อย่าใส่กล้วยหอมไว้ในตู้เฉยๆ นะคะ

หลังจากอ่านบทความนี้จบ....เพราะท่านจะมองกล้วยหอมในอีกแง่มุมหนึ่งทันที

ถ้าไม่เชื่อก็ลองมาดูกันเลยค่ะ....

ก่อนอื่นเราควรต้องรู้ค่ะว่า กล้วยหอมที่เรากินอยู่ มีสารน้ำตาลอยู่ 3 ชนิด

คือ ซุคโคส ฟรุคโตสและกลูโคส (sucrose, fructose and glucose)

รวมทั้งเส้นใยอาหาร  ซึ่งมันจะให้พลังงานแก่ร่างกายพร้อมนำไปใช้ทันทีเลยค่ะ

เขาวิจัยมาแล้วว่ากล้วยหอม 2 ใบให้พลังงานเพียงพอให้เราทำงานถึง 90 นาที

ไม่ต้องสงสัยเลยค่ะว่าทำไม ..นักกีฬาระดับโลกถึงชอบกินกล้วยหอมกันนัก

(เคยเห็นในสนามเทนนิส....พอพักเบรคบางคนหยิบกล้วยหอม มากัดกินสัก 2-3 คำ)

เท่านั้นยังไม่หมดนะคะ....เจ้ากล้วยหอมยังมีคุณอนันต์อีกค่ะ เช่น

ป้องกันโรคภัยและภาวะต่าง ๆของร่างกายได้อีกด้วย...มาดูกันนะคะ

1. ความเศร้าซึม

จากการสำรวจและวิจัยไต่ถามพร้อมสุ่มตัวอย่างจากคนไข้ ที่ป่วยเป็นโรคเศร้าซีม

พบว่าส่วนใหญ่จะรู้สึกดีขึ้นเมื่อได้กินกล้วยหอม เพราะว่ามันมี tryptophan ซึ่งเป็นกรดอะมิโนโปรตีนชนิดหนึ่ง ซึ่งร่างกายสามารถแปลงเป็น serotonin ซึ่งเป็น

สารกระตุ้นที่ทำให้ร่างกายรู้สึกผ่อนคลาย อารมณ์สดใสและมีความสุขมากยิ่งขึ้นค่ะ

pms (premenstrual syndrome)

สำหรับสุภาพสตรีแล้วก่อนที่จะมีประจำเดือน อารมณ์จะหงุดหงิดง่าย

ไม่อยู่กับร่องรอยและก่อให้เกิดสภาวะต่อร่างกาย.เช่นปวดท้อง ปวดหัว...ฯลฯ

รีบกินกล้วยหอมซะดี ๆ.....ยาแก้ปวดลืมไปได้เลย....มันสามารถป้องกันได้นะจ๊ะ........

2. โรคโลหิตจาง (Anemia)

ธาตุเหล็กในกล้วยหอมสามารถที่จะกระตุ้นร่างกายให้ผลิต Hemoglobin

(ฮีโมโกลบิน) ในกระแสโลหิตช่วยหยุดยั้งภาวะโลหิตจางได้

แต่คงไม่ช่วยแก้โรคทรัพย์จางได้หรอกนะ....ฮ่า...

(โรคนี้หมวยก็เป็นบ่อย ๆ.....เหะ..เหะ...)

3. ความดันโลหิต (Blood Pressure)

กล้วยหอมมีเกลือโปแตสเซียมอยู่เยอะ เป็นตัวช่วยความดันเลือดจนกระทั่ง US Food and Drug Administration อนุมัติให้กล้วยหอมยอดผลไม้มีส่วนช่วยลดภาวะความเสี่ยงความดันได้จริง

4. เสริมสร้างพลังสมอง (Brain Power)

ที่อังกฤษในแค้วน Middlesex มีนักเรียนจำนวน 200 คนจาก Twickenham school

อ้างว่าพวกเขาสอบผ่านเพราะได้กินกล้วยหอมเป็นอาหารเช้า  รวมทั้งกินอีกนิดหน่อยในตอนมื้อเที่ยงเพื่อทำให้สมองสดชื่น  เขาได้วิจัยพบว่าโปแตสเซียมในกล้วยช่วยนักเรียนให้ตื่นตัวอยู่เสมอ

5. อาการท้องผูก (Constipation)

เส้นใยอาหารในกล้วยหอมช่วยทำให้ระบบขับถ่ายในร่างกาย ทำงานได้ดี

6. เมาค้าง (Hangovers)

วิธีแก้เมาค้างที่เร็วและดีอีกวิธีหนึ่งก็คือกินกล้วยหอมปั่น banana milkshake

โดยการใส่น้ำผึ้งลงไปด้วย (คุณผู้ชายท่านไหนจะลองดูก็ได้นะคะ)

ด้วยสรรพคุณของน้ำผึ้งและสารวิตามินในกล้วยจะช่วยให้ ปรับระดับน้ำตาลในเส้น

เลือด และทำให้กระเพาะอาหารอยู่ในสภาวะที่พร้อมทำงานได้เร็วขึ้น......

7. จุกเสียดแน่นท้อง (Heartburn)

กล้วยหอมมีสารลดกรดตามธรรมชาติอยู่ ดังนั้นการกินกล้วยก็จะช่วยให้ลดอาการดังกล่าวด้วยเจ้าค่ะ

8. Morning Sickness

เป็นอาการคลื่นไส้อาเจียนในตอนเช้า ของคุณแม่ที่อยู่ในช่วงตั้งครรภ์

ถ้าเรากินกล้วยหอมสักคำ 2 คำระหว่างมื้อเช้า เที่ยงหรือเย็น

มันจะช่วยปรับระดับน้ำตาลในเลือดและแก้อาการดังกล่าวในตอนเช้าได้ค่ะ

9. บรรเทาแผลยุงกัด

ก่อนที่จะใช้ยาทา ลองใช้เปลือกกล้วยหอมด้านในถูบริเวณที่ถูกยุงกัด

จะช่วยลดอาการคันหรือบวมได้.....คนส่วนใหญ่เป็นอย่างนั้นจริง ๆ

10. ระบบประสาท (Nerves)

วิตามินบีที่มีอยู่มากในกล้วยหอมจะช่วยลดความเครียด. ...อ่อนล้าได้

11. อ้วนจากทำงานมากเกินไป

ที่สถาบันจิตวิทยาในออสเตรียได้ศึกษาและพบว่าความเครียดจากที่ทำงานทำให้คนกินช็อกโกแล็ตและพวกโปเ ต้โต้ชิปส์มากเกินไป ทำให้น้ำหนักเพิ่มมากขึ้น

จากที่กล่าวมาแล้วถ้ากินกล้วยหอมสักเล็ก ๆน้อย ๆประมาณทุก ๆ 2 ชม.

มันจะช่วยปรับระดับน้ำตาลในเลือดและลดการอยากกินของจุกจิก

12. แผลในลำไส้และกระเพาะอาหารรวมทั้งผิวหนังพุพองเป็นแผล (Ulcers)

สารและเส้นใยในกล้วยหอมช่วยให้การย่อยอาหารของลำไส้เล็กดีขึ้น รวมทั้งกรดต่าง ๆที่มีอยู่ทำให้มีการเคลือบผิวของกระเพาะ ลดการเป็นแผลในกระเพาะได้

13. ปรับระดับอุณหภูมิในร่างกาย (Temperature Control)

ในประเทศแถบเส้นศูนย์สูตรที่มีอากาศร้อน ผู้คนชอบกินกล้วยหอมดับร้อนกันครับและเชื่อว่ามันเป็นผลไม้เย็นฉ่ำชนิดหนึ่ง อย่างเช่นในไทยมีความเชื่อกันว่าผู้หญิงท้องควรกินกล้วยหอมเป็นประจำ เพื่อเด็กที่เกิดมาจะมีอารมณ์เยือกเย็นเช่นดังป๋าคูล เป็นต้น..so cool....

14. ลดความอยากสูบบุหรี่

สำหรับท่านที่ต้องการเลิกบุหรี่ กล้วยหอมอาจช่วยท่านได้เพราะมีวิตามิน B6, B12 โปแตสเซียมและแม็กนีเซียม ที่มีอยู่มากจะช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวเร็วจากการขาดสารนิโคติน

และเมื่อเปรียบเทียบกับแอปเปิลแล้ว กล้วยหอมมีโปรตีนมากกว่า 4 เท่า มีคาร์โบไฮเดรทมากกว่า 2 เท่า ฟอสฟลอรัสมากกว่า 3 เท่า วิตามินเอและธาตุเหล็กมากกว่า 5 เท่า วิตามินและเกลือแร่ต่าง ๆมากกว่า 2 เท่า

ดังนั้นจากที่ฝรั่งเคยพูดกันว่า  "An apple a day keeps doctor away."

ต่อไปคงจะต้องเปลี่ยนเป็น  "A banana a day keeps doctor away." ซะแล้วมั๊ง..ฮ่า..

แหม๊.....เห็นมั๊ยคะว่า..กล้วยหอมนั้นน่ะ เป็นยอดผลไม้จริง ๆ  แต่ถ้าบ้านไหนไม่ค่อยได้มีโอกาสได้ทานกล้วยหอม  จะเปลี่ยนมาเป็นทานเป็นกล้วยน้ำว้า ก็ไม่ว่ากันค่ะ เพราะประโยชน์หรือคุณค่า ก็ไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่ากันไปเท่าไหร่  ทุกอย่างล้วนแต่ส่งให้สุขภาพเราแข็งแรง ได้ทั้งนั้นเลยเจ้าค่ะ....พยาบาลหมวย ^_^