*/
<< | พฤษภาคม 2009 | >> | ||||
อา | จ | อ | พ | พฤ | ศ | ส |
1 | 2 | |||||
3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 |
17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 |
24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 |
31 |
จากน้ำตกไทรโยค.. สะพานรถไฟมรณะ..มาเที่ยวกันต่อที่อุทยานประวัติศาตร์เมืองสิงห์ ค่ะ ปราสาทเมืองเสิงห์มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์และโบราณคดี เพราะเป็นหลักฐานที่สำคัญที่จะสะท้อนให้เห็นถึงอารยธรรมช่วงหนึ่งของมนุษย์ที่เคยมีบทบาทในดินแดนแถบจังหวัดกาญจนบุรีมาแล้วในอดีต ปราสาทเมืองสิงห์เป็นโบราณสถานซึ่งที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกสุดของประเทศไทยที่ได้รับรูปแบบทางศาสนาและวัฒนธรรมจากประเทศกัมพูชาเมื่อประมาณพุทธศตวรรษที่ 18-19 หรือประมาณ 800 ปีมาแล้ว รูปแบบทางสถาปัตกรรมและปฎิมากรรมเหล่านี้มีลักษณะคล้ายคลึงกับศิลปแบบบายนในสมัยของพระเจ้าชัยวรมันที่ 7(พ.ศ.1720-1780) แต่มีลักษณะของท้องถิ่นผสมอยู่ด้วย โบราณสถานแห่งนี้เป็นโบราณสถานต่อเนื่องในศาสนาพุทธลัทธิมหายาน ศิลปกรรมรูปเคารพที่สำคัญที่พบได้แก่พระพุทธรูปนางปรก พระโพธิสัตว์อวโลกิ-เตศวรและนางปรัชญาปารมิตตา ซึ่งรูปเคารพทั้งสามนี้เรียกว่า **รัตนตรัยมหายาน** นอกจากนี้ยังพบพระโพธิสัตว์อวโลกิ-เตศวรเปล่งรัศมีอีกองค์หนึ่งมีลักษณะคล้ายคลึงกับที่พบ ณ ปราสาทเปรียถกลในประเทศกัมพูชา ศิลาจารึกพบที่ปราสาทพระขรรค์เมืองพระนครประเทศกัมพูชา มีชื่อเมืองหนึ่งคือ*ศรีชยสิงหปุรี* ซึ่งนักวิชาการส่วนหนึ่งเชื่อว่าคือปราสาทเมืองสิงห์ในปัจจุบันค่ะ ชื่อของเมืองสิงห์ จากหลักฐานทางด้านเอกสารที่พบในประเทศ ไม่ปรากฎชื่อในทำเนียบศักดินาหัวเมืองในสมัยกรุงศรีอยุธยาเพิ่งจะมีปรากฎในสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ว่าทรงตั้งเมืองสิงห์เป็นเมืองหน้าด่านขึ้นอยู่กับเมืองกาญจนบุรี กรมศิลปกรได้ประกาศขึ้นทะเบียนปราสาทเมืองสิงห์เป็นโบราณสถานแห่งชาติตั้งแต่ วันที่ 8 มีนาคม 2478 ต่อมาปี พ.ศ. 2517 กรมศิลปกรได้ดำเนินการตกแต่งบูรณะจนแล้วเสร็จและเปิด อุทยานประวัติศาสตร์เมืองสิงห์อย่างเป็นทางการ ในวันที่ 3 เมษายน 2530 แบ่งเป็นโบราณสถานหมายเลข 1. เป็นอาคารขนาดใหญ่และสมบูรณ์ที่สุด สร้างด้วยศิลาแลง มีลวดลายปูนปั้น หันหน้าไปทางทิศตะวันออก ประกอบด้วยกำแพงล้อมรอบ ยกพื้นเป็นชานรูปกากบาดปูพื้นด้วยศิลาแลง ตัวประสาทประกอบด้วยระเบียงมีซุ้มประตู(โคปุระ) ทั้งสี่ทิศ มีร่องรอยของการตั้งรูปเคารพ โบราณสถานหมายเลข 2 ตั้งอยู่ใกล้กับโบราณสถานหมายเลข 1 เยื้องไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ตั้งอยู่บนฐานสูงรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า หันหน้าไปทางทิศตะวันออก สภาพพังทลายมาก มีปรางค์ประธานอยู่ตรงกลาง อาคารบางส่วนใช้เครื่องไม้ประกอบเราะพบหลุมเสารูปกลม และกระเบี้องดินเผามุงหลังคา โบราณสถานหมายเลข 3ซากโบราณสถานขนาดเล็กก่อด้วยอิฐและศิลาแลง สภาพพังทลายไม่เห็นรูปชัดเจน(ไม่ได้เก็บรูปมาค่ะ..เพราะไม่เห็นอะไรนอกจากเศษศิลาแลงนิดหน่อย) โบราณสถานหมายเลข 4 ซากโบราณสถานก่อด้วยศิลาแลงลัษณะเป็นฐานอาคารรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า พบแท่นฐานรูปเคารพหินทรายในอาคารด้านทิศเหนือ (ไม่ได้แวะเก็บภาพเช่นกันค่ะ) หลุมฝังศพมนุษย์ก่อนประวัติศาสตร์ บริเวณนอกกำแพงเมืองด้านทิศใต้ ติดกับแม่น้ำแควน้อยพบโครงกระดูกมนุษย์สมัยก่อนประวัติศาสตร์อายุประมาณ 2,000 ปีฝังรวมกับภาชนะสำริด เครื่องมือเหล็ก ภาชนะดินเผาเครื่องประดับจากเปลือกหอย ลูกปัดหินและลูกปัดแก้ว ออกจากอุทยานประวัติศาสตร์เมืองสิงห์ เลือกใช้เส้นทางเดิมที่จะไปเมืองกาญจน์..เพราะเราจะแวะเที่ยวพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติบ้านเก่ากันต่อค่ะ..ภาพวิวสองข้างทางสวยด้วยภูเขารูปร่างแปลกตาค่ะ ไม่นานนักก็มาถึงค่ะ..ตามไปชมกันต่อเลยดีกว่า พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติบ้านเก่า กรมศิลปกรได้จัดตั้งขึ้นในบริเวณที่เคยเป็นที่พักแรมระหว่างการขุดค้นเพื่อเก็บและรักษาข้าวของโบราณวัตถุในจังหวัดกาญจนบุรีมาจัดแสดงไว้ที่นี่ หลายๆห้องห้ามไม่ให้ถ่ายรูปค่ะ.. โลงศพ??? จากการสำรวจและขุดค้นโดยคณะสำรวจก่อนประวัติศาสตร์ไทยเดนมาร์ก ระหว่างปีพุทธศักราช 2503-2504 ตามถ้ำริมแม่น้ำแควน้อยและแควใหญ่เขตอำเภอไทรโยค อำเภอทองผาภูมิและอำเภอศรีสวัสดิ์ จังหวัดกาญจนบุรีพบโบราณวัตถุเป็นท่อนซุงส่วนใหญ่เป็นไม้ประดู่ ยาวประมาณ 2-3 เมตร ผ่าครึ่งขุดเอาตรงกลางออกส่วนหัวส่วนท้ายแกะเป็นรูปคล้ายศรีษะคนหรือสัตว์วางอยู่อย่างกระจัดกระจายตามพื้นถ้ำ ตอนแรกสันนิษฐานว่าเป็นเรือขุดแบบเรือชะล่าหรือรางน้ำหรือโลงศพหรือสิ่งที่ทำขึ้นใช้ในพิธีกรรมที่เกี่ยวเนื่องกับความตาย ปัจจุบันพบโลงศพคล้ายกันนี้ในถ้ำและเพิงผาในเขตจังหวัดแม่ฮ่องสอน(ถ้ำน้ำลอดหรือถ้าผีแมน..คมยสเคยพาเที่ยวนะคะย้อนดูได้ค่ะ)และพบเพิ่มในจังหวัดกาญจนบุรี รวมทั้งพบในประเทศจีน มาเลเซีย เมียนมาร์ และฟิลิปปินส์ สำหรับการกำหนดอายุและการศึกษาถึงผู้เป็นเจ้าของวัฒนธรรมนี้ยังคงต้องศึกษาต่อไป วันนี้เที่ยวแบบศึกษาแต่ข้อมูลกันนะคะรู้สึกหนักไปหน่อย..อิอิพาเที่ยวถนนคนเดินบ้านปากแพรกผ่อนคลายกันต่อเลยดีกว่าค่ะ.. ถูกใจสาวๆกันล่ะคะทีนี้..เที่ยวเดินช้อปกันสนุกไปเลย โครงการถนนคนเดิน 177 ปีบ้านปากแพรกถนนเก่าเล่าเรื่องเมืองกาจน์..ลูกสาวเห็นออกรายการทีวีค่ะก็เลยเป็นอีกหนึ่งที่เราจะต้องมาเที่ยวให้ได้ค่ะ..ถนนสายนี้แตกต่างจากถนนสายอื่นๆของเมืองกาญจน์ มีอาคารบ้านเรือนที่เป็นเอกลักษณ์ ด้วยสถาปัตกรรมตะวันตกผสมจีน โดยใช้เป็นที่พักอาศัยและทำการค้าด้วย ลักษณะร้านค้าและห้องแถวสองชั้นสวยๆ..มักมีมุขด้านหน้า บางหลังตกแต่งหน้าจั่วสวยงามมากค่ะ หน้าต่างสูงคล้ายประตู มีช่องลม บ่างแห่ง ฉลุลวดลายสวยงาม แวะทานไอศรีมกระทิสดค่ะตักใส่ลูกมะพร้าว อร่อยมาก..คนขายแต่งตัวด้วยชุดไทย เป็นการดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาอุดหนุนค่ะ ร้านขายยาสิริโอสถตกแต่งด้วยกระจกสี สวยๆ หลังนี้ตกแต่งด้วยปูนแต่ทำช่องลมทาสีสลับกันสวยแปลกตาดีนะคะ หลังนี้ตกแต่งด้วยลวดลายฉลุ หลังนี้ตกแต่งด้วยลวดลายภาษีจีนค่ะ ลวดลายปูนปั้นและมีชื่อเอาไว้ว่าคงเป็นชื่อนามสกุล เดินชมไปช้อปไปพร้อมกับทานกันไป..แบบนี้ล่ะถูกใจคุณลูกสาว ได้เวลากลับที่พักกันค่ะ..ลาด้วยภาพโรงแรมกาญจนบุรีนะคะ..ขอบพระคุณที่ติดตามชม คมยส เล่าเรื่องเมืองกาญจน์ ยังมีอีกนะคะ(อย่าเพิ่งเบื่อกันเชียวนะ..อิอิ) วันนี้โชคดีและมีความสุขในวันพืชมงคลนะคะ ขอบพระคุณบทกลอนจากคุณแสงจันทร์เจ้า เที่ยวปราสาท เมืองสิงห์ สวยจริงหนอ |
ถึง บล็อกเกอร์ ทุกท่าน โปรดอ่าน
ด้วยทาง บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ได้ติดต่อขอความร่วมมือ มายังเว็บไซต์และเว็บบล็อกต่าง ๆ รวมไปถึงเว็บบล็อก OKnation
ห้ามให้มีการเผยแพร่ผลงานอันมีลิขสิทธิ์ ของบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ บนเว็บ blog โดยกำหนดขอบเขตของสิ่งที่ห้ามทำ และสามารถทำได้ ดังนี้
ห้ามทำ - การใส่ผลงานเพลงต้นฉบับให้ฟัง ทั้งแบบควบคุมเพลงได้ หรือซ่อนเป็นพื้นหลัง และทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือ copy code คนอื่นมาใช้ - การเผยแพร่ file ให้ download ทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือฝากไว้ server คนอื่น สามารถทำได้ - เผยแพร่เนื้อเพลง ต้องระบุชื่อเพลงและชื่อผู้ร้องให้ชัดเจน - การใส่เพลงที่ร้องไว้เอง ต้องระบุชื่อผู้ร้องต้นฉบับให้ชัดเจน จึงเรียนมาเพื่อโปรดปฎิบัติตาม มิเช่นนั้นทางบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ จะให้ฝ่ายดูแลลิขสิทธิ์ ดำเนินการเอาผิดกับท่านตามกฎหมายละเมิดลิขสิทธิ์
OKNATION
กฎกติกาการเขียนเรื่องและแสดงความคิดเห็น
1 การเขียน หรือแสดงความคิดเห็นใด ๆ ต้องไม่หมิ่นเหม่ หรือกระทบต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ หรือกระทบต่อความมั่นคงของชาติ
2. ไม่ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่นในทางเสียหาย หรือสร้างความแตกแยกในสังคม กับทั้งไม่มีภาพ วิดีโอคลิป หรือถ้อยคำลามก อนาจาร 3. ความขัดแย้งส่วนตัวที่เกิดจากการเขียนเรื่อง แสดงความคิดเห็น หรือในกล่องรับส่งข้อความ (หลังไมค์) ต้องไม่นำมาโพสหรือขยายความต่อในบล็อก และการโพสเรื่องส่วนตัว และการแสดงความคิดเห็น ต้องใช้ภาษาที่สุภาพเท่านั้น 4. พิจารณาเนื้อหาที่จะโพสก่อนเผยแพร่ให้รอบคอบ ว่าจะไม่เป็นการละเมิดกฎหมายใดใด และปิดคอมเมนต์หากจำเป็นโดยเฉพาะเรื่องที่มีเนื้อหาพาดพิงสถาบัน 5.การนำเรื่อง ภาพ หรือคลิปวิดีโอ ที่มิใช่ของตนเองมาลงในบล็อก ควรอ้างอิงแหล่งที่มา และ หลีกเลี่ยงการเผยแพร่สิ่งที่ละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบหรือวิธีการใดก็ตาม 6. เนื้อหาและความคิดเห็นในบล็อก ไม่เกี่ยวข้องกับทีมงานผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซต์ โดยถือเป็นความรับผิดชอบทางกฎหมายเป็นการส่วนตัวของสมาชิก คลิ้กอ่านเงื่อนไขทั้งหมดที่นี่"
OKnation ขอสงวนสิทธิ์ในการปิดบล็อก ลบเนื้อหาและความคิดเห็น ที่ขัดต่อความดังกล่าวข้างต้น โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของบล็อกและเจ้าของความคิดเห็นนั้นๆ
|
||
![]() ![]() |