยค่ะ และค่าตั๋วก็ถูกกว่าตึกแฝดมากกว่าครึ่ง อีกทั้งยังไม่ต้องเข้าคิว....แต่เราก็ได้แต่ชมอยู่ภายนอกอาคาร จุดหมายของเราคือ "ไชน่าทาวน์" ซึ่งอยู่บนถนน Petaling " เห็นร่มกางอยู่เต็มถนน....นี่แหละค่ะ ไชน่าทาวน์ เป็นย่านค้าขายของชาวจีน ไม่อนุญาตให้รถแล่นผ่าน สองเท้าเท่านั้นที่จะย่ำเข้าไปได้ กล่าวกันว่าไชน่าทาวน์เป็นสถานที่ที่ไม่เคยหลับ ในช่วงกลางวันถนนสายนี้จะเป็นตลาดสด ขายทั้งของกินของใช้หลากหลายละลานตาในราคาย่อมเยา แต่ในยามค่ำคืน จะคึกคักกว่าตอนกลางวัน มีสินค้าลอกเลียนแบบ...ของก็อปวางขายเต็มไปหมด หวานหวานพาเพื่อนๆมาชมหมูมาเลย์ค่ะ ปิ้งย่างกันให้เห็นจะจะ ...พ่อหนุ่มคนปิ้งใส่เสื้อแดงเสียด้วย!!! นี่ก็เสื้อแดง....แดงแต่เสื้อ ...ไม่เกี่ยวการเมืองค่ะ พ่อหนุ่มสาละวนอยู่กับการปิ้งเบคอน หอมหวน กลิ่นฟุ้งตรลบอบอวล ...เฮ้อ...หมูอย่างเราหรือจะอดกินพวกเดียวกันเองได้!!! เมื่อปิ้งเสร็จก็เก็บเข้าตู้รอจำหน่าย ...แปลกจังคนขายก็ใส่เสื้อแดง....ไปร้านอื่นก่อนดีกว่านะคะ ร้านนี้ก็น่าทานนะคะ นึกถึงข้าวต้มร้อนๆ ทานกับหมูแผ่น หนุ่มท่าทางทะมัดทะแมงแอบปิ้งหมูอยู่หลังร้าน เอ่อ..ใส่เสื้อแดงเหมือนกัน ยังดีที่มีแถบเหลือง...ซื้อร้านนี้แหละค่ะ ฮา!! หมูแท่ง หมูหยอง สารพัดหมู มากมาย กุนเชียงไก่แขวนต่องแต่ง.....พี่บล็อกเกอร์ทุนดีจะบอกว่า...แขวนโทงเทงไหมคะ...เอิ๊กๆๆๆๆๆ คนขายยิ้มด้วยอัธยาศัยไมตรี แต่ไม่ยอมลดราคาให้เลยหละค่ะ..แหะๆๆๆๆ กุนเชียงสารพัดรูปแบบและรสชาติ กุนเชียงทอดแล้วยำใส่หัวหอมซอย พริกขี้หนู ขิงอ่อน มะนาว ต้นหอม ผักชีโรยหน้า ทานกับข้าวใหม่ต้มเละๆน้ำเยอะๆ ...ซดน้ำร้อนๆตอนอากาศเย็นๆ ...สุขใดไหนจะเท่านะคะเพื่อนๆขา กำลังพิศวงกับเป็ดที่ห้อยอยู่เพลินๆ....เสียงคนขายถามว่า......พวงไหนล่ะ พวงไหนล่ะ ..ฮาอีกที!!! หมูสามชั้นปรุงรส สีดำๆ...น่าซื้อมาลองชิมเหมือนกันนะคะ เพื่อนชาวมาเลย์ของลูกสาวบอกว่าหมูเมืองไทยอร่อย แต่เราบอกเค้าว่าหมูมาเลย์อร่อยกว่าค่ะ อ่อยเอาไว้ เผื่อว่าจะได้เป็นของฝากกลับบ้านอะค่ะ(งกจริงจิ๊ง หวานหวานเอ๊ย) ซื้อของที่นี่ถ้าพูดจีนได้ก็จะดีเป็นอันมากค่ะ ส่วนหวานหวานก็พูดได้...ประโยคเดียว "หว่ออ้ายหนี่"
โห....เลี่ยนอะค่ะ ...ชิมหมูจนเลี่ยน... แวะหาน้ำชาล้างคอก่อนนะคะ ร้านนี้กำลังมีการถ่ายทำ วิธีการทำขนม คล้ายๆขนมเปี๊ยะบ้านเรา คนทำขนมใส่เสื้อเหลือง ...เอ..ชักสงสัยซะแล้วซีว่า ร้านหมูแผ่นจะตีกะร้านขนมเปี๊ยะไหมคะ ถ้าเป็นบ้านเรามีหวังได้ดูมวยฟรี!!! ขนมในโหลก็เหมือนๆที่บ้านเรานะคะ มีขนมทอดในกระทะ อยากจะซื้อสักหน่อย ...แต่ต้องยืนรอ เพราะขายดีจนทอดไม่ทัน...ไปดีกว่า น้ำมันพาหุ่นเสียค่ะ อันเบ้อเริ่มเทิ่ม ...เหมือนขนมถังแตกไหมคะ แต่พอเค้าตักออกมา หั่นเป็นชิ้น ....เราก็เดินผ่านเลยไปโดยไม่ได้อุดหนุน เจอหนุ่มๆสาวๆชาวสิงคโปร์เดินดูดน้ำมาคนละแก้ว ทำให้นึกหิวน้ำขึ้นมาตะหงิดๆ อ๋อ...น้ำเต้าหู้น่ะเอง เจอน้องเชอร์รี่ น้องชมพู่ หมดจดสดสวยอยู่ที่ร้านขายผลไม้ อ้อ....และคุณมะม่วงสีแปลกตาด้วยค่ะ คั่วเกาลัดกันริมทางเดินเหมือนย่านคนจีนในไทย เดินมาเจอร้านขายชาเย็นๆแล้วค่ะ ชื่อร้าน 18 องศาซี คอแห้งแล้วหละ ขอชาไข่มุกหวานน้อยสักแก้วนะคะ ทานชาจนหมดแก้วแล้ว เราก็ยืนรอรถเพื่อจะไปเที่ยวต่อ รถพาเราแล่นผ่านคลองน้ำใสสะอาด ซึ่งไหลผ่านกลางเมือง ไม่มีกลิ่นเน่าเหม็นเหมือนคลองที่ กทม.เลยสักนิด นี่แสดงว่าคนของเค้าได้รับการอบรม สั่งสอนให้มีความรับผิดชอบต่อส่วนรวม...ไม่มักง่าย อาคารสวยๆ แบบมาเลย์ รถจอดให้ลงไปซื้อไอติม ....ไม่ใช่ค่ะ ...ให้ลงไปชมหน้าพิพิธภัณฑ์แห่งชาติของประเทศมาเลเซียค่ะ เราผ่าน ประตูทางเข้าพิพิธภัณฑ์แห่งชาติ ไม่กล้าลงไปชม.... ด้วยเกรงว่าเค้าจะกักหวานหวาน เก็บเอาไว้ในพิพิธภัณฑ์ ...ไม่ให้กลับบ้าน โทษฐานที่เป็น "ของเก่า" !!! เอิ๊กๆๆๆๆ รถพาเรามายัง Istana Negara ...พระราชวังสุลต่านของกษัตริย์มาเลเซีย ซึ่งเป็นสถานท่องเที่ยวยอดนิยมในย่านใจกลางเมืองหลวง ปัจจุบันสุลต่าน "อับดุล ฮาลิม มูอัดซาม ชาห์" พระชนมายุ 85 ชันษา แห่งรัฐเคดาห์ ทรงขึ้นครองบัลลังก์เป็นกษัตริย์มาเลเซียพระองค์ใหม่ หรือเป็นกษัตริย์พระองค์ที่ 14 และครองตำแหน่งเป็นกษัตริย์ที่มีพระชนมายุสูงสุดมากที่สุดในบรรดากษัตริย์ มาเลเซียที่ผ่านมา โดยพระองค์ได้ถวายสัตย์ปฎิญาณ ท่ามกลางบุคคลสำคัญหลายร้อยคน ที่เข้าร่วมพิธี มีพระราชดำรัสว่า กษัตริย์ถือเป็นร่มโพธิ์ร่มไทรของปวงประชา และปวงประชาถือเป็นเสาค้ำจุนของกษัตริย์ หน้าที่สำคัญที่สุดของกษัตริย์คือจะต้องทำให้แผ่นดินไม่มีความชั่วร้าย และการทำลายล้างเกิดขึ้นแก่ปวงชนในประเทศ
ซึ่งอพยพเข้ามาทำมาหากินในมาเลเซียจนร่ำรวยเป็นมหาเศรษฐี บ้านหลังใหญ่ถูกสร้างขึ้นมาเมื่อปี ค.ศ 1920 เพื่อเป็นที่อยู่อาศัยของครอบครัวขนาดใหญ่ ชานวิงพาภรรยาจากฮ่องกงมาอยู่ด้วยจำนวนถึง 26 คน ....อุแม่เจ้าเกือบจะครบเดือน!!!! ต่อมาบ้านหลังใหญ่นี้ได้ตกเป็นของรัฐบาลอังกฤษซึ่งมีอำนาจปกครองมาเลเซียในสมัยนั้น ค.ศ 1954 เป็นปีที่มาเลเซียได้รับเอกราชจากอังกฤษและได้รับสถาปนาขึ้นเป็นสหพันธรัฐมาเลเซีย จึงได้มีการปรับปรุงคฤหาสถ์ครั้งใหญ่เพื่อให้เป็นที่ประทับของกษัตริย์ จากการที่อังกฤษเคยปกครองประเทศนี้มาก่อน ก็ได้นำเอาประเพณีการผลัดเปลี่ยนทหารหน้าวัง ที่แต่งกายเต็มยศสวยงามมาใช้ เช่นเดียวกับพระราชวังบั๊กกิมแฮม แม้ว่าจะไม่ใหญ่โตเหมือนต้นตำรับ แต่ก็ทำให้เป็นที่สนใจของบรรดานักท่องเที่ยวอย่างมากมาย ทหารหน้าวังยืนเก๊กหน้านิ่งสนิท!!! ภาพนี้ขอยืมมาจากคุณ TrendsetterMe.....ขอบคุณค่ะ ที่หน้าพระราชวัง รถจอดให้เราลงไปถ่ายรูปเป็นเวลาสิบห้านาที แต่ถ้าอยากจะอยู่นานกว่านี้ก็ต้องรอขึ้นรถคันต่อไปค่ะ ขากลับ...ตอนแรกเรากะว่าจะนั่งชมวิวที่ส่วนท้ายรถชั้นบนซึ่งเปิดโล่ง แต่ฟ้าครึ้มฝนก็เลยเปลี่ยนใจ!! ภาพนี้ถ่ายด้วยกล้องจากโทรศัพท์มือถือขณะรถแล่นผ่าน.... เห็นตึกแฝด และ เคแอล ทาวเวอร์ สูงเด่นเป็นสง่า ท้องฟ้าครึ้มฝนอย่างนี้ เชื่อว่าอีกไม่นานฝนก็คงจะตกลงมาอย่างแน่นอนค่ะ ภาพนี้หวานหวานภูมิใจนำเสนอค่ะ ไม่น่าเชื่อว่าเมื่อเช้านี้เราขึ้นไปจนถึงยอดหอคอย และชวนให้นึกถึงสำนวนที่ว่า "อยู่บนหอคอยงาช้าง" ซึ่งหมายถึงผู้ที่อยู่สูงเกินไป จนไม่รับรู้ความเป็นจริงของโลก และแล้วฝนก็ตกลงมาตามคาด เราตัดสินใจไม่ลงไปดูงานแกะสลักไม้ หากแต่นั่งดูน้ำฝนไหลลงมาที่กระจกหน้ารถ เป็นความงามในยามที่ดินฟ้าอากาศแปรปรวน... โลกของเราท่าทางจะป่วยหนักมากขึ้นทุกวันแล้วนะคะ กำลังเพลินฟังเพลง สามช่าของจีน....อยู่ๆหูก็แว่วเสียงเพลง "หยาดน้ำฝนหยดน้ำตา" ของคุณเนรัญชรา ลอยมาไกลๆ
หวานหวานชอบตอนช่วงสุดท้ายของเพลง ซึ่งคุณเนรัญชราแต่งคำร้องได้ไพเราะกินใจเหลือเกินค่ะ
เมื่อรถแล่นมาจอดที่ย่านช้อปปิ้ง เรารีบลงจากรถวิ่งฝ่าสายฝนที่ตกพรำๆ เข้าไปในร้านกาแฟ OLD TOWN WHITE COFFEE "White coffee" ถือกำเนิดมาจากเมืองเล็กๆในภาคกลางของประเทศมาเลเซียชื่อ เมืองอิโป้ (Ipoh) ในปี 1958 หรือเมื่อ 55 ปีมาแล้ว จากสูตรลับเฉพาะที่ได้ถูกคิดค้นและสานต่อมาจนถึงปัจจุบัน และกาแฟชนิดนี้ได้รับความนิยมไปทั่วประเทศและได้สร้างชื่อเสียงให้กับเมือง อิโป้ ขนาดที่มีการพูดติดปากว่า เมื่อใดมีโอกาสไปเยือนเมืองอิโป้ เมื่อนั้นต้องไปชิมกาแฟ White coffee เสื้อผ้าของหวานหวานเปียกฝนชื้นๆและมาเจอแอร์เย็นอย่างนี้ต้องดื่มกาแฟร้อน ตามด้วยขนมปังกระเทียมค่ะ อร่อยมื้อนี้คิดถึงคอกาแฟ ท่านบอกอชาลีจังนะคะ กาแฟร้อนๆ รสดี ไม่แอบเปรี้ยว ....กลิ่นหอมละมุน หืมมมม....น่าทานที่สุดเลย เชิญเพื่อนๆดื่มด้วยกันนะคะ เอ็นทรีหน้าหวานหวานจะพาไปตะลุยราตรีที่ KL ค่ะ อย่าลืมแวะมาเที่ยวด้วยกันนะคะ . . ขอขอบพระคุณทุกท่านที่กรุณามาเยือนบ้านหวานหวาน ขอบคุณ YouTube อัปโหลดโดยคุณ 彭广毅 ขอบคุณข้อมูลจากเว็บผู้จัดการออนไลน์และมติชนออนไลน์ ขอบคุณ ภาพตกแต่งจากอินเตอร์เน็ต http://www.glitter-graphics.com/
|
ถึง บล็อกเกอร์ ทุกท่าน โปรดอ่าน
ด้วยทาง บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ได้ติดต่อขอความร่วมมือ มายังเว็บไซต์และเว็บบล็อกต่าง ๆ รวมไปถึงเว็บบล็อก OKnation
ห้ามให้มีการเผยแพร่ผลงานอันมีลิขสิทธิ์ ของบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ บนเว็บ blog โดยกำหนดขอบเขตของสิ่งที่ห้ามทำ และสามารถทำได้ ดังนี้
ห้ามทำ - การใส่ผลงานเพลงต้นฉบับให้ฟัง ทั้งแบบควบคุมเพลงได้ หรือซ่อนเป็นพื้นหลัง และทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือ copy code คนอื่นมาใช้ - การเผยแพร่ file ให้ download ทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือฝากไว้ server คนอื่น สามารถทำได้ - เผยแพร่เนื้อเพลง ต้องระบุชื่อเพลงและชื่อผู้ร้องให้ชัดเจน - การใส่เพลงที่ร้องไว้เอง ต้องระบุชื่อผู้ร้องต้นฉบับให้ชัดเจน จึงเรียนมาเพื่อโปรดปฎิบัติตาม มิเช่นนั้นทางบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ จะให้ฝ่ายดูแลลิขสิทธิ์ ดำเนินการเอาผิดกับท่านตามกฎหมายละเมิดลิขสิทธิ์
OKNATION
กฎกติกาการเขียนเรื่องและแสดงความคิดเห็น
1 การเขียน หรือแสดงความคิดเห็นใด ๆ ต้องไม่หมิ่นเหม่ หรือกระทบต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ หรือกระทบต่อความมั่นคงของชาติ
2. ไม่ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่นในทางเสียหาย หรือสร้างความแตกแยกในสังคม กับทั้งไม่มีภาพ วิดีโอคลิป หรือถ้อยคำลามก อนาจาร 3. ความขัดแย้งส่วนตัวที่เกิดจากการเขียนเรื่อง แสดงความคิดเห็น หรือในกล่องรับส่งข้อความ (หลังไมค์) ต้องไม่นำมาโพสหรือขยายความต่อในบล็อก และการโพสเรื่องส่วนตัว และการแสดงความคิดเห็น ต้องใช้ภาษาที่สุภาพเท่านั้น 4. พิจารณาเนื้อหาที่จะโพสก่อนเผยแพร่ให้รอบคอบ ว่าจะไม่เป็นการละเมิดกฎหมายใดใด และปิดคอมเมนต์หากจำเป็นโดยเฉพาะเรื่องที่มีเนื้อหาพาดพิงสถาบัน 5.การนำเรื่อง ภาพ หรือคลิปวิดีโอ ที่มิใช่ของตนเองมาลงในบล็อก ควรอ้างอิงแหล่งที่มา และ หลีกเลี่ยงการเผยแพร่สิ่งที่ละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบหรือวิธีการใดก็ตาม 6. เนื้อหาและความคิดเห็นในบล็อก ไม่เกี่ยวข้องกับทีมงานผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซต์ โดยถือเป็นความรับผิดชอบทางกฎหมายเป็นการส่วนตัวของสมาชิก คลิ้กอ่านเงื่อนไขทั้งหมดที่นี่"
OKnation ขอสงวนสิทธิ์ในการปิดบล็อก ลบเนื้อหาและความคิดเห็น ที่ขัดต่อความดังกล่าวข้างต้น โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของบล็อกและเจ้าของความคิดเห็นนั้นๆ
|
||
![]() ![]() |