ใช้เวลาสำรวจตัวคุณเองสักนิดว่าอยู่ในกลุ่มเสี่ยงต่อภัยสุขภาพในยุคสังคมดิจิตอลหรือไม่??? 1. คุณเป็นผู้หนึ่งที่มักปฏิบัติงานในอิริยาบถเดิมๆ นานเกินกว่า 6 ชั่วโมงต่อวัน 2. คุณเป็นผู้หนึ่งที่นั่งทำงานอยู่กับตัวเลขนานเกินกว่า 6 ชั่วโมงต่อวัน 3. คุณเป็นผู้หนึ่งที่ต้องนั่งตรวจและเขียนเอกสารนานเกินกว่า 6 ชั่วโมงต่อวัน 4. คุณเป็นผู้หนึ่งที่ต้องใช้คอมพิวเตอร์เพื่อการทำงานเกินกว่า 6 ชั่วโมงต่อวัน ขณะที่คุณกำลังอ่านและสำรวจตัวเองอยู่นี้ หากหนึ่งในสี่ข้อข้างต้นตรงกับพฤติกรรมประจำวันของคุณ คุณก็นับเป็นหนึ่งในกลุ่มเสี่ยงที่กำลังถูกคุกคามจากภัยร้ายในที่ทำงานของคุณแล้วนั่นเองค่ะ ตามรายงานปัญหาสุขภาพพบว่า เมื่อ 20 กว่าปีก่อน ในประเทศสหรัฐอเมริกา ที่ถือว่าเป็นประเทศที่มีผู้ใช้คอมพิวเตอร์มากที่สุดในโลก และเป็นประเทศแรกๆที่ได้ใช้คอมพิวเตอร์ จากชาวอเมริกันทั้งหมด 200 กว่าล้านคน ผลวิจัยพบกว่า 50 ล้านคน ซึ่งใช้คอมในการทำงานและมีอยู่ที่บ้าน ล้วนมีปัญหาทั้งทางระบบสายตา และอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อทั้งสิ้น ในปี 2545 ดร.คีรินท์ เมฆโหรา นักกายภาพบำบัด นักการยศาสตร์ อาจารย์คณะกายภาพบำบัดฯ มหาวิทยาลัยมหิดล เป็นหนึ่งในผู้ที่ศึกษาเกี่ยวกับโรคที่เกิดจากการทำงานซ้ำๆ และติดตามอาการของผู้ป่วยในเมืองไทย โดยมีงานวิจัยเกี่ยวกับอาการของโรค พบส่วนใหญ่เกิดมาจากการทำงานซ้ำๆ เดิม รวมทั้งกิจกรรมต่างๆ เช่น ตีกอล์ฟ รวมทั้งการจัดเวิร์คสเตชั่น (work station) หรือสถานีงานที่ไม่เหมาะสม โดยจากการสำรวจสำนักงานทั้งหมด 4 แห่ง จากพนักงานทั้งสิ้น 470 คน พบว่า บริเวณที่มีอาการปวดมากที่สุด คือที่คอถึงร้อยละ 43.5 รองลงมาคือ ที่บ่า ร้อยละ34.6 และที่ไหล่ร้อยละ 32.1 ตามลำดับ ข้อมูลล่าสุดจัดทำโดยศูนย์ศึกษาและวิจัยมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ระหว่างเดือนมกราคม 2551 ที่ผ่านมาสำรวจอาการปวดในกลุ่มตัวอย่างคนทำงานออฟฟิศ หญิงและชาย ในจำนวน 413 คน (ชาย 183 คน หญิง 230 คน) พบว่า ส่วนใหญ่ทำงานบนโต๊ะทำงานเฉลี่ยเกินกว่า 6 ชั่วโมงต่อวัน และใช้คอมพิวเตอร์ในการทำงานมากกว่า 6 ชั่วโมงต่อวัน ผลการศึกษา แสดงถึงอาการปวดที่เป็นกันมากที่สุด ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา 5 อันดับแรก ก็คือ การปวดคอ ปวดไหล่ ปวดหลัง ปวดเอว และปวดศีรษะ ตามลำดับ โดยอาการปวดคอ มีมากถึงร้อยละ 84 และ ตามด้วยอาการปวดไหล่ร้อยละ 71 ผลวิจัยระบุว่าอาการปวดบริเวณกล้ามเนื้อ คอและไหล่กำลังคุกคามกลุ่มคนทำงานออฟฟิศมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งล้วนมาจากหลายสาเหตุทั้งจากพฤติกรรม อิริยาบถในการทำงาน ลักษณะและสภาพแวดล้อมบริเวณเวิร์ค สเตชั่น รวมไปถึงความเครียดจากการทำงาน หรือทำงานต่อเนื่องเป็นเวลานานๆ ถือเป็นปัญหาสำคัญที่ไม่ควรละเลย เพราะอาการดังกล่าวอาจทวีความรุนแรงจนนำไปสู่ปัญหาสุขภาพ เกิดเป็นโรคประจำทศวรรษที่ได้ยินกันจนชินหูว่า Office Syndrome หรือโรคภัยในสถานที่ทำงาน คณะวิจัย ให้ข้อแนะนำถึงวิธีป้องกันและรักษาอาการบาดเจ็บกล้ามเนื้อบริเวณคอและไหล่ว่า สามารถทำได้หลากหลายวิธีตามแต่สาเหตุ ทั้งการปรับเวิร์ค สเตชั่นให้เหมาะสม เปลี่ยนอิริยาบถในการทำงานหรือเคลื่อนไหวร่างกายทุก 15-20 นาที ขจัดความเครียดในการทำงาน เพิ่มความแข็งแรงและความยืดหยุ่นของระบบกระดูกและกล้ามเนื้อ การนวด การใช้ความร้อน-เย็นเพื่อให้กล้ามเนื้อยึดหดตัว การออกกำลังกายแบบง่ายๆ ในท่าทางต่างๆ หรืออีกทางเลือกสำหรับผู้ที่ไม่ค่อยมีเวลาและต้องการความสะดวก คือการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บรรเทาอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อที่พัฒนาให้เหมาะสำหรับการบรรเทาปวดบริเวณคอและไหล่ เป็นต้น ดูแลใส่ใจตัวเองสักนิดนะคะ เพื่อสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดี อย่าให้อาการปวดคอและไหล่แปรสภาพไปเป็นปัญหาที่อาจส่งผลกับสุขภาพ และประสิทธิภาพในการทำงานค่ะ...ด้วยความห่วงใยจาก... พยาบาลหมวย ^_^ |
ถึง บล็อกเกอร์ ทุกท่าน โปรดอ่าน
ด้วยทาง บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ได้ติดต่อขอความร่วมมือ มายังเว็บไซต์และเว็บบล็อกต่าง ๆ รวมไปถึงเว็บบล็อก OKnation
ห้ามให้มีการเผยแพร่ผลงานอันมีลิขสิทธิ์ ของบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ บนเว็บ blog โดยกำหนดขอบเขตของสิ่งที่ห้ามทำ และสามารถทำได้ ดังนี้
ห้ามทำ - การใส่ผลงานเพลงต้นฉบับให้ฟัง ทั้งแบบควบคุมเพลงได้ หรือซ่อนเป็นพื้นหลัง และทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือ copy code คนอื่นมาใช้ - การเผยแพร่ file ให้ download ทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือฝากไว้ server คนอื่น สามารถทำได้ - เผยแพร่เนื้อเพลง ต้องระบุชื่อเพลงและชื่อผู้ร้องให้ชัดเจน - การใส่เพลงที่ร้องไว้เอง ต้องระบุชื่อผู้ร้องต้นฉบับให้ชัดเจน จึงเรียนมาเพื่อโปรดปฎิบัติตาม มิเช่นนั้นทางบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ จะให้ฝ่ายดูแลลิขสิทธิ์ ดำเนินการเอาผิดกับท่านตามกฎหมายละเมิดลิขสิทธิ์
OKNATION
กฎกติกาการเขียนเรื่องและแสดงความคิดเห็น
1 การเขียน หรือแสดงความคิดเห็นใด ๆ ต้องไม่หมิ่นเหม่ หรือกระทบต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ หรือกระทบต่อความมั่นคงของชาติ
2. ไม่ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่นในทางเสียหาย หรือสร้างความแตกแยกในสังคม กับทั้งไม่มีภาพ วิดีโอคลิป หรือถ้อยคำลามก อนาจาร 3. ความขัดแย้งส่วนตัวที่เกิดจากการเขียนเรื่อง แสดงความคิดเห็น หรือในกล่องรับส่งข้อความ (หลังไมค์) ต้องไม่นำมาโพสหรือขยายความต่อในบล็อก และการโพสเรื่องส่วนตัว และการแสดงความคิดเห็น ต้องใช้ภาษาที่สุภาพเท่านั้น 4. พิจารณาเนื้อหาที่จะโพสก่อนเผยแพร่ให้รอบคอบ ว่าจะไม่เป็นการละเมิดกฎหมายใดใด และปิดคอมเมนต์หากจำเป็นโดยเฉพาะเรื่องที่มีเนื้อหาพาดพิงสถาบัน 5.การนำเรื่อง ภาพ หรือคลิปวิดีโอ ที่มิใช่ของตนเองมาลงในบล็อก ควรอ้างอิงแหล่งที่มา และ หลีกเลี่ยงการเผยแพร่สิ่งที่ละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบหรือวิธีการใดก็ตาม 6. เนื้อหาและความคิดเห็นในบล็อก ไม่เกี่ยวข้องกับทีมงานผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซต์ โดยถือเป็นความรับผิดชอบทางกฎหมายเป็นการส่วนตัวของสมาชิก คลิ้กอ่านเงื่อนไขทั้งหมดที่นี่"
OKnation ขอสงวนสิทธิ์ในการปิดบล็อก ลบเนื้อหาและความคิดเห็น ที่ขัดต่อความดังกล่าวข้างต้น โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของบล็อกและเจ้าของความคิดเห็นนั้นๆ
|
||
![]() ![]() |
<< | กันยายน 2008 | >> | ||||
อา | จ | อ | พ | พฤ | ศ | ส |
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | |
7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 |
14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 |
21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 |
28 | 29 | 30 |