อะไรจะช่วยฟื้นฟูกำลังใจได้มากกว่ากัน ระหว่าง คุยเรื่องนอกตัว  กับ คุยเรื่องในตัว

คมคิด: ปัญหามีไว้ให้แก้ ไม่ใช่มีไว้ให้กลุ้ม

Q: คุณหมอครับ หลายคนอยู่บ้านติดกันแต่ก่อนไม่ค่อยรู้จักกันเท่าไร แต่พอน้ำท่วมก็ได้พูดคุยกันมากขึ้นนะครับ นับได้ว่าเป็นสิ่งดีที่ซ่อนอยู่นะครับ

A: ดร.นพ.ยุทธนา ภาระนันท์...เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ และถ้าเราได้พูดคุยกันแบบเสริมกำลังใจก็ยิ่งดีนะครับ โดยเฉพาะหากมีเวลาสัก 3-5 นาทีพูดคุยกันใน 7 แนวคำถามเหล่านี้จะดีมากครับ ลองดูนะครับ

7 คำถามเสริมพลังใจ (7 Encouragement questioning series) (กรุณาศึกษาเพิ่มเติมที่ www.oknation.net/blog/youthana)

เพื่อฟื้นกำลังใจชนะน้ำท่วม เรามาพูดคุยต่อกันในทำนองนี้ได้แก่...

1. กับเรื่องที่เกิดขึ้น ท่านรู้สึกอย่างไรบ้าง

2. ที่ผ่านมา ท่านรับมืออย่างไร

3. อะไรที่เมื่อท่านได้ทำแล้ว รู้สึกว่าได้ผล (เข้าท่า ไม่เลวทีเดียว)

4. ท่านเคยเจอเรื่องยากๆ คล้ายๆ แบบนี้มาก่อนบ้างหรือไม่ ครั้งนั้นท่านผ่านมาได้อย่างไร จะนำมาประยุกต์ต่อยอดในครั้งนี้ได้อย่างไร

5. อะไรทำให้ท่านสามารถยืนหยัดอยู่ได้ จนถึงวันนี้

6. ท่านได้รับความช่วยเหลือจากใคร แหล่งใดบ้าง เขาช่วยอย่างไร ทำให้ท่านรู้สึกอย่างไร

7. วันนี้ ฉันได้เรียนรู้จากท่านมากจริงๆ ขอบคุณมากครับ แล้วถ้าเปลี่ยนได้ ท่านอยากให้เรื่องนี้ลงเอยอย่างไร ท่านจะเริ่มต้นอย่างไรดี

ข้อเสนอแนะ: ชุดคำถามเหล่านี้จะช่วยฟื้นความเชื่อมั่นในสมรรถนะของตน (Self efficacy) และความหวัง (Hope) ซึ่งเป็น 2 ใน 4 องค์ประกอบของพลังคิดบวก เพื่อเสริมกำลังใจชนะวิกฤต ให้ท่านฝึกพูดกับตนเองเชิงบวก (Positive Self Talk) โดยกล่าวออกเสียงอย่างมีความหมาย (เซลสมองจะทำงานได้ดีเมื่อปากพูดสิ่งที่ออกมาจากใจ) ดังนี้

“มีวาระสำหรับทุกสิ่ง มีวาระสุขสบาย มีวาระทุกข์ลำบาก

แต่ใจที่ร่าเริงมีการเลี้ยงต่อเนื่องกัน  

ฉันจึงเลือกเสริมกำลังใจด้วยความระวังระไวรอบด้าน

เพราะชีวิตเริ่มต้นออกมาจากใจ”

ท่านใดสนใจพัฒนาสมอง 2 ซีก พบได้ใน หลักสูตรต่างๆ ได้แก่ เพิ่มผลผลิตอย่างเหนือชั้น...ด้วย Creative Thinker Map, 7 Habits Plus เพื่อภาวะผู้นำที่เหนือชั้น กรุณาติดต่อ คุณอมร ลือพร้อมชัย T. 08 1573 7546;(amorn@howareyou.co.th)

“จงเชื่อในสิ่งที่มี แล้วท่านจะมีในสิ่งที่เชื่อ” ท่านเห็นด้วยหรือไม่?

-----