*/
<< | พฤษภาคม 2009 | >> | ||||
อา | จ | อ | พ | พฤ | ศ | ส |
1 | 2 | |||||
3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 |
17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 |
24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 |
31 |
หลังจากกลับลงมาจากเหมืองปิล๊อก..เราวางแผนกันไว้อีกว่าเราควรจะกลับเข้าไปเที่ยวในตัวจังหวัดกาญจนบุรีบ้างดีกว่า..(ลูกสาวอยากไปเดินเที่ยวถนนคนเดินบ้านปากแพรก)ระหว่างทางมีที่เที่ยวที่ไหนก็จะแวะไปเรื่อยๆ ไม่ต้องรีบร้อนเพราะเราจะพักกันที่ตัวเมืองกาญจน์อีกหนึ่งคืน..ตกลงกันเป็นที่เรียบร้อยเช้าวันรุ่งขึ้นเราต้องอำลาเขื่อนเขาแหลมหรืออีกชื่อหนึ่งคือเขื่อนวชิราลงกรณ..ลาก่อนทองผาภูมิแล้วคงได้กลับมาเยือนอีก..แน่นอนค่ะ ตลอดเส้นทาง..มองหาแหล่งท่องเที่ยว..ตั้งใจและอยากแวะมากที่สุดคือน้ำตกไทรโยคใหญ่ ไม่นานนักเราก็มาถึงน้ำตกไทรโยค หรือเรียกอีกชื่อว่าน้ำตกเขาโจน..ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติไทรโยค สองสาวไม่รอช้า..อยากจะเห็นน้ำตกจังเลย สภาพพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นภูเขาหินปูนประกอบด้วยพื้นที่ป่าเบญจพรรณและป่าดิบแล้ง..มีแหล่งศึกษาประวัติศาสตร์..มากมายเคยเป็นที่พักแรมของทหารญี่ปุ่น แพที่ให้บริการนักท่องเที่ยว..และเรือบริการนักท่องเที่ยวเช่าเหมาลำ 300 บาท พานั่งรอบๆบริเวณอุทยาน สะพานแขวน ดูชำรุดทรุดโทรมไปมากเลยค่ะ..เห็นแล้วน่ากลัวจริงๆในป้ายกำหนดไว้ว่าห้ามเดินเกิน ห้าคน..อิอิ..เราสามคนน้ำหนักก็คงเกือบๆห้าคนสินะคะ.. ข้ามสะพานมาฝั่งตรงข้ามจะเห็นน้ำตกไทรโยค(ใหญ่)ได้ชัดเจน สะพานแขวนมองย้อนกลับไปจากอีกฝั่งหนึ่งของแม่น้ำ จากนั้นเราเลือกที่จะเดินไปชมเตาหุงข้าวทหารญี่ปุ่น..ในสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง ปี พ.ศ. 2484 กองทหารญี่ปุ่นยกพลขึ้นบกที่ประเทศไทยเพื่อที่จะเข้าตีกองทัพพม่ามีการจัดสร้างเส้นทางรถไฟสายมรณะเพื่อ เคลื่อนย้ายกำลังพล อาวุธ ยุทธโธปกรณ์โดยยึดพื้นที่บริเวณ น้ำตกไทรโยคเป็นสถานที่หุงหาอาหาร ค่ายพัก ค่ากักกันเชลยศึก เป็นสถานที่หลบภัยดังปรากฎซากเตาหุงอาหาร ทางรถไฟ ร่องรอยประวัติศาตร์ให้เห็นจนถึงทุกวันนี้ พุต้นน้ำ เมื่อฝนตกลงมาถึงพื้นดินซึมซับลงสู่ใต้ผิวดินกลายเป็นน้ำใต้ดิน ซึ่งจะมีคุณสมบัติเป็นกรดคาบอร์นิก ไหลผ่านตามรอยแยกของหินปูนซึ่งประกอบไปด้วยแร่แคลไซด์ ซึ่งสามารถถูกทำลายได้ด้วยกรดคาบอร์นิกน้ำใต้ดินไหลผ่านหินปูนไปจนกระทั่งพบชั้นหินที่ไม่ปล่อยน้ำไหลผ่านได้ก็จะไหลบนชั้นหินไปจนพบผิวดินและผุดขึ้นเป็นพุต้นน้ำ ไหลเป็นลำธารต่อไป พุต้นน้ำแห่งนี้เป็นต้นกำเนิดน้ำตก 2 แห่ง คือน้ำตกไทรโยคใหญ่และน้ำตกไทรโยคน้อย แวะดูถ้ำแก้ว..แต่ห้ามเข้าเลยอดดูค้างคาวกิตติ ค้างคาวที่เล็กที่สุดเลยค่ะ เถาวัลย์ยักษ์..ใหญ่จริงนะคะ..รูปร่างสวยแปลกตาดีค่ะเลยเก็บภาพเอามาให้ชม เดินต่อไป..พาไปดูฐานรถไฟค่ะ ทางเดินร่มรื่นไปดูกอไผ่..โค้งเป็นอุโมงค์สวยมากเลยค่ะ ฐานสะพานรถไฟสร้างด้วยคอนกรีตเสริมเหล็กในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ระหว่างปี พ.ศ.2484-2488 เพื่อเชื่อมทางรถไฟสายมรณะ ไปยังประเทศพม่า ส่วนหนึ่งของเส้นทางผ่านเข้ามาในพื้นที่อุทยานแห่งชาติไทรโยค เลียบลำน้ำแควน้อยไปถึงด่านเจดีย์สามองค์ สังขละบุรี ในการก่อสร้างรถไฟครั้งนั้นใช้เชลยศึกกว่า 200,000 คน มีเชลยศึกเสียชีวิตจากไข้มาลาเรียและเหตุทางสงครามกว่า 40,000 คน ในการก่อสร้างต้องยุติกลางคัน เนื่องจากญี่ปุ่นแพ้สงครามในปี พ.ศ. 2486 เดินกันจนเหนื่อย..ได้ความรู้มากมาย..ก่อนกลับออกจากอุทยานฯแวะทานข้าวเหนียวไก่ย่าง ส้มตำกันค่ะ บ้านพักสวยๆ ร่มรื่นท่ามกลางสวนป่า..ของอุทยานค่ะ เจอร้านค้าขายดอกกล้วยไม้ป่าสวยๆจอดเก็บภาพมาฝากค่ะ.. ได้ยินเสียงคุยกระซิบกัน..*นี่ดีนะพี่นิล เราต้องอยู่อีกหลายวัน..ไม่งั้นเราสองคนคงต้องแบ่งที่นั่งให้เจ้าดอกพวกนี้แน่ๆเล๊ย!!* เดินทางต่อ..ค่ะ ชอบเส้นทางนี้มากค่ะ..สองข้างทางสวยจริงๆภูเขารูปร่างแปลกๆ ลอดซุ้มอุโมงค์ก่อนถึงสถานีรถไฟถ้ำกระแซ..รถไฟสายมรณะ มีสินค้าให้เลือกซื้อมากมาย (ส่วนมาที่เห็นมาจากเจียงใหม่ล่ะเจ้า) บางส่วนมาจากพม่าค่ะ ทางรถไฟสายมรณะ สร้างขึ้นในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ใช้เวลาในการสร้างเสร็จเพียง 1 ปี ตั้งแต่เดือนตุลาคม พ.ศ. 2485 ถึงเดือนตุลาคม พ.ศ. 2486 เพื่อใช้เป็นเส้นทางยุทธศาสตร์ผ่านประเทศพม่า หลังสงครามทางรถไฟบางส่วนถูกรื้อทิ้ง บางส่วนจมอยู่ใต้อ่างเก็บน้ำเขื่อนวชิราลงกรณ์ ทางรถไฟสายนี้ถือเป็นอนุสรณ์ให้รำลึกถึงเหตุการณ์สงครามในครั้งนั้น เนื่องจากน้ำพักน้ำแรงของการบุกเบิกก่อสร้าง เป็นของทหารเชลยศึกฝ่ายสัมพันธมิตร ที่กองทัพญี่ปุ่นเกณฑ์มา เหตุที่ทางรถไฟสายนี้ได้ชื่อว่า ทางรถไฟสายมรณะ ก็เพราะว่า ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยกองทัพญี่ปุ่นได้เกณฑ์เชลยศึกฝ่ายสัมพันธมิตร ได้แก่ ทหารอังกฤษ อเมริกัน ออสเตรเลีย ฮอลันดาและนิวซีแลนด์ ประมาณ 61,700 คนและกรรมกรชาวจีน ญวน ชวา มลายู ไทย พม่า อินเดีย อีกจำนวนมากมาก่อสร้างทางรถไฟสายยุทธศาสตร์ เพื่อเป็นเส้นทางผ่านไปสู่ประเทศพม่า เพื่อลำเลียงอาวุธยุทโธปกรณ์ รวมทั้งกำลังพล เพื่อจะไปโจมตีพม่าและอินเดียต่อไป ซึ่งขณะนั้นเป็นดินแดนอาณานิคมของอังกฤษ เส้นทางช่วงหนึ่งจะต้องข้ามแม่น้ำแควใหญ่จึงต้องมีการสร้างสะพานขึ้น การสร้างสะพานและทางรถไฟสายนี้เต็มไปด้วยความยากลำบาก ความทารุณของสงครามและโรคภัยตลอดจนการขาดแคลนอาหาร ทำให้เชลยศึกจำนวนหลายหมื่นคนต้องเสียชีวิตลง เส้นทางรถไฟสายนี้เป็นอนุสรณ์ของโลกที่จารึกความโหดร้ายทารุณของสงครามโลกครั้งที่ 2 และเป็นอนุสรณ์แก่ผู้เสียชีวิตในสงครามด้วย หลังจากชมและอ่านประวัติเรื่องราวรถไฟสายมรณะเสร็จแล้ว..โปรดติดตามตอนต่อไปพวกเราสามคนคุณแม่คุณลูกสาวจะพาไปเที่ยวที่ไหนกันอีกนะคะ..ขอได้รับความขอบพระคุณ..โชคดีและมีความสุขนะคะ..จาก คมยส เจ้า
ขออนุญาตนำบทกลอนของคุณ moonlight ที่เข้ามาเที่ยวชมเอ็นทรีนี้แล้วแต่งกลอนให้..คมยส ขอรับไว้ด้วยความปลื้มใจค่ะ ชมไทรโยคโตรกน้ำงามเหลือแสน |
ถึง บล็อกเกอร์ ทุกท่าน โปรดอ่าน
ด้วยทาง บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ได้ติดต่อขอความร่วมมือ มายังเว็บไซต์และเว็บบล็อกต่าง ๆ รวมไปถึงเว็บบล็อก OKnation
ห้ามให้มีการเผยแพร่ผลงานอันมีลิขสิทธิ์ ของบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ บนเว็บ blog โดยกำหนดขอบเขตของสิ่งที่ห้ามทำ และสามารถทำได้ ดังนี้
ห้ามทำ - การใส่ผลงานเพลงต้นฉบับให้ฟัง ทั้งแบบควบคุมเพลงได้ หรือซ่อนเป็นพื้นหลัง และทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือ copy code คนอื่นมาใช้ - การเผยแพร่ file ให้ download ทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือฝากไว้ server คนอื่น สามารถทำได้ - เผยแพร่เนื้อเพลง ต้องระบุชื่อเพลงและชื่อผู้ร้องให้ชัดเจน - การใส่เพลงที่ร้องไว้เอง ต้องระบุชื่อผู้ร้องต้นฉบับให้ชัดเจน จึงเรียนมาเพื่อโปรดปฎิบัติตาม มิเช่นนั้นทางบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ จะให้ฝ่ายดูแลลิขสิทธิ์ ดำเนินการเอาผิดกับท่านตามกฎหมายละเมิดลิขสิทธิ์
OKNATION
กฎกติกาการเขียนเรื่องและแสดงความคิดเห็น
1 การเขียน หรือแสดงความคิดเห็นใด ๆ ต้องไม่หมิ่นเหม่ หรือกระทบต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ หรือกระทบต่อความมั่นคงของชาติ
2. ไม่ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่นในทางเสียหาย หรือสร้างความแตกแยกในสังคม กับทั้งไม่มีภาพ วิดีโอคลิป หรือถ้อยคำลามก อนาจาร 3. ความขัดแย้งส่วนตัวที่เกิดจากการเขียนเรื่อง แสดงความคิดเห็น หรือในกล่องรับส่งข้อความ (หลังไมค์) ต้องไม่นำมาโพสหรือขยายความต่อในบล็อก และการโพสเรื่องส่วนตัว และการแสดงความคิดเห็น ต้องใช้ภาษาที่สุภาพเท่านั้น 4. พิจารณาเนื้อหาที่จะโพสก่อนเผยแพร่ให้รอบคอบ ว่าจะไม่เป็นการละเมิดกฎหมายใดใด และปิดคอมเมนต์หากจำเป็นโดยเฉพาะเรื่องที่มีเนื้อหาพาดพิงสถาบัน 5.การนำเรื่อง ภาพ หรือคลิปวิดีโอ ที่มิใช่ของตนเองมาลงในบล็อก ควรอ้างอิงแหล่งที่มา และ หลีกเลี่ยงการเผยแพร่สิ่งที่ละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบหรือวิธีการใดก็ตาม 6. เนื้อหาและความคิดเห็นในบล็อก ไม่เกี่ยวข้องกับทีมงานผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซต์ โดยถือเป็นความรับผิดชอบทางกฎหมายเป็นการส่วนตัวของสมาชิก คลิ้กอ่านเงื่อนไขทั้งหมดที่นี่"
OKnation ขอสงวนสิทธิ์ในการปิดบล็อก ลบเนื้อหาและความคิดเห็น ที่ขัดต่อความดังกล่าวข้างต้น โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของบล็อกและเจ้าของความคิดเห็นนั้นๆ
|
||
![]() ![]() |